อึ้ง!ขอนแก่นคลิปมัดชัด ขบวนการโกงเงินคนจน


เพิ่มเพื่อน    

     “บิ๊กฉัตร” ยันย้ายบิ๊ก พม.ไม่ได้ย้ายขาด  สั่งรัฐมนตรีเร่งปลอบขวัญข้าราชการ “ทิชา” บี้ผู้ใหญ่ออกตัวมาป้องนิสิต ม.มหาสารคามที่กล้าหาญ สื่อขอนแก่นถึงกับอึ้ง! มือมืดดอดส่งคลิป-ภาพจะจะผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมแก๊งร่วมขบวนการปลอมลายเซ็น ส่วนอดีตลูกจ้างที่ถูกบีบให้ออกพึ่งศาลปกครองแล้ว 
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคำสั่งนายกรัฐมนตรีสั่งย้ายนายพุฒิพัฒน์ เชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ว่าเป็นการสั่งย้ายไปเพื่อเปิดทางให้สอบข้อเท็จจริงกรณีมีการทุจริตเงินช่วยเหลือคนยากไร้ให้โปร่งใส เพราะทั้ง 2 คนมีชื่อตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รายงานมา การย้ายถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้ขาดจากตำแหน่งปัจจุบัน โดยการตรวจสอบจะเป็นไปตามกระบวนการ และขออย่าไปเร่งรัดมาก
“ได้กำชับไปยัง รมว.พัฒนาสังคมฯ แล้วในเรื่องการดูแลขวัญกำลังใจของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ว่าทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี คนที่ทำดีเราก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไป ส่วนคนที่ทำไม่ดีก็ต้องลงโทษ” พล.อ.ฉัตรชัยระบุ
ส่วน พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศนั้นมีอีกหลายจังหวัด โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ให้มีชัดเจนมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ป.ป.ท.ได้ส่งชุดเฉพาะกิจ 15 ชุดลงพื้นที่ตรวจสอบทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งชุดทำงานแต่ละชุดอยู่ระหว่างทำรายงานสรุปผลการตรวจสอบเพื่อให้มองเห็นภาพรวมทั้งประเทศ ว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง และต้องขยายผลในส่วนใดเพิ่มเติมอีก
ขณะที่นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและสตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.ปณิตา ยศปัญญา นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งออกมาเปิดเผยข้อมูลและพฤติกรรมของผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น จนทำให้ครอบครัวญาติพี่น้องถูกคุกคาม รวมถึงถูกอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางคนตำหนิว่าสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันว่า ผู้ใหญ่ที่อยู่ในทั้งระดับมหาวิทยาลัย ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ต้องส่งสัญญาณให้เห็นว่าน้องต้องไม่ถูกกดดัน ต้องไม่ถูกทำให้รู้สึกว่าน้องไม่มีที่ยืนที่ปลอดภัย เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ
        “ผู้ใหญ่ต้องรีบออกมาพูด ออกมาปกป้อง พูดจนกระทั่งใครก็ตามที่จะรังแกน้องต้องถอย ไม่ใช่น้องต้องถอย อย่าปล่อยให้น้องโดดเดี่ยว เพราะน้องยังเด็กเกินไปที่มีพลังขนาดนั้น เป็นเรื่องของมหาวิทยาลัย ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ และรัฐบาลที่ต้องส่งสัญญาณเป็นเกราะป้องกันให้น้อง เพราะการเปิดประเด็นของน้องคือการเปิดโมเมนตัมที่แรงมาก ต้องขอคารวะ” นางทิชากล่าว
วันเดียวกัน ช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวได้รับเอกสารจากผู้หวังดีที่นำส่งมายังสำนักงานข่าว ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 397/22 ถ.รถไฟ  ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น โดยวางไว้บริเวณประตูทางเข้า ซึ่งห่อหุ้มมาด้วยซองสีน้ำตาลอย่างมิดชิด โดยเป็นแผ่นซีดี และเมื่อเปิดดูพบว่าเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของนางพวงพยอม จิตรคง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ที่กำลังมีเรื่องร้องเรียนอยู่ในขณะนี้ 
และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีภาพเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ช่วยกันขนเอกสารจำนวนมากจากศูนย์คุ้มครองฯ ไปขึ้นรถของนางพวงพยอมเพื่อนำกลับไปที่บ้านพักส่วนตัว โดยมีน้องสาวของนางพวงพยอม และเจ้าหน้าที่บางส่วนอยู่ภายในบ้านพัก เพื่อร่วมกันปลอมลายมือชื่อของชาวบ้านลงในใบสำคัญรับเงิน  และปลอมแปลงเอกสารทางการเงินและเอกสารต่างๆ  เกี่ยวกับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยเอดส์ของ พม. อีกทั้งในภาพยังคงมีการบันทึกภาพข้อความและลายมือชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่คล้ายกับเป็นคนคนเดียวกันเขียน
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพจากซีดีดังกล่าวทั้งหมด พบว่าเป็นภาพเอกสารจำนวนมากวางอยู่บนโต๊ะเป็นกองใหญ่ มีเครื่องปรินต์และอุปกรณ์ต่างๆ โดยที่น้องสาวของผู้อำนวยการสวมชุดเหลืองจะทำหน้าที่ปลอมลายมือชื่อและลายเซ็นลงในใบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และใบสำคัญรับเงิน ส่วนเจ้าหน้าที่อื่นๆ ก็ช่วยกันในลักษณะที่คล้ายกัน รวมทั้งการช่วยกันกรอกข้อมูลลงในแบบสำรวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคม โดยทุกคนจะช่วยกันกรอกข้อมูลโดยปลอมข้อมูลต่างๆ ขึ้นเพื่อให้ดูยากจน โดยสื่อมวลชนเตรียมนำข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดส่งมอบให้กับ ป.ป.ท.เขต 4 ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป 
ขณะที่ น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล อายุ 26 ปี อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากที่ถูกเลิกจ้างจากศูนย์ฯ โดยไม่เป็นธรรม ซึ่งสาเหตุมาจากการไม่ยอมร่วมมือในการปลอมแปลงเอกสารและร่วมขบวนการการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ จึงได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลปกครองขอนแก่น โดยศาลได้ประทับรับฟ้องและเข้าสู่ขั้นตอนของการไต่สวนแล้ว
"ในช่วงปีงบประมาณ 2559-2560 ที่ยังเป็นลูกจ้างของศูนย์ฯ อยู่ เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ปลอมลายเซ็นชาวบ้าน โดยนำลายเซ็นของชาวบ้านที่รับรองสำเนามาถูกต้องไปแปะที่กระจกใสที่มีแสงส่องแล้วจะมองเห็นเป็นลายเซ็น แล้วให้เขียนตามลงในเอกสารเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยเอดส์ เมื่อพบอย่างนั้นจึงตัดสินใจแน่ชัดว่าจะไม่ทำอีก เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และผิดกฎหมาย พอไม่ยอมทำตามก็ถูกกดดันจากผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ ทั้งกิริยาและคำพูด จนกระทั่งถูกเลิกจ้างดังกล่าว" น.ส.ณัฐกานต์ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"