ครม.ประยุทธ์ 2/1 ยังไม่สะเด็ดน้ำ "สายใต้-อีสาน พปชร." ขยับขอมีบทบาทด้านบริหาร "กลุ่มด้ามขวานไทย" จี้ขอตำแหน่ง รมต.เพื่อคนใต้บ้าง "เอกราช" นัด ส.ส.อีสาน 18 มิ.ย.ถกท่าทีหลังแกนนำพรรคไม่มีเสียงตอบรับ "สมศักดิ์" โต้ตั้งก๊วนต่อรองเก้าอี้ ซัดพวกปล่อยข่าวโจมตี ลั่นไม่หยุดฟ้องแน่ "ชัช เตาปูน" ลั่นไม่เคยรวมเสียงบีบขอตำแหน่ง "ปชป." ส่งชื่อ 7 รัฐมนตรีถึงมือบิ๊กตู่ "จุรินทร์" การันตีคุณสมบัติ "นิพนธ์" ผ่านพิจารณาเบื้องต้นแล้ว
การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/1 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ยังคงไม่นิ่งในหลายๆ ตำแหน่ง แม้รายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลจะถูกส่งถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาแล้ว อาทิ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังคงเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคเกี่ยวกับตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงปฏิเสธว่ายังไม่ได้ตัดสินใจจะอยู่ช่วยงานเป็นรัฐมนตรีต่อในรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 หรือไม่ รวมทั้งปฏิเสธว่าไม่ได้ลาราชการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อรักษาตัว โดยระบุว่า "ไม่มีๆ เลย ลาที่ไหนล่ะ"
ขณะที่กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในนาม "กลุ่มด้ามขวานไทย” ประกอบด้วย นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง ในฐานะประธานกลุ่ม, นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายสายันห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายสุภา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต, นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา, ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้จำนวนหนึ่ง ได้เปิดที่ทำงานกลุ่มส.ส.ภาคใต้ บริเวณแยกถนนพิชัย ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.
นายนิพันธ์กล่าวว่า กลุ่มได้รวมตัวมาก่อนจะเกิดพรรค พปชร. เมื่อตอบรับร่วมงานกับพรรค พปชร.ก็ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ได้ ส.ส.ถึง 13 ที่นั่ง เมื่อจะมีการจัดตั้งรัฐบาลในเร็วๆ นี้ ทำให้ประชาชนทวงถามว่ากลุ่มเราจะมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศอย่างไร ซึ่งจุดประสงค์ของการเปิดที่ทำการกลุ่มเพื่อทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ให้ทุกคนรับทราบว่ามีกลุ่มของเราอยู่และพรรคจะหันกลับมาให้ความสำคัญกับเรา
"บุคคลที่จะเสนอให้เป็นรัฐมนตรีของกลุ่มคือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องได้ตำแหน่งในกระทรวงใดเป็นพิเศษ และถึงจะไม่ได้รับการพิจารณาไม่มีปัญหาอะไร และการเปิดศูนย์ในวันนี้ผู้ใหญ่ในพรรค พปชร.ก็รับทราบและไม่มีปัญหาอะไร แม้กลุ่มเราจะไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเลยแม้แต่ตำแหน่งเดียวก็ไม่มีปัญหา เราแค่แสดงเหตุผลให้เห็นว่าการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีควรคำนึงถึงสัดส่วนภาคต่างๆ ภายในพรรคด้วย ยืนยันว่าวันนี้ไม่ใช่การตีรวน เพราะผมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคมา ก็จะทำงานกับพรรคนี้ต่อไป" นายนิพันธ์กล่าว
ถามว่า ถ้าไม่ได้ตำแหน่งจะทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร ประธานกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พรรค พปชร.กล่าวว่า เชื่อว่าผลกระทบมีอยู่แล้ว อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าพรรค พปชร.ในภาคใต้อาจสูญพันธุ์ วิธีการแก้คือต้องขยันทำงานให้มากขึ้น
นายสายันห์กล่าวเสริมว่า เราเปิดตัวที่ทำการของกลุ่มของเราไม่ได้ตีรวน แต่เพราะไม่มีที่ทำงานของ ส.ส.ภาคใต้ และสถานที่แห่งนี้ใกล้กับรัฐสภา เวลามีประชุมจะได้หารือก่อนประชุมสภาฯ และเราเป็นพรรคเดียวที่ได้ ส.ส.ทุกภาค ที่ผ่านมาเรามาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และให้อิสระในการตัดสินใจเลือกคณะรัฐมนตรี ในเมื่อเรามี ส.ส.ทั่วภูมิภาครวมถึงภาคใต้ จึงเห็นว่าควรมีรัฐมนตรีในส่วนของกลุ่มเข้าไปบริหารงานด้วย
"ส.ส.ในกลุ่มเป็นรัฐมนตรีได้ทุกคน ยืนยันเราไม่ได้มากดดันเรียกร้องเป็นรัฐมนตรี ถึงไม่มีชื่อ พ.อ.สุชาติหรือชื่อบุคคลในกลุ่มเป็นรัฐมนตรีก็ไม่เป็นอะไร ภาคใต้สามัคคีกันร้อยเปอร์เซ็นต์" ส.ส.นครศรีธรรมราชกล่าว
'ใต้-อีสาน' พปชร.ยังขยับ
ส่วนนายรงค์กล่าวว่า เราจะไม่ทำตัวเป็นปัญหาต่อการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ และบอกว่าท่านจะคัดเลือกคนที่มีศักยภาพมาเป็นรัฐมนตรี เห็นหน้าแล้วไม่ยี้ ให้เป็นที่พอใจและเป็นความหวังของประชาชนได้ และหวังว่าคณะรัฐมนตรีภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 จะแตกต่างจากหน้าตา ครม.ปี 2540 และ 2550 และการที่เราเสนอชื่อ พ.อ.สุชาติ ไม่ใช่การต่อรองกับพรรค แต่เป็นข้อเสนอของกลุ่ม นายกฯ มีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือไม่เลือกก็ได้
"เราไม่ต้องการเอาสถานการณ์ที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำมาสร้าง แล้วทำให้รัฐบาลมีปัญหาในการขับเคลื่อนนโยบาย เพราะตอนนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและรอให้มีรัฐมนตรีชุดใหม่ หากเราหรือกลุ่มอื่นต่อรองมากขึ้น การตั้งรัฐบาลจะลำบาก ปัญหาของประชาชนจะไม่ได้รับการแก้ไข เราจะไม่ทำให้เกิดปัญหาในการตั้งรัฐบาล หากข้อเสนอไม่ได้รับการตอบรับ ทางกลุ่มก็ยืนยันที่จะอยู่กับพรรค พปชร.และยังทำกิจกรรมร่วมกับพรรค การไม่ได้รัฐมนตรีไม่ถึงว่าเสียหน้า แต่ต้องอธิบายประชาชนมากขึ้น เพราะประชาชนในภาคใต้อยากได้รัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหา" ส.ส.นครศรีธรรมราชผู้นี้ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มด้ามขวานไทยนั้น ก่อนหน้านี้ได้ล่าชื่อจำนวน 13 คน พร้อมกับเสนอชื่อ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฐมนตรีในโควตาผ่านบิ๊กรัฐบาลไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ แต่หลังจากมีการโปรดเกล้าฯ พล.อ.อกนิษฐ์ไปเป็น ส.ว. จึงได้ยื่นใหม่เป็นครั้งที่ 2 เสนอชื่อ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ไปผ่านบิ๊กรัฐบาลคนเดิม แต่ปรากฏว่าไม่มีการตอบรับการพิจารณา นอกจากขอให้กลุ่มอยู่นิ่งๆ ไว้ก่อน ไม่ต้องเคลื่อนไหว จนล่าสุดปรากฏโผ ครม.ไม่มีชื่อของโควตาของ ส.ส.ภาคใต้
ที่ศูนย์ประสานงานพรรค พปชร. จ.ขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคอีสาน กล่าวว่า จากการที่กลุ่ม ส.ส.อีสานของพรรคได้ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ส.ส.อีสานนั้นอยู่ในกลุ่มสามมิตร ซึ่งในความเป็นจริงนั้นขอยืนยันไม่เป็นความจริง และอีกทั้งไม่ได้เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใด แค่อยากให้ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐได้ยินเสียง ส.ส.ของภาคอีสานตอนบนว่าต้องการอะไร เนื่องจากพรรคได้ส่ง ส.ส.ลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนครบทั้ง 116 เขต ได้ ส.ส.มาทั้งหมด 11 คน แยกเป็น ส.ส.เขต 9 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2 คน แต่ไม่มีจังหวัดใดได้เข้าร่วมบริหารกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เลย
นายเอกราชกล่าวว่า ส.ส.ทั้ง 11 คนทั้งศูนย์ขอนแก่นและศูนย์อุบลราชธานี ซึ่งไม่เกี่ยวกับศูนย์นครราชสีมา ต่างก็มีความคิดตรงกันว่าแม้พรรคไม่ลอยแพ แต่พรรคไม่ใส่ใจ ไม่มีการมอบหมายให้ใครเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการงบประมาณ และขับเคลื่อนนโยบายของพรรคตามที่รับปากประชาชนไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งการออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งนั้นก็เพื่อยืนยันว่าขอเพียงการได้เข้าไปร่วมบริหารงบประมาณในรัฐบาลซึ่งเป็นใครก็ได้ ไม่ใช่เอกราช ช่างเหลาก็ได้ ขอให้ ส.ส.ในภาคอีสานตอนบนเข้ามามีส่วนร่วมบ้าง วันนี้แม้ไม่ได้ตำแหน่งใดก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก ไม่มีการลาออกจากสมาชิกพรรคหรือลาออกจากการเป็น ส.ส.
"หลังมีการเคลื่อนไหว ไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคหรือนายกรัฐมนตรีโทรศัพท์มาพูดคุยแต่อย่างใด และมาถึงขณะนี้ก็คงไม่มีอะไรต้องพูดคุยกัน เพราะเราก็มีจุดยืนในการที่จะทำเพื่อประชาชนคนอีสานที่ชัดเจน ไม่ใช่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะอยากได้ตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล แต่ขอความเป็นธรรมให้ ส.ส.อีสานตอนบนได้มีบทบาทในการผลักดันงบประมาณต่างๆ บ้าง" นายเอกราชกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ กลุ่มจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงแนวทางและกำหนดท่าที หากไม่ได้รับการตอบรับจากแกนนำพรรค พปชร.ซึ่งจะเป็นการประชุมภายใน ไม่แจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบสถานที่ โดยจะมีการกำหนดท่าทีของกลุ่มและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในโอกาสต่อไป
'สมศักดิ์' ปัดต่อรองเก้าอี้
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค พปชร. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมนั้นอาจดูเงียบหายไปบ้าง ไม่ออกมาให้ข่าว เวลาว่างยังคงไปเตะบอลออกกำลังกายปกติ ไม่เคยไปตั้งกลุ่มก๊วนต่อรอง หรือสร้างประเด็นตีรวนอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่ขณะเดียวกันนั้นทุกคนอาจเห็นข่าวที่กล่าวหาผม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ถึงการต่อรองเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี ซึ่งทั้งหมดนั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การจัดสรรตำแหน่งคณะรัฐมนตรีคงไม่มีอำนาจไปต่อรองใดๆ ตามที่ภาคสังคมนั้นกล่าวอ้างกัน และไม่รู้ว่าที่เขานำเสนอออกมาให้เป็นประเด็นทางสังคมนั้น เพียงเพราะต้องการให้ร้าย หรือทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าตัวปัญหาคือผม และกลุ่มสามมิตรหรือไม่
นโยบายโคบาลประชารัฐ ผมได้นำเสนอเพราะหวังให้เกษตรกรมีรายได้จากอาชีพเสริม แต่ก็มีการหยิบยกมาโจมตีว่า ผมทำไม่สำเร็จในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย และต้องการนำเรื่องนี้มาทำใหม่เพื่อฟอกตัวเอง ต้องบอกความจริงให้ทุกคนได้รับทราบว่า ผมได้นั่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ในยุคนั้น แต่ผมยังไม่ได้เริ่มนโยบายนี้เพราะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเสียก่อน และพรรคไทยรักไทยก็ไม่ได้ทำนโยบายนี้ตามที่ใช้หาเสียงกับประชาชน ข้อมูลข่าวสารที่ออกมาไม่เป็นความจริงกลับให้ร้ายผมเสียอีก" นายสมศักดิ์กล่าว
แกนนำพรรค พปชร. ยืนยันว่าไม่เคยไปจับจองกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามที่ทุกคนกล่าวอ้าง แต่ช่วงการหาเสียงถูกวางให้พูดในเรื่องของเกษตรกร เพราะมีประสบการณ์และมีความเข้าใจ เพราะเหตุนี้หรือไม่จึงทำให้ทุกคนเข้าใจว่าตนจับจองกระทรวงเกษตรฯ ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมกับตน
"เวลานี้พอมีข่าวว่าผมจะไปเป็น รมว.ยุติธรรม ก็มีการให้ร้ายป้ายสีเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งที่ผมยังไม่รู้เลยว่าเวลานี้ผมจะไปทำงานอยู่ตรงไหน แต่ผมขอยืนยันว่าผมมีความพร้อม ผมมีมันสมองในการบริหารงาน ประสบการณ์ของผมมากพอควร ความดีก็มีปรากฏ แต่มองในมุมกลับคนที่ออกมาโจมตีหรือให้ข้อมูลนั้น อาจคงเป็นเพราะพวกเขาเสียประโยชน์และกลัวว่าผมจะเอาหน้าที่ไปทำร้ายพวกเขาในคดีต่างๆ หรือไม่ ซึ่งผมไม่ทำหรอก เวลานี้จะทำงานในกระทรวงใดยังไม่รู้ เพราะเวลานี้ในสมองของผมคิดแค่เรื่องช่วยเหลือและดูแลประชาชนเท่านั้น" แกนนำพรรค พปชร.กล่าว
นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า วันนี้การจัดตั้งรัฐบาลขอให้เป็นหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดเพียงคนเดียวจะดีกว่า อย่าเล่นใต้ดิน อย่ากวนโคลนในน้ำให้น้ำมันขุ่น การเป็นนักการเมืองที่ดีต้องจริงใจทั้งด้านหน้าและลับหลัง เพราะเราทุกคนที่ประชาชนเลือกมาคือตัวแทนที่ต้องทำให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่ประโยชน์เพียงส่วนตัวเท่านั้น ส่วนใครที่ให้ข้อมูลทำร้ายผม ไม่เป็นไรก็ขออโหสิกรรมให้ และหยุดพฤติกรรมเหล่านี้เสีย เพราะต่อไปผมคงต้องพึ่งกฎหมายให้มากขึ้นแล้ว
ที่พรรคพลังท้องถิ่นไท นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงชี้แจงกรณีมีข่าวจะจับมือกับนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เพราะตั้งแต่วันที่ไปรับเอกสารเพื่อเป็น ส.ส.ได้เคยพูดไว้แล้วว่า ต้องการทำงานเพื่อประเทศชาติให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่ว่าต้องได้ทำอะไร ตั้งใจไปตรวจสอบว่าใครทุจริตคดโกง หรือใครทำอะไรไม่เป็นไปตามที่ประกาศไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้
"ผมตั้งใจไว้ว่าเกิดมาชาติหนึ่งก็ต้องทำให้กับประเทศชาติ วันนี้ก็เลยต้องยืนยันยังเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยมีความรู้สึกว่าจะต้องเป็นอะไร ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลจะเห็นว่าเราทำงานให้เขาได้หรือไม่ ถ้ารัฐบาลไม่ให้อะไรเรา ทางพรรคก็ไม่เคยต้องไปเรียกร้องเอาตำแหน่งหน้าที่อะไรทั้งสิ้น" นายชัชวาลล์กล่าว
นายชื่นชอบ คงอุดม โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า พรรคไม่ได้กดดันหรือเรียกร้องตำแหน่ง แต่เมื่อมาร่วมรัฐบาลแล้วความสามารถของคนในพรรคก็มีมากมาย เราไม่ได้ปฏิเสธ ในกรณีที่ต้องทำงานร่วมกัน พร้อมส่งบุคลากรที่เหมาะสมไปร่วมทำงาน ไม่ว่าวันนี้จะอยู่ในสภาฯ หรือจะอยู่ในส่วนของบริหาร เราก็ยินดีส่งคนเหมาะสมไปร่วมงาน
"เราต้องการให้รัฐบาลช่วยดูแลนโยบายของพรรค บรรจุในนโยบายรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การกระจายอำนาจ การสร้างเศรษฐกิจชุมชน ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลทุกฝ่ายเท่าเทียมกัน แม้แต่ฝ่ายค้าน พรรคพลังท้องถิ่นไทยืนยันเราอยากให้ทำงานร่วมกันได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคเล็ก พรรคใหญ่ อยากให้รัฐบาลดูเรื่องสิทธิเสรีภาพการบริหารงานของประเทศไทยเดินหน้าไปได้ ดังนั้นไม่ควรแบ่งแยกแบ่งฝ่าย ควรจะดูแลทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน จะได้ทำงานร่วมกันให้เดินหน้าไปได้ เป็นข้อเรียกร้องอย่างเดียวที่ต้องการนำเสนอต่อรัฐบาล" โฆษกพรรคพลังท้องถิ่นไทกล่าว
มั่นใจคุณสมบัติ 'นิพนธ์'
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ได้ให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค มอบรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรค ปชป. 7 คนไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งรายชื่อทั้ง 7 คนยังไม่สามารถเปิดเผยได้จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ถามว่าเริ่มมีผู้ออกมาทักท้วงชื่อของนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคที่จะเป็น รมช.สาธารณสุข จากกรณีคุณสมบัติการถือครองหุ้นสื่อ และกรณีของนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคที่จะเป็น รมช.มหาดไทย ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนอยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติที่มีกฎหมายกำกับอยู่ และเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งพรรคได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วและเป็นมติพรรคแล้ว
ซักว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะต้องลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เป็นเงื่อนไขที่พูดกันชัดเจนอยู่แล้วในที่ประชุมร่วมระหว่าง ส.ส.กับกรรมการบริหารพรรค ว่าผู้ที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว จะต้องลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.เพื่อเลื่อนให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อที่อยู่ลำดับถัดไปได้ขึ้นมาเป็น ส.ส. ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่พูดคุยกันชัดเจน แต่เงื่อนไขนี้ไม่ครอบคลุมถึงกรณีของ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ใช้เฉพาะกรณีของรัฐมนตรีเท่านั้น
วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อคัดค้านการส่งชื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ในส่วนของพรรค ปชป.
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบประวัติการทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลาของนายนิพนธ์ พบว่ามีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่อง ซึ่งมีการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ดังนั้นหากแต่งตั้งให้เป็น รมช.มหาดไทยอาจมีผลต่อพยานหลักฐานในการไต่สวนสอบสวนของ ป.ป.ช. และจะทำให้ ครม.ของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความสง่างาม
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น รมช.มหาดไทยในนามพรรคประชาธิตย์ แถลงข่าวชี้แจงเรื่องที่ถูกยื่นคัดค้านการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงถนน 2 คัน รวม 50 ล้านบาท ไม่ใช่การร้องเรียนว่าตนทุจริต แต่เป็นกรณีที่ตนไม่จ่ายเงิน เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวมีปัญหา จึงเป็นการรักษาผลประโยชน์ของจังหวัด ไม่มีเรื่องทุจริตแต่อย่างใด
"ขณะนี้คดีค้างอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ไม่รู้สึกหนักใจอะไร เนื่องจากไม่มีเรื่องทุจริต เป็นการรักษาประโยชน์ให้จังหวัดสงขลา ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เช่น กรณีการซื้อรถพยาบาลตามมาตรฐานรถพยาบาล บัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง"
นายนิพนธ์กล่าวว่า สำหรับกรณีการจัดทำสวนสาธารณะกว่า 300 ล้านบาทนั้น มีการร้องว่าไม่เปิดทำประชาพิจารณ์ เป็นการร้องไปที่ศาลปกครองกลางไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. เช่นเดียวกับกรณีกล่าวหาว่าจัดสรรงบประมาณกระจุกตัวในพื้นที่ของตัวเองก็ไม่เป็นความจริง ส่วนที่กล่าวหาว่านำงบไปอุดหนุนสโมสรฟุตบอลก็ไม่เป็นความจริง มีแต่การโอนเงินให้สมาคมซึ่งทุกอย่างก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ
"มั่นใจว่าทุกกรณีชี้แจงได้ ไม่มีปัญหาขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส. เรื่องที่ร้องเรียนผมไม่ได้ปรากฏครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่เข้าทำงานการเมืองก็จะมีการโจมตีมาโดยตลอด ผมกำลังสืบหาตัวว่าเอกสารที่ออกมามีที่มาที่ไปอย่างไร คนเผยแพร่ขอให้ระมัดระวัง ถ้าทำให้ผมเสียหายนำข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จะมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปจัดการเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไป" นายนิพนธ์กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |