ผลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันทั่วประเทศโดยฟอกซ์นิวส์เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ชี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมตามหลังอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถึง 10 จุด และยังน้อยกว่าผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตอีก 4 ราย ขณะทีมงานทรัมป์ไม่พอใจผลโพลรั่ว ตัดสัมพันธ์บริษัทจัดทำโพลของตนเอง 3 แห่ง

แฟ้มภาพ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ปราศรัยหาเสียงที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2562 / AFP

    ผลสำรวจความคิดเห็นของหลายสำนักเป็นการหยั่งความนิยมก่อนที่ทรัมป์จะเริ่มการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 อย่างเป็นทางการในวันอังคารนี้ แต่ผลลัพธ์ที่เผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ใช่ข่าวดีนักสำหรับค่ายทรัมป์ ในขณะที่เดโมแครตคงจะได้กำลังใจมากขึ้น

    ไม่เพียงโพลของฟอกซ์นิวส์เท่านั้น แต่โพลของสถานีซีบีเอส ที่สำรวจรัฐสมรภูมิสำคัญ ก็บ่งบอกเช่นกันว่าอดีตรองประธานาธิบดีไบเดน ในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็มีภาษีดีที่ในสุดในบรรดาคู่แข่งร่วมพรรคที่จะโค่นทรัมป์ในการเลือกตั้งปีหน้า

    เอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนว่า โพลของฟอกซ์ให้ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ที่ 49% ต่อ 39% จากการสอบถามผู้ขึ้นทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ส่วน ส.ว.เบอร์นี แซนเดอร์ส ก็มีคะแนนนำห่างทรัมป์เช่นกันที่ 49% ต่อ 40%

    ผู้เสนอตัวลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในนามตัวแทนพรรคเดโมแครตคนอื่นก็มีคะแนนนำทรัมป์ 1-2 จุด แม้ว่าจะยังอยู่ภายในเปอร์เซ็นต์ความคลาดเคลื่อนของโพลที่ 3 จุด ได้แก่ ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน, ส.ว.คามาลา แฮร์ริส และพีต บัททิเจิจ นายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินดิแอนา

    อย่างไรก็ดี ยังเหลือเวลาอีกมากกว่า 500 วันจึงจะถึงการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 และในอดีตมีสถิติบันทึกไว้ ซึ่งได้รับความสนใจทางทวิตเตอร์กันมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยว่าผู้สมัครชิงประธานาธิบดี 5 คนในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ที่คะแนนตามหลังคู่แข่งอย่างมากในช่วงเดียวกันนี้ สามารถกลับมาชนะเลือกตั้งได้ และทรัมป์ก็เป็นหนึ่งในนั้น

    คณะทำงานหาเสียงของทรัมป์ไม่ยอมรับผลโพลที่หลุดรอดออกมาจากบริษัทจัดทำโพลของพวกเขาเอง ซึ่งบ่งชี้ว่าไบเดนมีคะแนนนำห่างทรัมป์เป็นตัวเลข 2 หลัก ในรัฐสำคัญที่สามารถชี้ขาดผลเลือกตั้งได้ ซึ่งรวมถึงฟลอริดา, เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ที่ทรัมป์กวาดชัยชนะได้ทั้งหมดเมื่อปี 2559

    ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธข้อมูลที่ว่านั้น โดยเขาบอกกับสถานีเอบีซีว่า "โพลพวกนี้ไม่มีอยู่จริง" แต่ต่อมาทีมหาเสียงของเขายอมรับว่าผลโพลออกมาเช่นนั้น พร้อมกับอ้างว่าเป็นโพล "โบราณ" แล้ว เพราะทำไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม

    นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ด้วยว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์โมโหโกรธาที่ข้อมูลเหล่านี้รั่วไหล จึงได้ตัดความสัมพันธ์กับผู้จัดทำโพล 3 ราย จากที่มี 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นบริษัทจัดทำโพลของเคลลีแอน คอนเวย์ อดีตที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์เอง.