สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ก่ออัตวินิบาตกรรม กระโดดจากชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ พร้อมจดหมายลาตายถึงลูกๆ ระบุข้อความ... ช่วยกันคัดค้าน รางคู่ขนาด 1.000 เมตร รถไฟฟ้ายกระดับ ผลักดันให้สร้างถนน Autobahn (ถนนออโตบาห์น หรือถนนไม่จำกัดความเร็ว) ช่วยกันทำหนังสือนี้แจกกันให้มากๆ พ่อนับ 1-1,000 แล้ว วิธีการนี้จะเป็นประโยชน์ ขอโทษคนที่รักทุกคนด้วย  อย่าตำหนิ ขอให้ภูมิใจ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ จะไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะสื่อ ช่วยกันปกปิดแล้วส่งเสริม...
    ....งานพิธี พ่อขอแต่งชุดสากล รูป เครื่องแบบปกติสีกากี เอาทิ้ง ขอร้องให้พิมพ์เอกสารนี้แจกจ่าย เพื่อประชาชนจะได้ทราบและเรียกร้องสิทธิของตนเอง....ขอให้ลูกเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ขอให้หลานเป็นเด็กดี รักกันตลอดไป ฝากลา ป.200 ด้วย ปฏิรูปตำรวจ ทำแค่จะมีเครื่องมือช่วยในการทำงานอย่างไร .....
    ชื่อ "สล้าง บุนนาค" คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จัก แต่หากถอยหลังไป 20-30 ปีที่แล้วใครไม่รู้จักถือว่าเชย เพราะนี่คือมือวิสามัญอันดับหนึ่งของประเทศไทย โด่งดังจากคดีโจด่านช้าง ที่คนร้ายมอบตัวแล้วถูกใส่กุญแจมือ กลับถูกยิงทิ้ง ด้วยเหตุผลแย่งปืน หรือกรณี 6 ตุลา 2519 พล.ต.อ.สล้าง ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับการ 2 พาตำรวจถืออาวุธสงครามยิงถล่มไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  และกรณีตบอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์  ขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สนามบินดอนเมือง ...๐
    และเมื่อไม่นานมานี้ จากกรณีรูปภายในห้องทำงานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. มีภาพถ่าย นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดิน ประดับยศ พล.ต.ท.ให้ พร้อมข้อความ "มีวันนี้เพราะพี่ให้" รวมถึงการเดินทางไปพบนายทักษิณที่ต่างประเทศ ขณะที่ยังรับราชการอยู่ ซึ่งถูกสังคมวิจารณ์ว่าสะท้อนตัวตนความเป็น ตำรวจมะเขือเทศอย่างชัดเจนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ 
    แต่ พล.ต.อ.สล้างมองต่างออกไป ให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจว่า "ในเรื่องของข้อกฎหมาย ที่ท่านคำรณวิทย์ไปพบท่านทักษิณ ขอยืนยันว่าไม่มีความผิดแม้แต่นิด จะไปจับคนที่ถูกถอนสัญชาติได้อย่างไร เรียนให้ทราบไว้ว่าทั้งหมดไม่มีอะไร นอกจากทำตัวเป็นเด็ก เหมือนเด็กขี้ร้องไห้อยากกินขนม ไปยุ่งกับเค้าทุกเรื่อง ไปทะเลาะแม้กระทั่งเด็กเล็กๆ น่าสังเวชมาก" ...๐
    กระจกสะท้อนรัฐบาลในเวลานี้ปฏิเสธไม่ว่า โพล หรือผลสำรวจของสำนักต่างๆ ที่ขยันเผยแพร่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คือเสียงเตือนลำดับต้นๆ ให้รัฐบาลทราบถึงสถานะที่แท้จริง รัฐบาลจะฟังหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่ที่ผ่านๆ มาแทบไม่มีรัฐบาลไหนฟัง ยกเว้นโพลที่ตัวเองทำเท่านั้น 
    สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้าโพล สำรวจประชาชน 1,250 ตัวอย่างในหัวข้อ “3 ปี 6 เดือน ของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยรวมพล.อ.ประยุทธ์ยังสอบผ่าน มีอุดมการณ์และความตั้งใจทำงานเพื่อชาติและประชาชน
    เมื่อถามถึงความประทับใจในการทำงานของคณะรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.68 ระบุว่า ประทับใจในการทำงานของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รองลงมา อันดับ 2 ร้อยละ 38.72 ระบุว่าเป็น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อันดับ 3 ร้อยละ 36.24 ระบุว่าเป็นพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อันดับ 4 ร้อยละ 34.56 ระบุว่าเป็นพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และร้อยละ 34.48 ระบุว่าเป็นพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  
    ที่น่าสนใจคือ การสำรวจเมื่อปีที่แล้วช่วงครบรอบ 3 ปีรัฐบาล คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ ติดอันดับหนึ่ง แต่คราวนี้ไม่ติด 5 อันดับแรกยังไม่พอ กลับกลายเป็นว่าเขาคือรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่ประทับใจในการทำงานมากที่สุด และนี่คือบุคคลที่ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันมาหลายครั้งว่าต้องอยู่ร่วมคณะรัฐมนตรีต่อไป ...๐