ยิ่งนานวัน...โจทย์ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ


เพิ่มเพื่อน    

       อนาคตบ้านเมืองนับจากนี้...จะถึงขั้นต้องพก ขวาน พก ชะแลง เอาไว้คนละด้าม สองด้าม หรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้ เพราะเฉพาะแค่พก นกหวีด ท่าทางมันชักจะ เอาไม่อยู่ ออกอาการวนไป-วนมา ชนิดน่าปวดหัว เวียนเฮด หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ขนาดวี้ดกันมาเป็นปีๆ ผ่านมา 3 ปี 4 ปี ทำท่าว่าอาจต้องขอแรงวี้ดใหม่กันอีกซะแร้นน์น์น์...

                                                     --------------------------------------------------------

      แถมวี้ดคราวนี้...ก็ยังแทบไม่รู้ว่าจะออกหัว-ออกก้อย กันในแบบไหน ลักษณะไหน จะ ปฏิรูป แบบลูบกันไปเรื่อยๆ หรือรูดกันต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือไม่ อย่างไร หรือจะต้องลุกขึ้นมาทุบอะไรต่อมิอะไร ให้มันสั่นสะท้านตั้งแต่ยอดไปถึงฐาน แบบ คุณป้าทุบรถ ที่ตูมไป-ตูมมา แค่ไม่กี่ตูม เล่นเอากอทอมอแทบพลิกคว่ำ พลิกหงาย ต้องพล่านกันไปทั่วทั้งระบบ เกิดการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง การบังคับใช้กฎหมาย ได้แบบฉับพลัน-ทันที ไม่ต้องรอความยุติธรรมที่ มาสาย นับเป็นสิบๆ ปี และจะสายไปอีกเท่าไหร่ก็มิอาจรู้ได้...

                                                      -------------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...อะไรคือขวาน อะไรคือชะแลง คงพินิจพิจารณากันให้ถ้วนถี่ เพราะเท่าที่ควักๆ กันมาคนละด้าม สองด้าม แท่งสองแท่ง ส่วนใหญ่...มันออกไปทาง สากกะเบือ ซะเป็นหลัก คือเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์ คิดค้น ขึ้นมาจากอารมณ์ความรู้สึกหงุดหงิด รำคาญ หรือมาจาก รสนิยม ส่วนตัวซะมากกว่า ไม่ได้มองลึก มองไกล ไปถึงชาติบ้านเมือง หรือ ส่วนรวม เป็นที่ตั้ง มันเลยอาจไม่ได้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เท่ากับที่ คุณป้าทุบรถ ท่านงัดออกมาใช้ ได้แบบถูกที่ ถูกจังหวะ ถูกเวลา ถูกทั้งรสนิยมส่วนตัว และรสนิยมสังคมไปด้วยในตัว...

                                                      ------------------------------------------------------

      ยิ่งถ้าหากเป็นสากกะเบือที่ไม่สะอาด ไม่บริสุทธิ์ ออกอาการ ปนเปื้อน เครื่องพริก เครื่องแกง หรือติดเชื้อโรคใดๆ ก็แล้วแต่ ประเภทสากกะเบือที่ต้องรอท่อน้ำเลี้ยง อะไรทำนองนั้น ไม่ว่าจะงัดออกมาขว้าง ออกมาไล่ทิ่มใครต่อใครก็แล้วแต่ มาถึงยุคนี้ สมัยนี้ น่าจะลำบากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อาจเพราะโลกมันไปไกลเกินกว่ายุค เครื่องปั่น ไปแล้วก็เป็นได้ การระดมมวลชนออกมาคราวละร้อย สองร้อย มันเลยอาจไม่เวิร์ก ไม่สอดคล้องกับยุคสมัย เรียกว่า...แค่เจอกับฝนชะช่อมะม่วงพรวดเดียว ก็...หายเกลี้ยง!!! แทบไม่ต้องเสียเวลาไปรื้อฟื้นตำนาน 14 ตุลาฯ มาเล่าขาน อ้างอิง อีกต่อไป...

                                                       -------------------------------------------------------

      แต่ถึงแม้รัฐบาล คสช.ท่านจะทนทานต่อสากกะเบือด้ามแล้ว ด้ามเล่า นั่นก็ใช่ว่า...อนาคตนับจากนี้ ท่านจะสามารถดำรงคงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ สบายๆ แต่อย่างใด ตรงกันข้าม...ยิ่งนานวัน โดยลักษณะอาการยิ่งออกไปทางก้นเตี้ย ขาแกว่ง อย่างเห็นได้ชัดเจน จับมาปล่อยไว้หน้าบ้านตัวเอง เผลอๆ ยังจำเลขที่บ้านไม่ได้เอาเลยถึงขั้นนั้น ถึงพยายามลากเสียง นับช้าๆ แต่ไปๆ-มาๆ นับถึงแปด...ยังอาจ ไม่ฟื้น เอาเลยก็ไม่แน่!!! ยิ่งมาเจอกับเรื่องโกงเงินคนจน เรื่องธรรมกายคืนชีพ และอะไรต่อมิอะไรที่สะท้อนให้เห็นถึงอาการ เยี่ยวไม่สุด หรือ ไม่สะเด็ดน้ำ ซะทุกทีไป ใครก็ตามที่คิดจะ เป่านกหวีด กันครั้งใหม่ คงต้องระวัง...อย่าให้นกหวีดหลุดเข้าคอเป็นอันขาด!!!

                                                              -----------------------------------------------------------

      เพราะช่วงหลังๆ นี้...คงต้องยอมรับว่า สถานการณ์บ้านเมืองมันออกจะ ไปไกล เกินกว่าที่ใครต่อใครเคยคิดคำนวณเอาไว้เยอะ มีโจทย์แปลกๆ โจทย์ที่สลับซับซ้อน เกินกว่าที่จะอาศัยสูตรการเมือง สมการทางการเมือง แบบเก่าๆ เดิมๆ บวก-ลบ-คูณ-หาร แล้วถอดรูทออกมาเป็น คำตอบ กันง่ายๆ หลายต่อหลายเรื่อง มันอาจต้องหันไปใช้ แคลคูลัส โน่นเลย ไม่ว่าจะแคนคูลัสเชิงอนุพันธ์ หรือเชิงปริพันธ์ มันถึงจะหาค่าความผกผันระหว่างคณิตศาสตร์กับสังคมศาสตร์ ออกมาได้มั่ง...

                                                       -------------------------------------------------------------

      แต่จะอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่พยายามหาทางออก ทางไป ให้กับชาติบ้านเมือง ผู้ที่มีฐานะเป็นนักคิด นักวิชาการ ไปจนถึงนักปฏิบัติทั้งหลาย อย่างน้อย...ก็พึงยึดมั่นเอาไว้ให้จงหนักว่า ระหว่าง เป้าหมาย กับ วิธีการ นั้น นอกจากเป็นสิ่งซึ่งมิอาจแยกออกจากกันได้โดยเด็ดขาด ยังเป็นสิ่งที่พึงต้องมีความสอดคล้อง ต้องกัน ไปโดยตลอด วิธีการ ใดๆ ที่ไม่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ย่อมมิอาจนำไปสู่ เป้าหมาย อันมี ธรรมะ เป็นที่ตั้งได้เลย เหมือนอย่างที่ พระเยซูคริสต์ ท่านเตือนๆ เอาไว้นั่นแหละว่า ผู้ใดมาด้วยดาบ...ผู้นั้นย่อมจากไปด้วยดาบ  ส่วนผู้ที่คิดหันไปใช้ขวาน ใช้ชะแลง แม้พระเยซูท่านจะไม่ได้เตือนเอาไว้ แต่คงต้องคิดหน้า-คิดหลังเอาไว้ให้ถ้วนถี่ ประมาณ 3-4 ตลบเป็นอย่างน้อยนั่นแหละดี...

                                                           -----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Jesus Christ... All that take to the sword shall perish with the sword.- ผู้ที่ใช้ดาบ ย่อมมอดม้วยด้วยดาบ...

                                                            ----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"