ล่าวินโหดจับแล้ว2 ตั้งข้อหาร่วมกันฆ่า


เพิ่มเพื่อน    


    จับแล้ว 2 คนวินโหดยิง 2 ศพที่บางนา ยังเหลืออีก 1 ตำรวจล่ากระชั้น ตั้งข้อหาหนัก ร่วมกันฆ่าผู้อื่น จ่อหมายจับอีก 4 "เฉลิมเกียรติ" สั่งสอบประวัติ หาสารเสพติดวินทั่วกรุง แม่หนุ่มเคอร์รี่พร้อมเมียสาวท้อง 4 เดือนร่ำไห้รับศพ เผยถูกลูกหลง ซ้ำร้ายกลุ่มผู้ก่อเหตุยังขวางรถพยาบาลจนลูกถึงมือหมอสายไป 
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่ก่อเหตุยกพวกตีกัน จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สน.บางนา ว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 01.30 น. พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้ร่วมกันขอศาลจังหวัดพระโขนงอนุมัติหมายจับบุคคลที่กระทำความผิดในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน” ได้แก่ 1.นายวันชัย มงคลเข็ม 2.นายปิยะ พวงเกษร 3.นายรังสรรค์ ศรไชยากร ซึ่งศาลจังหวัดพระโขนงได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 หมาย และอนุมัติหมายค้นสถานที่ 4 แห่ง
    ต่อมาเวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังตรวจค้นเป้าหมายจนสามารถจับกุมนายปิยะ พวงเกษร และนายรังสรรค์ ศรไชยากร พร้อมทั้งจับกุมนายเจริญ หรือต่อ เจริญผล ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และเร่งติดตามจับกุมนายวันชัย มงคลเข็ม ที่ยังคงหลบหนีไปอยู่ 
    พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก และหากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนเชื่อมโยงไปถึงผู้ใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
    ด้าน พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา กล่าวว่า คดีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือในส่วนของเหตุการณ์คนร้ายวิ่งเข้าไปในซอยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ซึ่งจากภาพวงจรปิดน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุมากถึง 10 คน ส่วนอีกหนึ่งเหตุการณ์ช่วงชุลมุนที่บริเวณถนน เบื้องต้นจะตั้งข้อกล่าวหา ก่อเหตุชุลมุนมั่วสุมมากกว่า 10 คนขึ้นไป 
    คดีนี้ สืบเนื่องจากวินจักรยานยนต์ 2 กลุ่มได้ก่อเหตุวิวาทที่ปากซอยสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อตำรวจ สน.บางนาไปตรวจสอบ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือวินกลุ่มเจ้าถิ่น และวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งอยู่ใกล้กัน สาเหตุจากแย่งผู้โดยสาร ได้ยกพวกตะลุมบอนมีอาวุธทั้งมีด ไม้ และปืน มีผู้เสียชีวิตคือนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี พนักงานรับส่งสินค้าบริษัท เคอร์รี่ และขี่รถจักรยานยนต์วินอุดมสุขรุ่งเรือง ถูกยิงที่หน้าผาก และนายวัชรินทร์ งาเฉลา อายุ 33 ปี จักรยานยนต์รับจ้างสินอุดมสุข 1 ถูกยิงที่ศีรษะและลำตัว รวมทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
    ที่แผนกนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ น.ส.เฉลิมขวัญ ง่วนกี่ อายุ 18 ปี และนางแดง จิตรกระแส อายุ 53 ปี ไปรับศพนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ นางแดงแม่ผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุลูกชายได้ขับรถเข้าบ้านเพื่อเรียกภรรยาออกกินข้าว ขณะที่ตนเดินออกไปหาก๋วยเตี๋ยวรับประทาน เห็นกลุ่มคนยกพวกตีกัน และเห็นลูกชายอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เกรงว่าจะถูกลูกหลงจึงเรียกให้ลูกรีบเข้าบ้าน พอกลับถึงบ้านก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเฮกันมาดังมาก จึงโผล่หน้าไปดูก็เห็นตะลุมบอนกันอยู่กลางซอยห่างจากบ้านไม่ไหล จึงเรียก น.ส.เฉลิมขวัญลูกสะใภ้ให้เข็นรถจักรยานยนต์เข้าบ้าน แต่ลูกชายบอกว่าจะลงไปเก็บเอง พอลูกจับแฮนด์รถก็ถูกยิงล้มลงทันที ตนและลูกสะใภ้ตกใจมาก แต่ก็ยังพอมีสติที่จะเรียกรถพยาบาลให้มารับตัวลูก ทว่าเมื่อมาถึงแล้วกลับขี่ออกไปไม่ได้ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุขัดขวางจนลูกชายเสียชีวิตในที่สุด
    นางแดงกล่าวว่า ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัว และขณะนี้ลูกสะใภ้ก็ตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ชีวิตคงลำบากมาก ซึ่งจนขณะนี้ตนก็ยังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกไปทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วย
    วันเดียวกัน นายวุฒิชัย อภิวัฒนกุลชัย ผู้จัดการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ออกแถลงการณ์ว่า เหตุทะเลาะวิวาทดังกล่าว ที่มีนายจีระพงศ์ วิบูลย์รัชกิจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยนั้น ขอชี้แจงว่านายจีระพงศ์เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สังกัดแผนกบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งอยู่ระหว่างทดลองงาน หลังเกิดเหตุ ทางมูลนิธิได้สั่งพักงานแล้ว และหากผลสรุปทางคดีมีความผิดจริงก็จะเลิกจ้างทันที
    ในช่วงบ่าย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางไปยัง สน.บางนา ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. และตำรวจ สน.บางนา จากนั้น พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุกระทำความผิดหลายกระทง อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ได้สั่งการให้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งสั่งตรวจสอบประวัติและสารเสพติดผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์รับจ้างทุกคน ทุกพื้นที่
    ส่วน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งทำคำร้องขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 4 คน ยืนยันว่าจะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่านี้แน่นอน โดยจะทยอยขออนุมัติหมายจับ รวมทั้งตรวจค้นหาของกลางที่ใช้กระทำความผิดเพิ่มเติม สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้นั้น อยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนในวันเกิดเหตุทั้งหมด ส่วนที่ยังหลบหนีอีก 1 เชื่อว่ายังซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผลพิสูจน์ออกมาว่ามี 3 ชนิด กรณีมีข่าวและภาพในสื่อสังคมออนไลน์คล้ายนายวีรวัฒน์ ผู้ตาย อยู่ร่วมเหตุการณ์ตะลุมบอนด้วยนั้น หากเป็นจริง ในทางการดำเนินคดีต้องแยกส่วนกันระหว่างการร่วมกระทำความผิดและการถูกยิงเสียชีวิต
    พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า จากการตรวจสถานะวินจักรยานยนต์ในซอยสุขุมวิท 103 พบว่าฝั่งซอย 1 ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเมื่อเดือนมีนาคม มีนายประมุข วิเชียรดิลกกุล เป็นหัวหน้าวิน แต่ไม่ชี้ชัดว่านายประมุขเป็นผู้มีอิทธิพลในการสั่งการให้ลูกวินก่อเหตุดังกล่าว ส่วนวินจักรยานยนต์ฝั่งซอย 2 ยังไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตำรวจก็พยายามกวดขันจับกุมมาตลอด จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งว่าวินจักรยานยนต์ซอย 1 มีการเรียกเก็บค่าหัวคิว หากพบก็ต้องนำเรื่องส่งให้คณะกรรมการ 4 ฝ่าย คือสำนักงานเขต กรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร พิจารณา เพราะตามปกติผู้ขับขี่ไม่ต้องเสียค่าหัวคิวในการเข้าร่วมวินแต่อย่างใด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"