นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึง บทบาทของพรรคเล็กกับการทำงานที่ในรัฐสภาว่า การทำหน้าที่จากนี้จะต้องแบ่งเป็นงานด้านบริหาร งานในสภาฯ และงานขับเคลื่อนภาคประชาชน ซึ่งวันนี้ก็ยังยืนยันว่าทั้ง 10 พรรคเล็ก ไม่มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับรัฐบาล เพราะเราต้องการสร้างการเมืองใหม่ การตัดสินใจอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากนายกฯ เห็นว่าพรรคเล็กมีความเหมาะสมแล้วให้ตำแหน่งมาเราก็รับ ทั้งนี้หากพรรคใดพรรคหนึ่งได้ตำแหน่ง เราก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการอิจฉาริษยากัน แต่จะขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของพวกเรา ทั้งนี้ถ้านายกฯ ไม่สามารถจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับเราได้ กลุ่ม 10 ยังยืนยันที่จะสนันสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไปอย่างแน่นอน 

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ในส่วนของงานในสภาฯ ถึงแม้เราจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่พรรคพลังธรรมใหม่จะเป็นพรรคฝ่ายค้านในรัฐบาล คือถ้าเห็นว่าเรื่องอะไรที่รัฐบาลหรือรัฐมนตรีทำผิด เช่น คอร์รัปชั่น เราจะเตือนรัฐบาลก่อนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หากรัฐบาลทำถูก ทั้ง 10 พรรค ก็พร้อมจะสนับสนุน และเป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล เราจะสู้กับฝ่ายค้านให้ แต่หากรัฐบาลทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ฟัง ไม่สนใจสิ่งที่เราเตือน เราก็พร้อมที่จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล

“ในอดีตที่ผ่านมาเราสู้อยู่ข้างถนนมาตลอดชีวิต แต่วันนี้เราจะเปลี่ยนมาสู้ในสภาฯ แต่เราจะไม่ละทิ้งภาคประชาชนอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากเกิดเหตุการณ์ หรือก่อม็อบ เราก็จะช่วยรัฐบาลเจรจากับม็อบก่อน จะไปชี้แจงพูดคุยข้อเสนอและรับส่งตรงถึงมือนายกฯ ถึงมือรัฐบาล ทำให้แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น และช่วยให้ภาคประชาชนไม่ต้องทุกข์ยาก เพราะการจัดม็อบไม่ได้สบายทั้งเหนื่อย ทั้งเสี่ยง เราเคยทำงานด้านนี้มาโดยตลอด ม็อบไหนมาก็รู้จักกันหมด”นพ.ระวี กล่าว 

เมื่อถามถึงอายุของรัฐบาลชุดนี้จะเป็นอย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า เงื่อนไขที่รัฐบาลจะอยู่ยาวได้คือ 1. รัฐบาลต้องบริหารแบบซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส 2. ต้องทำงานเร็ว และ 3.ต้องทำงานเป็น หากทำได้ครบทั้ง 3 เงื่อนไขนี้ รัฐบาลอยู่ได้ครบ 4 ปีแน่นอน แต่ถ้าโกงไม่ซื่อสัตย์ สุจริตแค่ 6 เดือนก็อยู่ไม่ได้แล้ว

“นายกฯ จะต้องปรับตัว เพราะลีลานายกฯของคสช. กับลีลาของนายกฯ ในระบอบประชาธิปไตยต่างกัน ขณะนี้ฝ่ายค้านถือว่ามีพลังมาก เป็นเลือดคนรุ่นใหม่ คุมอำนาจของระบบออนไลน์ มีพรรคเพื่อไทย ที่คุมพื้นที่อย่างมหาศาล รัฐบาลจึงมีงานหนักมาก จะต้องมีการบริหารที่รวดเร็วมีการประสานงานที่รวดเร็ว ต้องปรับตัวถ้าไม่ปรับตัวไม่ถึงปีก็ไม่รอด”นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ปัญหาที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขคือ 1.แก้ไขปัญหาปากท้อง ความยากจนให้ประชาชน 2.แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น เรื่องอัตราดอกเบี้ยธนาคารระหว่างเงินกู้กับเงินฝากต้องลดลง ไม่ให้เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ และ 3. แก้ไข ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่ง 3 เรื่องนี้หากรัฐบาลทำได้ก็อยู่ครบ 4 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น

" เราอยากให้นายกฯจัดตั้งรัฐบาล คัดสรรหาคนที่ดีที่สุดเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง พืชผลเกษตร คงต้องให้กำลังใจให้นายกรัฐมนตรี เอาคนดีคนมีความสามารถมา ไม่อย่างนั้นท่านก็ไปลำบากเราจะเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลตื่นตัวในการทำงาน และทำด้วยความสุจริตเอาความทุกข์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง ผมหวังเช่นนั้น"นพ.ระวี กล่าว