15 มิ.ย.62 - ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.ขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้กลุ่ม ส.ส.อีสาน พรรคปลังประชารฐ ทุกคนล้วนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่พรรคจัดสรรตำแหน่งต่างๆให้ ส.ส.ของพรรค ถึงขั้นกลัวว่าจะถูกลอยแพ ของกลุ่ม สส.ในภาคอีสาน จน ไม่มีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคใดๆ
"เรามีการพูดคุยไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ให้อยู่เฉยๆทางผู้ใหญ่จะดูแลและจะดูแลให้อย่างทั่วถึง มีความเป็นธรรม แต่วันนี้ ที่เราสังเกตดู คนที่อยู่เฉยๆมักจะเป็นสุภาพบุรุษหรือ ส.ส.ตลาดล่าง ไม่ได้รับการดูแล แต่คนที่ไปจี้เช้าถึงเย็นถึงจะได้รับการดูแล"
นายเอกราช กล่าวว่าวันนี้กลุ่ม ส.ส.อีสาน มองว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งที่ ที่จะดูแลพี่น้องประชาชนในภาคอีสานตอนบน ซึ่งภาคอีสานมี 20 จังหวัด แต่ได้รับการดูแลเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นควรจะให้ความเป็นธรรมจัดสรรกันอย่างทั่วถึงด้วย
นายเอกราช กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารของพรรค มีความมุ่งมั่นชัดเจน โดยยืนยันในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคที่จะต้องมีอยู่ทุกภาค แม้แต่ภาคอีสานมีเสียง 2 คนก็ต้องมีรัฐมนตรี 1 คน เพื่อที่จะขับเคลื่อนนโยบายของพรรค แต่ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐเราไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้บริหารพรรคอย่างที่ควร จึงอยากจะสื่อไปถึงผู้บริหารให้ดูแลและให้ความเป็นธรรมอย่างทั่วถึงด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นกลุ่ม ส.ส.ภาคอีสาน จะหารือกันและทบทวน การทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐต่อไป
"คงไม่ใช่การลาออก ส่วนจะทำอย่างไรเรา จะวางมาตรการ พวกเราใน 20 จังหวัด จะมาคุยกัน แล้วก็จะมีมติร่วมกันว่าเราจะขับเคลื่อนไปในแนวทางที่พวกเราเห็นสมควร อาจจะไม่เป็นไปตามมติของพรรคก็ได้ ส.ส.ทุกคนไม่ใช่เด็กเราเป็นผู้ใหญ่ ทุกคนอาสาเข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ทุกคนต้องการขับเคลื่อนการพัฒนาจะดูแลพี่น้องประชาชน แต่ถึงเวลาหลังเลือกตั้งกับกลายเป็นว่าการรับปากของเรามันไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนไปได้ ถ้าหากว่าเราไม่ได้เข้าไปบริหารงานในฐานะคณะบริหารของรัฐบาล เพราะถ้า เป็น ส.ส.อย่างเดียว เราจะขับเคลื่อนไปลำบาก ประชาชนจะเกิดความผิดหวังและที่สุดท้ายขับเคลื่อนของพรรคพลังประชารัฐ ก็จะติดขัดแล้วก็จะสะดุด และอาจจะถึงจุดที่อาจบอกว่าไม่ต้องเดินต่อในภาคอีสาน"
นายเอกราช กล่าวอีกว่า ขณะนี้การจัดตั้งรัฐบาลเกือบเรียบร้อยแล้ว 90 % ส.ส.อีสาน ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการจัดสรรตำแหน่งหรือเรียกร้อง ทุกคนอยู่นิ่งๆเพื่อให้ผู้ใหญ่สบายใจไม่ต้องอึดอัดในการที่จะจัดสรรตำแหน่งด้วยความเหมาะสม เพราะคิดว่าผู้ใหญ่ของพรรคต้องให้ความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง แต่พอฟังและนิ่งมาจนถึงนาทีสุดท้าย ทุกคนรู้สึกว่าจะไม่ได้รับการเหลียวแล จึงต้องออกมาเรียกร้องกับผู้ใหญ่ว่า ควรจะดูแลให้ทั่วถึงและเท่าเทียม เพื่อที่จะขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐไปข้างหน้าร่วมกันได้
"เราต้องการเข้าไปเป็นคณะบริหารร่วมกับ ครม. ส่วนด้านไหนเป็นอำนาจของผู้หลักผู้ใหญ่ในการที่จะพิจารณาความเหมาะสม เราไม่ได้เรียกร้องต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ แต่มันควรจะมีส่วนในการที่จะเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายของพรรค เพื่อตอบสนองการพัฒนาจังหวัดในภาคอีสานตอนบน เพราะเพียงแค่การเป็น ส.ส. ไม่สามารถที่จะไปขับเคลื่อน ในเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณได้ เพราะมันขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 185 (2) มันจะผิด ถ้าเราจะขับเคลื่อน ไปจัดสรร ไปเสนองบประมาณ
ถ้าหากว่าเราไม่มีส่วนที่จะไปบริหาร งบประมาณในฐานะผู้บริหารร่วมกับรัฐบาลแล้ว โอกาสที่จะตอบสนองต่อการดูแลพี่น้องประชาชนมันเลือนลาง พี่น้องแทบจะไม่ได้รับอะไรเลย และพรรคพลังประชารัฐก็จะกลายเป็นพรรค พูดแล้วไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามได้ อยากให้ผู้ใหญ่เข้าใจด้วยว่าเราเป็นเจ้าของพื้นที่ ที่ติดต่อกับพี่น้องประชาชนตลอด เราทราบถึงความต้องการและเข้าใจพี่น้อง เราจึงเรียกร้องว่าภาคอีสานตอนบน ก็ควรจะมีส่วนในการที่จะเข้าไปขับเคลื่อนร่วมกับภาคอื่นๆอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง"
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ส.ส.อีสาน ไม่ได้เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เราอยากเป็นคณะผู้บริหาร แค่ 2 คนก็พอแล้ว เพราะตามโพลต่างๆ โคราชได้แล้ว แต่ศูนย์ขอนแก่นกับอุบลรวมกันทั้งหมด 1,364,761 คะแนน ถ้าคิดกันเป็นสัดส่วน 7,1000คะแนนต่อ 1 คน เราได้ ส.ส.ถึง 19 คน ไม่ได้แพ้ภาคอื่นไม่ได้แพ้จังหวัดอื่น เพราะฉะนั้นปาตี้ลิสต์ตั้งแต่ลำดับ1ถึง16 คือคะแนนที่ไปจากภาคอีสาน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |