IO ข่าวไหว้ครูสุดท้ายไปไม่รอด ครู-นักเรียนแฉ ไม่มีทหารสนธิกำลังตำรวจบุกโรงเรียนแต่อย่างใด ผอ.ยันมีแค่ตำรวจ 2 นายมาดูความเรียบร้อยในงานพี่น้องรหัส "ธนาธร" ปั่นหนักเตรียมตั้งกระทู้ถามในสภา ใช้อำนาจอะไรไปข่มขู่ "บิ๊กป้อม" เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลัง เด็กไม่ได้คิดเอง เจออดีตเด็ก ปชป.ห้าวด่าระยำ
นายพิพัฒน์ ศรีสุขพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมพลโพนพิสัย ในอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เปิดเผยกรณีกระแสข่าวมีทหารยกกำลังเข้าไปในโรงเรียนเพื่อข่มขู่ให้ลบภาพพานไหว้ครูที่เสียดสีการเมืองว่า ช่วงเช้าวันที่ 13 มิ.ย. เป็นพิธีไหว้ครู ส่วนช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมพี่น้องรหัส มีการนำนักเรียนกว่า 2,900 คนมาจัดกิจกรรมร่วมกัน ในช่วงบ่ายได้มีตำรวจเข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาการทะเลาะวิวาท
ประกอบกับทางโรงเรียนได้ทำเอ็มโอยูกับ สภ.โพนพิสัยอยู่แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลให้จำนวน 2 นาย ตนก็นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน ปรากฏว่ามีผู้สื่อข่าวโทร.มาหาบอกว่าพานที่อยู่ในเฟซบุ๊กเป็นเรื่องแล้ว ตนก็ได้ถามกลับไปว่าพานมันเป็นอะไร เขาก็บอกว่าพานของเด็กมันมีปัญหา ตนก็ให้ส่งเฟซบุ๊กกลับมาให้ตนดู เพื่อจะได้ตรวจสอบว่ามีปัญหาอะไร
เขาเล่าว่า จากนั้นผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้ถามต่อว่า ผอ.มีตำรวจและทหารเข้ามาในโรงเรียนไหม ตนก็ได้ตอบกลับไปว่า ทหารจะเข้ามาทำไม ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทหารจะต้องเข้ามา เพราะตนเข้าใจว่าเป็นการไหว้ครูเท่านั้น แต่ตนตอบว่ามีตำรวจเข้ามา แต่เข้ามาดูแลความสงบความปลอดภัยเท่านั้น แต่กลับมีเฟซบุ๊กออกมาว่ามีตำรวจทหารเข้ามาสั่งให้ลบรูปออกจากเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นประเด็นกระจายออกไปทั่วประเทศ
"ผมขอยืนยันว่าไม่ได้มีทหารเข้ามาในโรงเรียนแต่อย่างไร ที่ตำรวจเข้ามาก็เพื่อดูแลความสงบเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึง ผกก.โพนพิสัย ก็ได้มาอำนวยความสะดวกที่ถนนบริเวณหน้าโรงเรียนเป็นประจำแต่เช้าทุกวันอยู่แล้ว"
นายพิพัฒน์บอกว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้ให้เอาพานมาดู ก็เป็นพานตามรูปที่มีการลงในโซเชียลฯ ก็ได้สอบความถามคิดเห็นของเด็กในการทำพานแบบนี้ ว่ามีจุดประสงค์อะไร ซึ่งเจตนาของเด็กนั้นเป็นความคิดที่ริเริ่มสร้างสรรค์ มีจิตใจชอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อนุสาวรีย์แสดงให้เห็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราสร้างมา จึงมีพวงมาลัยและธูปเทียนมากราบไหว้
ส่วนพานรูปตาชั่งนั้น แสดงให้เห็นว่ามีแต่คนโจมตี 250 ส.ว. เขาอยากจะแสดงให้เห็นว่า ส.ว.เป็นตัวแทนของคนหลายล้านคนที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนด รูปที่ถ่ายออกมาตาชั่งมองดูเอียง เพราะเป็นการถ่ายด้านข้าง ประกอบกับการติดกาวไม่ดีจึงทำให้เอียง ซึ่งพานที่ทำขึ้นเป็นการสร้างสรรค์ของเด็กนักเรียน วันนี้ก็มีแถลงการณ์ของสภานักเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กด้วย
เด็กๆ ยืนยันไม่มีใครขู่
ด้านนางสาวรัชฎาภรณ์ คำเหลือง, นายชรินธร นาคเสน, นางสาวณัชชา ชัยเวทย์ และนายจิฏฏิภัค พลหงส์ เด็กนักเรียนชั้น ม.6/2 บอกว่า พานที่นักเรียนในชั้นร่วมกันทำขึ้น จะสื่อให้เห็นถึงว่านักเรียนชั้น ม.6/2 ทุกคนยังรักประชาธิปไตย ซึ่งทุกวันนี้ไม่ค่อยจะมีแล้ว จึงอยากจะสื่อให้ทุกคนเห็นและรักประชาธิปไตย ไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และต้องการสื่อให้เห็นว่า อนุสาวรีย์ที่เกิดขึ้นมันผ่านเหตุการณ์อะไรมาบ้างจนถึงปัจจุบัน จึงสื่อออกมาในรูปแบบของพานไหว้ครู
ส่วนพานที่เป็นรูปตาชั่งนั้น ต้องการสื่อให้เห็นว่า ส.ว. 250 คน เป็นตัวแทนของประชาชนหลายล้านเสียง ซึ่งแล้วแต่คนจะมองว่ามันสื่อไปในทางไหน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน
ทั้งนี้ เด็กนักเรียนได้เล่าให้ฟังว่า เป็นการจัดกิจกรรมพี่น้องรับน้องสายรหัส ม.ต้นของโรงเรียน ในขณะที่พวกตนและเพื่อนๆ อยู่บนห้องเพื่อรอไหว้ครู พวกตนได้ยินและได้เห็นเพื่อนหลายๆ ห้องแจ้งเข้ามาให้ทราบว่ามีตำรวจเข้ามา พวกตนจึงได้ไปดูพานไหว้ครูที่ห้องโสตฯ ที่พวกตนเก็บพานไว้ ก็ไม่เห็นพานแล้ว จึงสงสัยว่าพานหายไปไหนแล้วเท่านั้น แต่ไม่ได้มีใครมาขู่หรือบังคับให้ลบรูปภาพอะไรทั้งนั้น
แต่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอชื่นชมนักเรียนที่มีความสนใจการเมือง เรื่องการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวของพวกเรา ตนดีใจที่เห็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มีความสนใจการเมือง และยืนยันว่าตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรืออยู่เบื้องหลัง โดยที่ผ่านมาการรณรงค์ด้านความคิดเผยแพร่แนวอุดมการณ์ นโยบายพรรค ลงพื้นที่เพื่อเข้าใจปัญหาของประชาชนให้ละเอียดที่สุด
"มันหมดเวลาแล้วที่จะใช้อำนาจข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน ก่อนหน้านี้มีประชาชนที่รักความยุติธรรมถูกคุกคามมากี่ครั้งแล้ว ภายใต้รัฐบาลเผด็จการ อย่างเรื่องอุทยานราชภักดิ์ กินแซนด์วิช 1984 สิ่งเหล่านี้ควรต้องหมดไปได้แล้ว"
นายธนาธรกล่าวว่า ที่ผ่านมาการใช้อำนาจของผู้นำกองทัพที่ให้ทหารไปข่มขู่ประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐบาล ตอนนี้มีฝ่ายค้านแล้ว พรรคอนาคตใหม่จะใช้สิทธิของเราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งกระทู้ในเรื่องนี้ว่าใครเป็นการสั่งการ ที่เข้าข่มขู่คุกคามและใช้อำนาจหน้าที่อะไรไปข่มขู่คุกคาม ลบโพสต์และการแสดงความคิดเห็นเรื่องเหล่านี้ อำนาจอื่นๆ ที่ไม่มีฝ่ายค้าน และตรวจสอบไม่ได้ หมดเวลาแล้ว นี่กำลังเข้าสู่การต่อสู้เพื่อทวงคืนประชาธิปไตยในเฟสใหม่
ทั้งนี้ นายธนาธรเคยให้สัมภาษณ์แทบลอยด์ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 27 พ.ค.61 ระบุว่า พิธีไหว้ครูเป็นพิธีกรรมที่ล้าหลังมาก เอาพิธีกรรมที่เจ้ายศเจ้าอย่างออกไปทั้งหมดจากระบบการศึกษา
ฝรั่งเชื่อข่าวปลอม
ขณะที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ "Thailand : Authorities Punish Mockery of Junta" โดย แบรด อดัมส์ (Brad Adams) ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียของฮิวแมนไรต์วอตช์ อ้างว่า รัฐบาลทหารและตำรวจสนธิกำลังกันบุกเข้าจู่โจมโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย บังคับให้นักเรียนลบภาพเกี่ยวกับกิจกรรมวันไหว้ครูที่แสดงออกเชิงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหาร และความพยายามสืบทอดอำนาจหลังการเลือกตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จากบัญชีสื่อออนไลน์ของพวกเขาทั้งหมด ทั้งที่ประเทศไทยให้การรับรองกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights - ICCPR) ซึ่งสาระสำคัญคือรัฐบาลต้องรับรองสิทธิในการแสดงออกของพลเมือง
"พล.อ.ประยุทธ์ควรสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งหมดยุติการข่มขู่คุกคามผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์โดยสงบ และมิตรประเทศของไทยก็ไม่ควรปล่อยให้การเลือกตั้งเมื่อเร็วๆ นี้มาเป็นข้ออ้างในการเพิกเฉยต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย" ผอ.ภาคพื้นเอเชียของฮิวแมนไรต์วอตช์กล่าว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เขาทำแบบนั้นแล้วจะให้ทำอย่างไรได้ ทั้งนี้เชื่อว่ามีคนทำและมีคนคิดให้ ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในโรงเรียนเพื่อขอความร่วมมือให้ลบภาพพานออกจากสื่อโซเชียลทั้งหมด ตนไม่ทราบ และยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียด เพียงแต่ภาพข่าวจากสื่อมวลชน แต่เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะเด็กจะไปคิดแบบนี้ได้อย่างไร ส่วนจะเป็นครูหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ จึงบอกไม่ได้ว่าเป็นใคร ซึ่งก็ต้องไปตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของเด็ก
นายธนัตถ์ ธนะกิจอำนวย อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตมีนบุรี โต้ พล.อ.ประวิตร ว่าท่านรับได้มั้ยครับ ส่วนตัวถ้าถามผม ผมคงบอกได้เพียง ความคิดท่าน “ระยำ” มากครับ
ผู้นำรัฐบาลแบบนี้หรือที่เราจะได้มาคอยดูแลพัฒนาการศึกษา ผู้นำที่คิดว่านักเรียนคิดเองไม่ได้ แล้วเราจะมีโรงเรียนไว้ทำอะไรไว้ ควบคุมความคิดให้อยู่ในกรอบให้ถูกใจ คนระยำแบบนี้ เอาเถอะวันนี้เป็นวันของท่าน แต่วันนึงฟ้าจะเปลี่ยนสี คอยดูก็แล้วกัน
น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เยาวชนเหล่านี้คือผู้ที่กำลังจะเติบโตและต้องอยู่ในประเทศนี้ต่อไปอีกนาน ทำไมถึงใช้การสร้างความหวาดกลัวจำกัดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในการแสดงความคิดเห็นของเยาวชน ขอฝากถึงเจ้าหน้าที่และฝ่ายอนุรักษ์อำนาจนิยมว่า ประชาธิปไตยคือการที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีใครมีสิทธิเหนือกว่าใครที่จะไปบังคับ ข่มขู่ให้ใครต้องคิดเห็นเช่นตนเอง รวมทั้งฝากพิจารณาด้วยว่า การละเมิดสิทธิเสรีภาพระดับมหาวิทยาลัย 5 ปีที่ผ่านมาได้ ผลิตคนรุ่นใหม่ไม่เอาเผด็จการกว่า 6 ล้านคน เวลานี้พัฒนามาละเมิดสิทธิเสรีภาพระดับมัธยม มาทำนายกันว่าจะผลิตเยาวชนต้านเผด็จการอีกจำนวนเท่าใด
เลขาฯ กพฐ.ยันเด็กไม่ผิด
ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ได้กำชับไปยังโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา (สพฐ.) ทั่วประเทศ ว่าขอให้รักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำพานไหว้ครูที่มีดอกเข็ม ดอกมะเขือ หรือที่เกี่ยวข้อง และโดยขอให้กิจกรรมเหล่านี้อยู่ในความดูแลของผู้บริหารและครู ในขณะที่นักเรียนมีความคิดอย่างหลากหลาย แต่จะต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสมด้วย
“สิ่งที่เด็กคิดมา ไม่ผิด แต่ครูจะต้องให้คำปรึกษาว่าสิ่งใดเหมาะสมตามสภาวะของเด็กในแต่ละชั้นปี เช่น การแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ก็มีล้อการเมืองในอีกระดับหนึ่ง แต่นักเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาฯ ก็จะต้องมีความคิดที่มีความเหมาะสม และต้องอธิบายเหตุและผลได้ แต่ให้อยู่ในกรอบ ขณะเดียวกันก็ไม่จำกัดความคิดของเด็ก ส่วนเด็กมัธยมมีสิทธิที่เลือกตั้งได้แล้ว เด็กสามารถที่จะแสดงออกได้ แต่ครูจะเตรียมให้ความรู้เด็กให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ในการเป็นพลเมืองที่ดี สอดคล้องกับพระบรมราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ในเรื่องการมีเจตคติที่ดีต่อบ้านเมือง มีคุณธรรม การมีงานทำ และเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ โดยให้นักเรียนมีการทดลองระบบประชาธิปไตย เช่น มีสภานักเรียน เพื่อให้เด็กแสดงออกทางความคิด ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพคนอื่น หรือข้อจำกัดของหน้าที่และบทบาทในความเป็นพลเมืองที่ดี หรือการแสดงออกต่างๆ ก็จะทำให้เสียหาย" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ภาพพานดอกไม้ไหว้ครูที่เสนอไอเดียเชิงล้อการเมือง พร้อมข้อความแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า “ต้องรีบปรับตัว สถานการณ์ประเทศพัฒนาไปเร็วมาก แม้แต่เด็กนักเรียนลูกหลานของพวกเรา พวกเขาก็เข้าไปแล้ว”
“อยากบอกพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องเอาใจใส่พูดคุยแลกเปลี่ยน ความคิดกับลูกหลานด้วยครับ เพราะวัยนักเรียนง่ายแก่การชี้นำ มองโลกบวกมาก พวกเขาจะเอาประชาธิปไตยเล่าเรื่อง ไปล้างสมองได้ง่าย”
“รัฐบาลก็ไม่ควรละเลยครับ ต้องเฟ้นคนดี มีฝีมือเข้าไปทำงาน เพราะศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก ขนาดจีนมหาอำนาจรายใหม่ของโลกยังมีต่างชาติเข้าไปยุแหย่ นับประสาอะไรกับไทยเรา นี่แค่ยังไม่มีอะไร พวกเขายังเชิญฝรั่งเข้ามาวุ่นวายไปหมด ถึงเวลาที่พรรคการเมืองต้องเอาอุดมการณ์เพื่อชาติและประชาชนมาชี้นำการต่อสู้แล้ว พวกเราถึงจะสู้ได้”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |