ที่มาภาพ http://www.salang2479.com/
25 ก.พ.2561 - เมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุว่ามีชายพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ เลขที่ 99/9 หมู่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณหน้าร้านคริสปี้ ครีม ชั้น 1 ของศูนย์การค้าดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์การค้าฯ นำชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลชลประทาน ปากเกร็ด ไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ทราบชื่อต่อมาคือ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อายุ 81 ปี อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ อยู่บ้านเลขที่ 9/9 หมู่ 5 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสอบปากคำ น.ส.วาสนา กราดทั่ง พยานที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่าก่อนเกิดเหตุเห็นผู้เสียชีวิตเดินอยู่บนชั้น 7 ตามปกติ จากนั้นได้เดินไปที่กระจกทางกั้น แล้วปีนข้ามและพลัดตกลงไป
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบเอกสารของชายคนดังกล่าว ไม่พบเอกสารยืนยันตัวบุคคล และพบกระดาษเขียนด้วยลายมือ ปรากฏข้อความลาตาย ลงชื่อ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน
เสร็จแล้วจึงเดินทางไปยังโรงพยาบาลชลประทาน และได้ตรวจสอบรูปพรรณศพ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ พล.ต.อ.สล้าง จริง จึงได้แจ้งแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ มาร่วมชันสูตรศพต่อไป
สำหรับจดหมายลาตายของ พล.อ.สล้าง เป็นสมุดฉีก ด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงิน ใจความว่า "ร้านกาแฟชั้นบน เพื่อนๆ ลูกหลานที่รัก พ่ออยู่ได้ไม่เกิน 2 ปี ขอจากไปอย่างเกิดประโยชน์ ขอให้ทุกคนที่ทราบเรื่อง ช่วยกันคัดค้าน รางคู่ขนาด 1.000 เมตร รถไฟฟ้ายกระดับ ผลักดันให้สร้างถนน Autobahn (ถนนออโตบาห์น หรือ ถนนไม่จำกัดความเร็ว) ช่วยกันทำหนังสือนี้แจกกันให้มากๆ
พ่อนับ 1-1,000 แล้ว วิธีการนี้จะเป็นประโยชน์ ขอโทษคนที่รักทุกคนด้วย พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อย่าตำหนิ ขอให้ภูมิใจ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ จะไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะสื่อ ช่วยกันปกปิดแล้วส่งเสริม"
ส่วนแผ่นที่ 2 เขียนข้อความว่า "งานพิธี พ่อขอแต่งชุดสากล รูป เครื่องแบบปกติสีกากี เอาทิ้ง ขอร้องให้พิมพ์เอกสารนี้แจกจ่าย เพื่อประชาชนจะได้ทราบและเรียกร้องสิทธิของตนเอง"
แผ่นที่ 3 ระบุข้อความ "ขอให้ลูกเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ขอให้หลานเป็นเด็กดี ขอให้ชมรม ... (ข้อความอ่านไม่ชัด) รักกันตลอดไป ฝากลา ป.200 ด้วย ปฏิรูปตำรวจ ทำแค่จะมีเครื่องมือช่วยในการทำงานอย่างไร เอาเงินในโต๊ะทำงานให้นุช 20,000 .- การไป รพ. ไม่ใช่ความผิดของนุช"
พล.ต.อ.สล้าง เกิดเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2480 ที่ จ.ราชบุรี เป็นบุตรของหลวงพินิตพาหนะเวทย์ (พิง) มารดาชื่อ ทองอยู่ (สกุลเดิม ลิมปิทีป) สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รับราชการในกรมตำรวจ ระหว่างที่รับราชการอยู่นั้น พล.ต.อ.สล้าง ได้รับฉายาว่า "เสือใต้" จากผู้ใต้บังคับบัญชา จากการเป็นนายตำรวจมือปราบ คู่กับ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ซึ่งได้รับฉายาว่า "สิงห์เหนือ"
เคยมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ขณะนั้น พล.ต.อ.สล้าง เป็นรองผู้กำกับการ 2 รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สุวิทย์ โสตถิทัต ผู้บังคับการกองปราบปราม ของคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2519 ให้นำกำลังตำรวจปราบจลาจล 200 นายไปรักษาความสงบที่บริเวณท้องสนามหลวง และหน้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ใน ครั้งนั้นมีการเรียกกำลังของตำรวจตระเวนชายแดนประมาณ 50-60 นาย ซึ่งมีอาวุธปืนขนาดใหญ่ ปืนครก อาวุธปืนที่ติดกล้องเล็ง และตำรวจแผนกอาวุธพิเศษ หรือหน่วย "สวาท" ทั้งแผนกอีก 45 นาย ในเช้าวันนั้นเฉพาะกำลังส่วนที่ติดอาวุธหนัก และร้ายแรงที่สุดของกรมตำรวจ 3 หน่วยนี้ที่ถูกใช้ในการโจมตีมีถึง 300 คน นอกจากนี้ยังมีตำรวจจาก สน.และหน่วยงานอื่นๆ อีกประมาณ 50 ถึง 100 หน่วยงานเข้าร่วมด้วย
ต่อมาเวลาประมาณ 8.00 น. ของวันเดียวกัน ก็ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมตำรวจ ให้เข้าไปทำการตรวจค้นจับกุม และให้ใช้อาวุธปืนได้ตามสมควร แต่อย่างไรก็ตามที่ได้รับคำสั่งให้ใช้อาวุธได้ จากอธิบดีตำรวจนั้น ได้รับคำสั่งโดยมีนายตำรวจ มาบอกด้วยวาจา และมีการมาบอกกันหลายคน จนเกิดการใช้อาวุธหนักโจมตีเข้าไปใน ม.ธรรมศาสตร์ จึงมีนักศึกษา ประชาชน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นจำนวนมาก
บทบาท พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 มีมากมาย แน่นอนว่าบทบาทของเขาในวันนั้นยังไม่หมดเท่านี้ ก่อนจะหมดวัน "ได้รับคำสั่ง" ให้ไปปฏิบัติการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง และทำให้มีชื่อเสียงที่ไม่อาจลบล้างได้จนทุกวันนี้
ในบ่ายวันดียวกัน หลังจากที่กลุ่มฝ่ายขวาเสร็จสิ้น "การฆ่าฟันนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์" สถานีวิทยุยานเกราะ ก็ได้สั่งการต่อให้กลุ่มลูกเสือชาวบ้านเดินทางไปที่สนามบินดอนเมือง เพื่อทำร้าย ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ แต่เจ้าหน้าที่สนามบินไม่ให้เข้าไป อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.สล้าง ได้เดินทางไปที่ดอนเมืองตามคำสั่งของสถานีวิทยุยานเกราะ โดยที่ไม่ได้รับคำสั่งจากกรมตำรวจ และ พล.ต.อ.สล้าง ได้เข้าไปด่าว่า ดร.ป๋วย ขณะที่พูดโทรศัพท์อยู่ และตบหู จนโทรศัพท์ออกจากมือของ ดร. ป๋วย หลายปีภายหลัง พล.ต.อ.สล้าง ได้พยายามแก้ตัวว่า ได้รับวิทยุสั่งการโดยตรงจาก พล.ต.ต.สงวน คล่องใจ ผู้บังคับการกองปราบฯ ให้รีบเดินทางไปที่สนามบินดอนเมือง เพื่อป้องกันช่วยเหลือ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ให้รอดพ้นจากการทำร้ายจากกลุ่มประชาชน พวกนวพล และกระทิงแดงให้ได้ จึงได้รีบเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง
อีกคดีที่โด่งดังคือ คดีวิสามัญฆาตกรรม โจ ด่านช้าง และพวกอีก 5 คน เมื่อปี 2539 เหตุเกิดจากชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง คือ นายศุภฤกษ์ เรือนใจมั่น หรือ โจ ด่านช้าง หัวหน้าแก๊ง นายสุบิน เรือนใจมั่น น้องชายของโจ ด่านช้าง นายประสิทธิ์ โพธิ์หอม นายยิ้ว ปริวัตรสกุลแก้ว นายหยัด และนายปราโมทย์ (ไม่ทราบนามสกุล) นำอาวุธสงครามครบมือ หวังฆ่านายอุบล หรือ เล็ก บุญช่วย อายุ 31 ปี หลังถูกหักหลังในธุรกิจค้ายาบ้าที่ทำร่วมกัน
แต่ตำรวจ สภ.อ.สองพี่น้องสามารถสกัดทัน คนร้ายหลบที่ใต้ถุนสูงและมีน้ำท่วมรอบบ้านเลขที่ 107/1 หมู่ 5 ตำบลบางใหญ่ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี และมีตัวประกันอยู่ในบ้านถึง 3 คน คือ นายประสงค์ ครุฑใจกล้า อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน ที่ป่วยเป็นอัมพาต นางบรรยงค์ ข้อทน อายุ 40 ปี ภรรยา และ ด.ญ.ประสาน ครุฑใจกล้า อายุ 11 ขวบ ลูกสาว จึงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่องกับคนร้าย
พล.ต.อ.สล้าง นั่งเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปสั่งการด้วยตัวเอง และเรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางคลี่คลาย มีคำคำสั่งให้ใช้การเจรจาเกลี้ยกล่อม และให้ตำรวจแฝงกายล้อมตัวบ้านในระยะใกล้ที่สุด เพื่อรอจังหวะลงมือ พร้อมส่ง พ.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองปราบปราม ถอดเครื่องแบบเดินถือโทรโข่งลุยน้ำเข้าไปเจรจา คนร้ายทั้ง 6 คน ยอมปล่อยตัวประกันและขอมอบตัว
ต่อมาคนร้ายทั้ง 6 ถูกใส่กุญแจมือ และถูกตำรวจพาเดินลุยน้ำมาจนถึงฝั่ง เหตุการณ์ที่ดูทีท่าว่าจะคลี่คลายไปด้วยดีกลับตาลปัตรไปอย่างไม่น่าเชื่อ คำให้การของฝ่ายตำรวจบอกว่า คนร้ายได้ขอให้ตำรวจนำตัวกลับเข้าในบ้านอีกรอบ เพื่อค้นหาอาวุธของกลาง ตำรวจจึงพากลับไปตามที่ร้องขอ หลังเข้าไปในบ้านประมาณ 20 นาที เกิดมีเสียงปืนรัวขึ้น สิ้นเสียงปืนคนร้ายทั้ง 6 คนถูกวิสามัญฆาตกรรม จนเป็นตำนานอื้อฉาวของพล.ต.อ.สล้าง ถูกขนานนามว่ามือปราบวิสามัญ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |