14 มิ.ย. 2562 นายเผด็จ ประดิษฐ์เพชร ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบติดตั้งตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม) นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาระบบ บัตร EMV (Euro/ MasterCard และ Visa) ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบปิด 2.0 อย่างไรก็ตามในปีนี้ชัดเจนแล้วว่าระบบตั๋วร่วมจะใช้ได้กับรถไฟฟ้าเพียง 3 สายเท่านั้น ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ซึ่งจะเริ่มเชื่อมต่อระบบในเดือน ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตามส่วนด้านรถเมล์และรถไฟฟ้าสายที่เหลือนั้นคงไม่สามารถดำเนินการได้ทันปีนี้ ส่งผลให้เป้าหมายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการให้เชื่อมตั๋วร่วมแบบ 4.0 ในระบ EMV บนรูปแบบใช้บัตรเครดิตชำระค่าโดยสารสาธารณะได้ทั้งระบบภายในปี 2562 นี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อน ซึ่งทางรฟม.แจ้งว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนเรื่องจัดทำระบบ ว่ารฟม.จะดำเนินการเอกทั้งหมดหรือมอบให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้พัฒนาระบบ 4.0 เบื้องต้น รฟม.แจ้งว่าต้องใช้เวลาพัฒนาระบบราว 12-18 เดือน
“ ซึ่งในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องของตั๋วร่วมในหลายประเด็น ตามที่กระทรวงคมนาคมมอบการบ้านให้ไป เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่างานมีความล่าช้าและบางส่วนก็ยังไม่ได้เริ่มพัฒนาเลย อาทิ การจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเข้ามา จัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) แนวทางควบคุมค่าโดยสารและระบบค่าโดยสาร่วม(Common Fare) ตลอดจนรูปแบบการพัฒนาซอฟแวร์ตั๋วร่วม 4.0 เป็นต้น”นายเผด็จกล่าว
นายเผด็จกล่าวต่อว่าดังนั้นกระทรวงคมนาคมจะพัฒนาระบบบัตรแมงมุมทั้งสองระบบ กล่าวคือบัตรแมงมุมระบบ 2.0 จะใช้ได้ภายในปีนี้กับรถไฟฟ้า 3 สาย และระบบบัตรแมงมุม 4.0 ซึ่งจะใช้ได้กับระบบขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบ ทั้ง รถไฟฟ้า รถเมล์ เรือด่วนและการจ่ายค่าทางด่วน เป็นต้น สาเหตุที่พัฒนาทั้ง 2 ระบบพร้อมกันนั้นเหมือนกันในแต่ละประเทศทั่วโลกที่ต้องมีทั้งสองระบบรองรับการใช้งานของประชาชน โดยจากการเก็บข้อมูลล่าสุดพบว่าในประเทศอังกฤษปัจจุบันมีผู้ใช้ บัตรตั๋วร่วม 2.0 (Oyster Card) คิดเป็น 60% ส่วนผู้ใช้บัตรตั๋วร่วม EMV 4.0 มีผู้ใช้คิดเป็นสัดส่วน 40%
อย่างไรก็ตามขณะที่ความคืบหน้า ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติเห็นชอบหลักการเพื่อตั้งคณะกรรมการนโยบายตั๋วร่วมขึ้นมาดูแลแนวทางกำกับงานด้านตั๋วร่วมและบัตรแมงมุมในระดับนโยบาย โดยตัวแทนคณะกรรมการจะมาจากหน่วยงานของรัฐบาล นั้นขณะนี้ได้ส่งแนวทางให้กระทรวงคมนาคมแล้ว รอเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่านายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินโครงการตั๋วร่วม เนื่องจากที่ผ่านมามีความล่าช้าไปมาก โดยเฉพาะความคืบหน้าการพัฒนาระบบ 4.0 นั้นตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการพัฒนา ส่วนด้านรถเมล์ ขสมก.นั้นมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถเชื่อมต่อระบบได้ในปีนี้ เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องข้อพิพาทโครงการ E-Ticket ที่ยังอยู่ในขั้นตอนยกเลิกสัญญา ล่าสุดได้รับรายงานว่าทางบริษัทคู่สัญญาคือ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) นั้นเตรียมส่งหนังสือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมายังขสมก. ส่วนตัวเลขการฟ้องร้องนั้นขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะฟ้องร้องเต็มวงเงินโครงการ 1,655 ล้านบาทหรือไม่ เนื่องจาก ขสมก.ได้บอกเลิกสัญญาทั้งโครงการไปแล้ว จากเดิมที่จะบอกเลิกสัญญาเพียงครึ่งเดียวและจ่ายเงินให้ราว 800-900 ล้านบาทเป็นค่าติดตั้งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |