"คุณช่อ" งานเข้าแล้ว "เตชะ ทับทอง-ไฮโซซินเธีย" แจ้งความกับ ปอท. เอาผิด ม.112 ส่วนเจ้าตัวกลับไทยแล้วล่องหนทันที "ท่านใหม่" ข้องใจ "ปรเมศวร์" สมควรโดนยึดเครื่องราชฯ ไล่ออกจากอัยการไปอยู่กับแม่ช่อ เจอสวนทันควันต้องเข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยเขาแสดงกันอย่างไร
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายเตชะ หรือเต้ ทับทอง กลุ่มหนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ และ น.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด ไฮโซแกนนำกลุ่มคนไทยผู้รักชาติ พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนร่วม 10 คน เข้าพบ ร.ต.อ.เครือณรงค์ ขมิ้นเครือ รอง สว. (สอบสวน) บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กรณีโพสต์ภาพที่หมิ่นเหม่ว่าจะเข้าความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ทั้งนี้ นายเตชะและ น.ส.ซินเธียต่างปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกเพียงว่าต้องการมาแจ้งความ เพราะทราบจากข่าวว่ายังไม่เคยมีใครมาร้องทุกข์กรณีดังกล่าว และไม่ได้อยากให้เป็นข่าว ก่อนเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มไลน์พรรคอนาคตใหม่ แจ้งว่า “แจ้งทราบนะคะ ตอนนี้คุณช่ออยู่ประเทศไทยแล้วนะคะ เดินทางมาถึงเมื่อเช้านี้ คุณช่อเปลี่ยนตั๋วกลับเนื่องจากมีภารกิจส่วนตัว ส่วนจะมีแถลงหรือไม่จะแจ้งอีกทีนะจ๊ะ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปทางโทรศัพท์ พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ และไม่มีใครทราบว่า น.ส.พรรณิการ์อยู่ที่ไหน
ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือท่านใหม่ แสดงความเห็นกรณีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ออกมาปกป้อง น.ส.พรรณิการ์ ว่า "ผมขอย้ำข้อเขียนของ คุณเปลว สีเงิน อีกหน่อยครับ ที่ว่า ขอฝากถึง "รองอธิบดีอัยการ" ปรเมศวร์ นิดนึง "เอากะเขาด้วยรึ...ท่าน?"
"ถ้าเป็นจริง ทำไมไม่สำนึกตัวเองว่าเป็นใคร เป็นถึงรองอธิบดี ข้าราชการระดับสูง เช่นนี้สมควรโดนยึดเครื่องราชฯ และไล่ออกจากสำนักอัยการสูงสุด ไปอยู่กับแม่ช่อซะเลยจะดีกว่า" ม.จ.จุลเจิมระบุ
ต่อมานายปรเมศวร์ชี้แจงว่า มีบางคนที่ไม่เข้าใจที่ตนพูด หรือไปสื่อความหมายผิด เรื่องนี้ตนไม่ได้บอกว่า น.ส.พรรณิการ์ผิดหรือไม่ผิด แค่ถามว่าเราจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร นำสถาบันลงมาเล่นกันเพื่อให้เกิดความแตกแยกกันอีกแล้วหรือ เรื่องนี้อย่าทำคดีด้วยความโกรธ ถ้าเขาผิดก็ทำคดีไป
"เรื่องนี้ตำรวจเขาก็ดำเนินการอยู่ ผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยอยู่แล้ว ลองไปอ่านที่ผมเขียนดูดีๆ เรื่องนี้ผมเพียงให้ความเห็นว่าเป็นการทำเพื่ออะไร เพราะบ้านเมืองเรากำลังเป็นอยู่แบบนี้ จะไปนำเรื่องขึ้นมาให้เกิดความแตกแยก"
อย่านำมาเล่นการเมือง
เขากล่าวว่า เรื่องของสถาบันหรือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน อย่านำมาเล่นกันในทางการเมือง จะดำเนินคดีก็ดำเนินคดีไป ตนแค่มองไปว่าเขาทำตอนที่เขายังเป็นเด็ก กับตอนปัจจุบันนี้ คุณคิดอย่างไรกันก็เท่านั้น ลองอย่าเอาความรู้สึกมาตอบ คนบางคนมีความเห็นโดยเอาแค่ความรู้สึกเท่านั้น ตนไม่ได้เป็นคนที่มีความเห็นโดยเอาแต่ความรู้สึก อย่างบางคนที่ไม่เห็นด้วยในประเด็นที่มองว่า น.ส.พรรณิการ์ ขณะนั้นอายุ 21 ปี บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็มีการวิจารณ์กันมา ตรงนี้ก็เป็นเหตุผลที่ตนรับฟังอยู่ แต่ในส่วนที่มาด่ากันโดยที่ไม่ได้ดูเหตุผลของความเห็นมันไม่สร้างสรรค์ ระบอบประชาธิปไตยคือการมีส่วนร่วม การใช้ความเห็น ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญก็ให้แสดงความเห็นได้
“ประการแรก ผมไม่ได้บอกซักคำว่าใครผิดไม่ผิด ประการที่สองคือ ผมไม่ได้พูดอะไรถึงสถาบันหรือพระเจ้าอยู่หัวเลย เราทำงานอยู่ในหน้าที่ ไปดูได้ตามโพสต์เก่าๆ ของผม ยกพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ แต่ทีนี้กลับมามองผมมุมเดียว คนไทยเรายังมีข้อเสียตรงนี้"
อัยการผู้นี้กล่าวว่า วันนี้เราอยากได้คนที่มองเห็นทุกมุมทุกมิติ ถ้าถามถึงความจงรักภักดี ถึงผมไม่แสดงออก แต่ผมมีเต็มร้อย การใส่เสื้อสีไม่ใช่การแสดงความจงรักภักดี แต่การปฏิบัติตามแนวทางพระเจ้าอยู่หัวนั่นคือการเชิดชูความจงรักภักดีที่สูงสุด ผมเชื่ออย่างนั้น ผมเลยอยากเตือนสังคมว่า อย่าเอาเรื่องพวกนี้มาเล่น
"ผมไม่รู้จักใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณช่อหรือคุณธนาธร ผมยังเคยไปออกทีวีและพูดถึงพรรคการเมืองนี้ว่ายังไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ เพราะยังมีประสบการณ์น้อย และห้าวเกินไป เนื่องจากนายกฯ จะต้องมีความสุขุมลุ่มลึก ส่วนท่านใหม่จะคิดยังไงมันก็เป็นเรื่องของท่าน จะว่าอะไรก็ว่าไป แต่ท่านใหม่ต้องเข้าใจว่าการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยเขาแสดงกันอย่างไร อันนั้นคือหลัก ผมไม่ได้โกรธใครทั้งนั้น” นายปรเมศวร์กล่าว
นายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ว่า โดนอีกคนแล้ว!!! รองอัยการสูงสุดท่านหนึ่งกำลังถูกขับไล่ไสส่งให้ไปอยู่กับฝ่ายตรงกันข้าม บางคนไล่ให้ไปอยู่ต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ท่านแสดงความเห็นในทางกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
เขาระบุว่า ยิ่งไล่มากเท่าใดคนถูกไล่ก็จะมากขึ้นเท่านั้น ข้าพเจ้าชูแขนขึ้นป่าวประกาศธรรม แต่หามีใครเชื่อฟังข้าพเจ้าไม่ ธรรมนำมาซึ่งความสงบสุข แต่ไฉนเล่าจึงไม่มีผู้ใดปฏิบัติธรรม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายปรเมศวร์โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตอนเราเด็ก เราก็คิดอย่างเด็ก พอเราโตเราคิดอย่างผู้ใหญ่ ทำไมต้องถอยหลังไปเล่นงานตอนเขาเป็นเด็กเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เพื่ออะไร
"ปวิน"ตอก"ปิยบุตร"
นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้ต้องหาหนีคดี ม.112 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ทุบโต๊ะ บอกว่าการล่าแม่มดช่อต้องหยุดเดี๋ยวนี้ โทษนะคะ ล่าแม่มดคือปลายเหตุ ต้นเหตุคือปัญหา 112 ที่กลายมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่เมื่อคุณบอกว่าจะไม่แตะมัน แล้วจะมาไล่แก้ปัญหาปลายเหตุเพื่อประโยชน์อะไร
"ส่วนเรื่องขำๆ อื่นๆ ฝ่ายอนาคตใหม่ก็ล่าแม่มดอีเอ๋เท่าๆ กัน ไหนบอกเราต้องเอาชนะมันด้วยความรักไงคะ" นายปวินระบุ
นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ว่าที่เลขานุการประธานรัฐสภา ให้ความเห็นว่า มีพรรคการเมืองบางพรรคที่มักประดิษฐ์วาทกรรมใหม่ๆ ในสังคม หรือพยายามบิดเบือนการนิยามคำเหล่านั้น เพื่อใช้ในการตีความสนับสนุนการกระทำของตน ดังจะเห็นในกรณีล่าสุด ที่มีการเรียกร้องให้หยุดล่าแม่มด ซึ่งมีความหมายถึง การกำจัดกลุ่มบุคคลที่มีความเชื่อในศาสนาและพิธีกรรมที่แตกต่าง โดยแม่มดที่ว่านี้จะสอนและประกอบพิธีกรรมแบบหลบๆ ซ่อนๆ เพื่อไม่ให้ถูกล่า
ในขณะที่พฤติกรรมของบุคคลในพรรคการเมืองนั้นคือ การโพสต์รูปและข้อความซึ่งแสดงเจตนาอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพรักของคนไทยทั้งประเทศ เป็นการแสดงออกในที่สาธารณะทางเฟซบุ๊ก และที่สำคัญ สิ่งที่กระทำนั้นไม่ใช่ความเชื่อหรือความศรัทธาที่แตกต่าง แต่เป็นการกระทำที่หมิ่นเหม่ต่อความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตราที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการล่าแม่มดแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของบุคคลที่มีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามหน้าที่ นอกจากนี้พฤติกรรมดังกล่าวยังขัดกับความรู้สึกคนไทยส่วนใหญ่ ก็เป็นธรรมดาที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิ
นายอิสระกล่าวอีกว่า ในกรณีที่พรรคการเมืองใด เห็นว่าข้อกฎหมายใดไม่เหมาะสม หรือขัดต่ออุดมการณ์ความเชื่อของพรรคตนเอง ก็สามารถที่จะใช้สิทธิ์เสนอปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเหล่านั้นในฐานะการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างเปิดเผยก็ย่อมได้ ซึ่งน่าจะเป็นแนวทาง มีความเหมาะสมกว่าการสร้างวาทกรรมที่นำไปสู่ชนวนความขัดแย้งให้กับสังคมเพิ่มมากขึ้นอีก
เล่นงาน"จันทร์โอชา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความองค์กรปกป้องความยุติธรรมและพระพุทธศาสนา เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อขอให้ตรวจสอบบุคคล 2 ราย มีภาพปรากฏตามสื่อต่างๆ ในลักษณะเลียนแบบเชื้อพระวงศ์ รวมถึงตรวจสอบการใช้ถ้อยคำของผู้คนในโลกโซเชียลว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่
น.ส.เบญจรัตน์กล่าวว่า ตามที่มีภาพของบุคคลทั้งสอง ซึ่งมีนามสกุลเดียวกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในลักษณะเลียนแบบที่ไม่เหมาะสม จนคนทั่วไปที่ไม่ทราบอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเชื้อพระวงศ์หรือไม่ จึงต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้ใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร โดยจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพว่าเข้าข่ายความผิดใด รวมถึงบุคคลในทวิตเตอร์ที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ว่าเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ ก่อนพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
น.ส.เบญจรัตน์กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ปกป้องใคร แต่ต้องการให้ทุกคนทราบว่าความสามัคคีจะเกิดขึ้นต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะปัญหาปัจจุบันเกิดจากความไม่ยุติธรรมของกฎหมาย นักการเมืองทุกคนทั้ง ส.ส.และ ส.ว. รวมถึงนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับการตรวจสอบเช่นกัน
สำหรับภาพบุคคล 2 รายดังกล่าวคือ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |