ครอบครัวของ น้ำตาล เดอะสตาร์ หรือ บุรศรัณย์ ทองชิว นำโดย คุณแม่สุขใจ ถิรเมธีกุล พร้อมด้วยพี่สาว น้ำผึ้ง -พิมพ์รดา ทองชิว  และพี่เขย กิตต์ธีธัช ก้องภพจิรพัฒน์ ได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่วินาทีที่น้ำตาล เดอะสตาร์  เกิดอาการเลือดออกทางปาก และจมูกจนเข้าขั้นโคม่า ต้องย้ายจากโรงพยาบาลประจำจังหวัด มารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช

            โดยคุณแม่สุขใจ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า “ก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้น ทุกอย่างปกติ มาทานข้าวกับแม่ แต่จู่ๆ เขาก็บ่นว่าเหมือนเลือดกำเดาจะไหล แล้วเขาก็แตะดูบริเวณจมูกไม่มีเลือด ในขณะที่เขาพูดเสร็จ มันเหมือนมีอาการคล้ายเด็กสำรอกออกมานิดนึง เป็นลิ่มเลือด เขาถามว่าทำไมถึงออก หรือเลือดจะไหลมาจากบริเวณลำคอ และออกมาที่ปาก แม่บอกว่าอาจเป็นไปได้ แต่พอพูดได้แปปเดียว ก็มีอาการออกมาอีก

          จากนั้นก็ขย้อนออกมาเรื่อยๆ ครั้งนี้ออกมาทางจมูกด้วย จนเขาไม่มีแรงแล้ว เลือดออกมาเยอะมาก แม่เลยให้เขาไปนั่งลงก่อน แต่พอนั่งได้แปปเดียว เขาก็หายใจไม่คล่องแล้ว แม่เลยให้เขานอนลง และปั้มหัวใจ จากนั้นให้ลูกน้องโทรศัพท์เรียกรถโรงพยาบาล พอรถพยาบาลมาจากนั่นแม่ไม่ทราบแล้วว่าขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไร

          ตอนนั้นตกใจมาก ตอนแรก เรานึกว่าเป็นเลือดกำเดา แต่มันเยอะมาก  เขาก็ไม่ไหวแล้ว หน้าเขาแสดงอาการตกใจ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเลือดมันทะลักออกมา จนพูดไม่ได้ ตอนนั้นเขายังไม่หมดสติ แต่มีอาการหายใจขาด ต้องคอยปั้มหัวใจ จนรถพยาบาลมา”

          ด้านพี่เขยได้เสริมว่า” หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากหลายๆ ที่ อย่างที่ ร.พ.กรุงเทพ ก็ได้ส่งรถที่มีอุปกรณ์พร้อมในการเคลื่อนย้ายที่ดีที่สุดมา ตอนนี้ได้อยู่ในมือของแพทย์ที่ดีที่สุด เท่าที่จะดีได้ในสถาการณ์ปัจจุบันตอนนี้ หากถามว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร มันมีความปลอดภัยที่ได้อยู่ในมือแพทย์ ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะทางนี้ แต่ถามว่าเอาชัดๆ ว่าเป็นอะไรหรือยังไง อันนี้ก็ต้องรอข้อมูลจากทางแพทย์นะครับ ซึ่งก็น่าจะเป็นพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ทางแพทย์จะออกมาบอกได้ว่าการทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรจริงๆ และผลการดูแลต่อไปจะทำยังไงต่อ เขาจะให้คำตอบพรุ่งนี้ ตอนนี้เราก็ยังรออยู่เหมือนกัน และเราก็คาดหวังในผลลัพธ์ที่มันดีที่สุดอยู่แล้วครับ แต่มันจะเป็นอย่างไร ก็ต้องพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ให้ทางอาจารย์แพทย์ออกมาบอกอย่างชัดเจน”

          ส่วนพี่สาวเผยว่า “ในส่วนของการรักษา ผึ้งอยากให้หมอเป็นคนดูแลและเป็นคนบอกจะดีกว่า วันนี้เราเห็นทุกคนให้ความสนใจ ต้องขอบคุณทุกกำลังใจ เราเชื่อว่าถ้าตาลรับรู้เขาจะต้องดีใจ และอยากให้โฟกัสในสิ่งดีๆที่มันจะเกิดขึ้น อยากให้เป็นกำลังใจให้พวกเรา อย่างไรเขาจะต้องหาย และเราจะต้องมีความหวังให้ดีขึ้น”