มันไม่มีการล่าแม่มดหรือล่าแม่ชะนีน้ำเดิน-น้ำแตกอะไรที่ไหนหรอก...คุณปิยบุตร
ฉะนั้น........
ที่บอกว่า "หยุดล่าได้แล้ว" บ้าง
เป็นการนำสถาบันมากลั่นแกล้งใส่ร้ายกันทางการเมืองบ้าง นั้น
.........อย่าแถ!
เพราะกรณีนี้ มันไม่มีใครล่าใคร
มีแต่ชาวชนผู้มีความเป็นคน และระลึกรู้ถึง "พระคุณอันประเสริฐ" ขององค์ "พระมหากษัตริย์" ที่ทรงมีต่อแผ่นดินนี้ และมวลอาณาประชาราษฎร์
เขาทั้งหลาย อยากเจอนางสาวพรรณิการ์......
เพราะเธอเป็น ส.ส.ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
กินเงินเดือนประชาชน เป็นตัวแทนประชาชนในรัฐสภาของพระมหากษัตริย์
จึงอยากได้รับคำอธิบายจากปาก ส.ส.พรรณิการ์ ว่า
"เรื่องราว, ข่าว, ภาพ" ที่เธอพูดและแสดงออกต่อสถาบันและองค์พระมหากษัตริย์
ซึ่งส่อไปในทาง "หยาม-เย้ย-ย่ำยี" ต่างๆ นานา
อย่างที่เธอโพสต์ ทวีต ไอจี เรื่อยมา ดังเช่น ในชุดครุยบัณฑิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ดังปรากฏ
แล้วแสดง "ภาษากาย" ส่อทัศนคติทรามบัณฑิตต่อ "พระบรมฉายาลักษณ์" อย่างนั้น
คนไทยที่รักชาติ รักแผ่นดิน และเทิดไว้ด้วยระลึกในองค์คุณพระมหากษัตริย์ ต้องการคำอธิบายชัดๆ ว่า
นี่คือ "ตัวตนแท้จริง" ของ ส.ส.พรรณิการ์ใช่ไหม?
รุกคืบเข้าสภาด้วยเป้าหมาย อย่างที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ประกาศ..........
สานต่อ "อภิวัฒน์ประชาธิปไตย ๒๔๗๕"
ความหมาย คือ
"ล้มระบบกษัตริย์" สถาปนาระบบ "ประธานาธิบดี"
อย่างนี้ใช่หรือไม่ใช่?
เพราะทั้งกิริยาอาการและทั้งคำอักษรสื่อสารต่อเนื่องมากมายของเธอ
เมื่อเข้าสมการแห่งพฤติกรรมปัจจุบัน มันสอดคล้องไปด้วยกัน
ดังนั้น คนไทยที่ไม่เนรคุณแผ่นดิน อยากรู้ จึงถามไถ่
ไม่ใช่ไล่ล่า......
คนอย่างพรรณิการ์ จะต้องไล่ล่าด้วยหรือ?
หากเพราะเธอเป็น "ตัวแทนประชาชน" ตะหาก แต่สิ่งที่เธอทำต่อสถาบัน
ประชาชนจะนิ่งเฉย โดย "ธุระไม่ใช่" ไม่ได้
เพราะถ้าปล่อยผ่าน........
ที่ "พรรณิการ์" ในวันนั้น ทำ เท่ากับ "ประชาชน" ยอมรับในความเป็น "ส.ส.พรรณิการ์" ในวันนี้
แต่เพราะประชาชนทั้ง "ไม่ยอมรับ" และทั้ง "ยอมรับไม่ได้" ในพฤติกรรม และทัศนคติทรามของเธอต่อสถาบันตะหาก
ธุระนี้ จึงใช่ เข้าใจใช่มั้ย คุณปิยบุตร?
คุณก็เป็น ส.ส.เป็นถึงระดับเลขาฯ พรรค ในความจริงแห่งจิตสัตย์ของคนสถานะนี้
นอกจากจะไม่กล่าวเยี่ยงนี้แล้ว........
ควรที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยตระหนักรู้ ในชาติ, ในแผ่นดิน, ในสถาบันพระมหากษัตริย์
มากกว่าออกมาปกป้องนอกทาง ประหนึ่งว่า "โจรีพลาดท่า-โจราเข้าอุ้ม"
เป็นกล้วยปอกเปลือก เถลือกไถลไปด้วยกัน!
ที่นี่ "สภาไทย" เพื่อ ชาติ, ศาสน์, กษัตริย์, ประชาชน
ไม่ใช่สภาพวกฟิวเจอริสตา "จมูกเฟ็ด-ตาเบ็ดงอ" พ่อของฟ้าแฝง หวังเปลี่ยนระบอบ ล้มสถาบัน เพื่อทักษิณ
ฉะนั้น........
คนเป็นตัวแทนประชาชนในรัฐสภา จะพูด, จะทำ, จะแสดงอะไร ต้องจำใส่กระบาลไว้
ซึ่งพระราชดำรัส "พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" ในวันทรงเปิดประชุมรัฐสภานัดปฐมฤกษ์ ๒๔ พ.ค.๖๒ ความตอนหนึ่ง ที่ว่า........
".........ขอให้สมาชิกแห่งสภาพึงนึกถึงความสำคัญและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง
เพราะการกระทำทุกอย่างของแต่ละคน จะมีผลโดยตรงถึงความมั่นคงของประเทศและความสุขทุกข์ของประชาชน"
นั่นคือ.......
พฤติกรรมบ่มเพาะเป็นสันดานอัน "ส.ส.พรรณิการ์" ไม่ละทิ้ง ทั้งแสดงออกแทบทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
ระดับรองศาสตราจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชนอย่างปิยบุตร จะดูไม่ออก มองไม่รู้เชียวหรือว่า
การกระทำของ ส.ส.พรรณิการ์........
"มีผลโดยตรง ถึงความมั่นคงของประเทศ และความสุขทุกข์ของประชาชน"
ต้องรู้........
ยิ่งเป็นผู้สอนกฎหมายมหาชนด้วยแล้ว ยิ่งกว่ารู้เสียอีก!
ดังนั้น วาทกรรมปกป้อง และวาทกรรมที่เลขาฯ พรรค ใช้สร้างทางถูกให้ "โฆษกีอนาคตใหม่" ส.ส.พรรณิการ์ ดังที่ทำ
ไม่น่าเป็นวิสัยคนระดับครูบาอาจารย์ที่สอนกฎหมายมหาชน!
และสังเกตว่า ครั้งใดที่จวนตัว-จนแต้ม ก็จะงัด "ตรรกะวิบัติ" ขึ้นมาเป็นน้ำยาเคลือบหน้า
เอาอดีตมาไล่ล่าบ้าง เอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองบ้าง
จริง-ไม่จริง, ใช่-ไม่ใช่ วิญญูชนตอบข้อนี้ได้เอง
แต่อยากสะท้อนเงาทั้งของปิยบุตรและทั้งของธนาธรให้เห็น ว่า ประเด็นเอาอดีต เอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือ นั้น
ก็ตัวเองนั่นแหละ ชัดๆ ที่ทำอย่างนั้น
ที่ชูประเด็น "สานต่อ" อภิวัฒน์ประชาธิปไตย ๒๔๗๕ ยึด "อำนาจพระมหากษัตริย์-สถาปนาอำนาจคณะราษฎร์" แล้วบอกว่า "สยามเป็นประชาธิปไตย" แล้ว
แบบที่ "ธนาธร-ปิยบุตร" สานต่องานคณะราษฎร เมื่อ ๘๗ ปีที่แล้ว อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้
นี่แหละ คือการเอาอดีตไล่ล่าปัจจุบัน และเป็นการเอาสถาบันมาใช้ในทางเป็นปฏิปักษ์ เพื่อผลทางการเมืองที่ชัดแจ้ง
ใครทำ......
ด่า "ไอ้ริยำ" ไม่พอ
ควรต้องกระทืบด้วย!
ปิยบุตรเป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายรัฐธรรมนูญ คงเชี่ยวแต่รัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ฉบับ "แซ็ง-ฌุสต์, รอแบ็สปีแยร์" ในยุคปฏิวัติฝรั่งเศสละกระมัง?
ไม่เชี่ยวในรัฐธรรมนูญไทย ที่คลอดปิยบุตรมาเป็น "ท่านผู้ทรงเกียรติ" ในรัฐสภาวันนี้เป็นแน่
จึงไม่ทราบว่า..........
รัฐธรรมนูญ ฉบับปี ๒๕๖๐ ในหมวด ๔ "หน้าที่ของปวงชนชาวไทย" ระบุไว้ "เป็นหน้าที่" ของคนไทยทุกคน
มาตรา ๕๐ บุคคล มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(๒) ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
อื่นๆ อีก รวม ๑๐ ข้อ
และในข้อที่ (๑๐) บอกว่า..........
"ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ"
นั่นคือ ที่ทุกคน "จิกติด" ส.ส.พรรณิการ์ ไม่ใช่การไล่ล่า
หากแต่เป็น "การทำหน้าที่" ในฐานะ "ปวงชนชาวไทย"
หรือ ธนาธร-ปิยบุตร........
ไม่ใช่บุคคลในความหมาย "ปวงชนชาวไทย"?
จึงพึงพอใจต่อสิ่งที่ ส.ส.พรรณิการ์ทำ ซ้ำไม่แยแสสนใจต่อหน้าที่คนไทย "ที่ดี" พึงต้องทำ?
ถ้าบุคคลมีพฤติกรรมเยี่ยงนางสาวพรรณิการ์ยังคงเป็น ส.ส.เชิดหน้าโชว์คางเขียงอยู่ในรัฐสภาได้
โดยกฎหมาย, กฎสังคมตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ "ไม่ถูกนำปฏิบัติ"
นั่นเท่ากับการ "ทดสอบ-ท้าทาย" ของฝ่ายสืบต่อล้มอำนาจระบบกษัตริย์สัมฤทธิ์ บรรลุขั้น "เปลี่ยนผ่าน" ไปถึงสัญญาณตีธง "รุก-ล้าง" ได้แล้ว
เรื่องที่สนทนากันวันนี้ ก็คงเท่านี้กระมัง
แต่...อ้อ
ขอฝากถึง "รองอธิบดีอัยการ" ปรเมศวร์นิดนึง
"เอากะเขาด้วยรึ...ท่าน?"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |