มทภ.4ปรับแผน ทหารเกาะพื้นที่ นอนในหมู่บ้าน


เพิ่มเพื่อน    

 "มทภ.4" ร่วมเวทีขับเคลื่อนสภาสันติสุขปัตตานี สั่งปรับยุทธวิธีให้ทหารนอนในหมู่บ้าน เรียนรู้พื้นที่ใกล้ชิด ปชช.แทนนอนเฝ้าฐาน "ผบช.ภ.9" นำ 2 คนร้ายวางระเบิดตลาดบ่อทองทำแผนคำรับสารภาพ เผย "บูคอลี" หัวโจ๊กสั่งการ "ยะลา" ตั้งด่านคุมเข้ม หลังหน่วยข่าวเตือนระวัง "รถกระบะ-จยย.บอมบ์" ก่อเหตุในเมืองและ อ.กรงปินัง

    ที่หอประชุมอาคารวิทยอิสลามนานาชาติ  วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตปัตตานี วันที่ 12 มิ.ย. พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานเปิดเวทีการขับเคลื่อนสภาสันติสุข ระดับจังหวัดปัตตานี ผู้นำท้องถิ่น และคณะกรรมการสภาสันติสุขระดับจังหวัด 115 ตำบล ของจังหวัดปัตตานี เพื่อหาแนวทางการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนใต้ ประจำปี 2562 ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานและนโยบายที่สำคัญของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งรับฟังปัญหาข้อขัดข้องที่เคยได้ผ่านเวทีการมีส่วนร่วมของประชาชน สำหรับพูดคุยหาแนวทางเสริมสร้างสันติสุข ให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มี รศ.อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ รองธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พร้อมด้วยนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการสภาตำบลสันติสุข เข้าร่วมประชุม
    พล.ท.พรศักดิ์กล่าวว่า เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่างๆ จากทุกภาคส่วนและดำเนินการปฏิบัติงานตามแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ประจำปี 2562 โดยกำหนดนโยบายเร่งด่วน 3 งาน ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด, การควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัย และการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และเพื่อสร้างสังคมชายแดนใต้ให้เกิดความสันติสุข
    "กองทัพภาคที่ 4 ได้มีการกำหนดยุทธวิธีในการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในเรื่องความมั่นคงในพื้นที่ ในการรับรู้ข่าวสารความการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยให้ทหารนอนในหมู่บ้านเป้าหมาย ไม่ให้ทหารนอนค่ายหรือฐาน เพื่อที่จะได้รู้พื้นที่ สู้กับกลุ่มเป้าหมายได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่ง" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
    ขณะที่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9), พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผล.ฉก.ปัตตานี, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี, พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผล.ทพ.43 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีลอบวางระเบิดตลาดนัดบ่อทอง อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 22 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 43 จำนวน 4 นาย และหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทั้งพยานหลักฐานต่างๆ และพยานบุคคล โดยเฉพาะหลักฐานจากภาพวงจรปิดในหลายจุด ซึ่งถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่นำไปสู่การเชื่อมโยงกับผลพิสูจน์หลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะนำไปขยายผลนำไปสู่การจับกุมผู้ที่ร่วมก่อเหตุ จำนวน 5 ราย โดยเฉพาะ 2 รายที่ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมก่อเหตุ และถูกนำตัวมาร่วมแถลงข่าวและไปทำแผนรับสารภาพ คือ นายอาซิ มีนา อายุ 25 ปี และนายอับดุลรอเซะ สลาวะ อายุ 23 ปี
    นอกจากนี้ ยังนำของกลางเป็นรถจักรยานยนต์(จยย.) จำนวน 3 คัน ที่ยึดมาได้ ซึ่งผลการตรวจสอบเป็นรถที่คนร้ายนำไปร่วมก่อเหตุครั้งนี้มาแถลงข่าว รวมทั้งมีอีก 3 รายยังอยู่ในกระบวนการซักถาม เนื่องจากพบว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุ โดยในการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้มีบรรดาครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วนเดินทางมาร่วมในการแถลงข่าวด้วย 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายเข้าไปพบและกล่าวคำขอโทษกับญาติที่ได้รับความสูญเสีย ซึ่งทั้งผู้ต้องสงสัยทั้งสองกล่าวคำขอโทษที่ได้ทำลงไป และไม่คิดว่าจะถูกชาวบ้าน เหตุที่กระทำเพราะต้องการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่ทหาร
    จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอาซิ มีนา อายุ 25 ปี และนายอับดุลรอเซะ สลาวะ อายุ 23 ปี ไปทำแผนคำรับสารภาพ จำนวน 2 จุด โดยจุดแรก ที่สถาบันปอเนาะ อัลอูลูมุลอิสลามิยะห์ หรือปอเนาะควนดิน  เลขที่ 16/26 ม.4 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมวางแผนเตรียมการก่อเหตุ และยังเป็นจุดที่นำรถ จยย.ที่ประกอบระเบิดมาเก็บไว้ก่อนจะนำไปก่อเหตุ และหลังจากก่อเหตุแล้วก็ได้กลับมาหลบซ่อนตัวก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยในการประชุมครั้งนี้มีด้วยกัน 3 คน ซึ่งอีก 1 คนคือ นายอับดุลกอเดร์ สะตาปอ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นคนขี่รถ จยย.ประกอบระเบิดมาจอดไว้ที่ตลาด ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนีการจับกุม
    ต่อมาได้นำไปทำแผนคำรับสารภาพยังจุดที่สอง คือที่ตลาดนัดบ่อทอง ม.7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก โดยการทำแผนครั้งนี้ นายอาชิ มีนา ได้แสดงการขี่รถจักรยานยนต์มารับนายอับดุลกอเดร์ หลังจากที่นำรถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดมาจอดที่ตลาด ก่อนจะขับหลบหนีไป รวมทั้งยังได้นำตัวนายอับดุลรอซะ สลาวะ ซึ่งเป็นคนจุดระเบิด ชี้จุดที่ทำการกดชนวนระเบิด และนำตัวไปชี้จุดที่กล้องวงจรปิดบริเวณหลังตลาดนัดที่จับภาพนายอับดุลรอซะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหลังกดชนวนระเบิด ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นหลักฐานที่สามารถขยายผลการจับกุม
    พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าวว่า หลังการจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนได้ให้การรับสารภาพทุกขั้นตอน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องหลังและสั่งการการก่อเหตุครั้งนี้ คือ นายบูคอลี หลำโซะ เนื่องจากทั้งสองคนเป็นแนวร่วมชุดใหม่ที่ถูกหลอกให้มาก่อเหตุ สำหรับสาเหตุการก่อเหตุ นายบูคอลีต้องการตอบโต้การวิสามัญฯ นายซารีซามอัมรี ดือราแม เมื่อวันที่ 2 พ.ค.62 ที่ผ่านมา เนื่องจากนายซารีซามอัมรี ถือเป็นแกนนำระดับสูงของกลุ่มขบวนการ และรับผิดชอบก่อเหตุนอกพื้นที่ชายแดนใต้ที่พบเชื่อมโยงเหตุระเบิดที่ อ.ภูเก็ต เมื่อปลายปี 56 และเหตุระเบิด สภ.หาดใหญ่ และล่าสุดเหตุขโมยรถ 6 คัน จากบริษัท วังโต้คาร์เซ็นเตอร์ฯ อ.นาทวี  จ.สงขลา ไปก่อเหตุคาร์บอมบ์
    ที่ จ.ยะลา บริเวณจุดตรวจฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา สนธิกำลังหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 และ อส.เมืองยะลา นำโดย จ.ส.ต.รณยุทธ สลีมีน ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองยะลา ตั้งด่านลอยในเส้นทางหลักภายในเขตเทศบาลนครยะลา ตามแผนรักษาความปลอดภัยเมืองในช่วงเวลาที่กำหนด เน้นเป้าหมาย สิ่งของต้องสงสัยภายในรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กระเป๋าถือที่พกพา บุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคง ยานพาหนะแจ้งเตือนการก่อเหตุ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน กค 9533 นราธิวาส เป็นพิเศษ เนื่องจากคาดว่าคนร้ายได้ประกอบวัตถุระเบิดไว้เป็นที่เรียบร้อย และเตรียมนำเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการเพ่งเล็งค้นหา เพื่อสกัดกั้นป้องกันไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสนำรถเป้าหมายเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ย่านชุมชน การค้า และจุดเสี่ยงต่างๆ ในเขตเมือง สร้างความเชื่อมั่นในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะในวันนี้จะมีชาวไทยมุสลิมเดินทางเข้า-ออกพื้นที่จำนวนมาก เพื่อไปร่วมฉลองวันรายอแน หลังช่วงที่ผ่านมาคนร้ายยังคงพุ่งเป้าก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเชิงรุก จนฝ่ายตรงข้ามเกิดการสูญเสีย รวมทั้งล่าสุดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดไว้หลายราย ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายอาจจะก่อเหตุเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์
    "สถานการณ์ด้านการข่าวขณะนี้ หน่วยข่าวความมั่นคงได้แจ้งเตือนคนร้ายเตรียมนำจักรยานยนต์บอมบ์เข้ามาก่อเหตุคาร์บอมบ์ในเขตเมืองยะลา ตำบลตาเซะ และอำเภอกรงปินัง พร้อมทั้งได้กำชับให้ทุกหน่วยในพื้นที่มีมาตรการในการป้องกันเหตุ ประสานกำลัง 3 ฝ่ายในการปฏิบัติ ใช้หลักยุทธวิธี ตลอดจนมีความพร้อมในทุกด้าน สามารถตอบโต้ได้ทันทีหากมีสถานการณ์ ตลอดจนเน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวด และเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ทุกภารกิจ ทั้งการรักษาความปลอดภัยฐานที่ตั้ง เส้นทาง การตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด" แหล่งข่าวระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"