สรุปกลางมีนา คดีเสี่ยเปรมชัย ส่งอัยการฟ้อง


เพิ่มเพื่อน    

 

คาดกลางเดือนมีนาคมสรุปสำนวนคดี "เปรมชัย" ล่าเสือดำส่งอัยการได้ ขณะที่ ปปป.เผยคลิปเสียงให้สินบนหายไม่กระทบ เพราะมีพยานครบองค์ประกอบความผิดแล้ว "ศรีสุวรรณ" ขู่ฟ้อง รมว.เกษตรฯ  ไม่ยอมนิยามสัตว์ป่าเป็นสัตว์ที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์

     ความคืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์  จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้เรียกทีมชุดสอบสวนที่ทำคดีนายเปรมชัย ทั้งส่วนกลาง บช.ภ.7 บก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ สภ.ทองผาภูมิ เข้าประชุมดูสำนวนคดี พร้อมเน้นย้ำให้ทำสำนวนคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วนและรวดเร็ว 
    รวมทั้งให้นโยบายในการทำคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนเรียกทั้งผู้ต้องหาทั้ง 4 และเจ้าหน้าที่ 13 นาย มาให้ปากคำไปแล้ว แต่ก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ได้รายละเอียดรัดกุมมากยิ่งขึ้น คดีนี้พยานหลักฐานมีอย่างไร ก็ดำเนินการไปตามข้อกฎหมายแบบนั้น เชื่อว่าราวกลางเดือน มี.ค.คงสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้     ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคดีนี้จะมีการโอนคดีไปให้กองปราบฯ ทำนั้น พ.ต.อ.วุฒิพงศ์ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เพราะคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนหรือมีอิทธิพลใดๆ มากดดัน เชื่อว่าพยานหลักฐานแน่นหนาแน่ชัด เอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน
    พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รอง ผบช.ภ.7) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีการจับกุมนายเปรมชัย กล่าวว่า ตนยอมรับว่าตั้งแต่มารับข้อหาและประกันตัวไป พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถติดต่อนายเปรมชัยได้เลย โดยติดต่อผ่านทนายความเท่านั้น แต่เชื่อว่าคงไม่หลบหนี เพราะอยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นศาล เชื่อว่าเกรงใจศาล โดยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนเคยออกหมายเรียกนายเปรมชัยมาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ทนายความและนายประกันติดต่อขอเลื่อนอ้างว่าติดธุระ จึงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มาพบในวันที่ 5 มีนาคม ทั้งนี้ หากในวันดังกล่าวไม่มา จะทำเรื่องขอศาลเพื่อให้พิจารณาว่าควรถอนประกันหรือไม่ มีเจตนาหลบหนีหรือไม่
      ด้าน ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทองผาภูมิ เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์นายเปรมชัยและพวก แต่ได้มีการแจ้งให้นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษนายเปรมชัย ข้อหาทารุณกรรมสัตว์เอาไว้ ก็ได้มาถอนแจ้งความไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากทางปศุสัตว์ จ.กาญจนบุรี พิจารณานิยามคำว่า “สัตว์” แล้วพบว่าไม่เข้าตามคำนิยาม พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์ จึงมีข้อกล่าวหาเพียง 9 ข้อดังเดิม
    ส่วนการเข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในการประชุมพนักงานสอบสวนคดีนายเปรมชัยนั้น ท่านกำชับให้ทำสำนวนดดีอย่างรัดกุม ตามรายละเอียดพยานหลักฐานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล ส่วนในเรื่องของกลาง ทั้งอาวุธปืน 3 กระบอก และซากสัตว์ป่านั้น ก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจน คาดว่าน่าจะทราบผลราวกลางเดือนมีนาคม จากนั้นก็คงสรุปสำนวนส่งอัยการได้
    ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับนายวิเชียร แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากบริเวณสำนักงานอยู่กลางป่า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แต่อย่างใด จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคลิปเสียงติดสินบนเจ้าหน้าที่มีอยู่หรือไม่อย่างไร
     ขณะที่ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องคลิปเสียงหลักฐานหายไป เพราะนายวิเชียรยังไม่ได้ส่งมอบโทรศัพท์มาให้พนักงานสอบสวน โดย บก.ปปป.นัดนายวิเชียรมาพบวันที่ 8 มี.ค.นี้ และรอรับมอบโทรศัพท์ที่เป็นพยานหลักฐานจากเจ้าตัว จากนั้นจะส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญของ บก.ปอท.ทำการตรวจสอบตามขั้นตอน
         "ในกรณีที่คลิปหลักฐานหายไป ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี เพราะความสำคัญอยู่ที่พยานให้การ หากไม่มีคลิปเสียง ทางเจ้าหน้าที่จะสอบถามพยานที่เป็นประจักษ์พยานว่านายเปรมชัยมีการพูดตามข้อความที่ได้ร้องทุกข์ไว้หรือไม่ หากพยานยืนยันหนักแน่น มีข้อมูลชัดเจนครบองค์ประกอบความผิด สามารถเอาผิดนายเปรมชัยได้ ดังนั้นประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกไป บก.ปปป.ยืนยันว่าจะทำคดีนี้อย่างสุดความสามารถตามขอบเขตอำนาจกฎหมาย เพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดต่อไป" พล.ต.ต.กมลกล่าว
    นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง กรณีไม่สามารถเอาผิดเปรมชัยข้อหาทารุณกรรมสัตว์ได้ เป็นผลมาจากการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของ รมว.เกษตรและสหกรณ์
     โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ปศุสัตว์กาญจนบุรี ไม่สามารถแจ้งความเอาผิดนายเปรมชัย ในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ 2557 ได้นั้น เนื่องจากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังลาย และเก้งที่ถูกฆ่าตายนั้น ไม่ต้องด้วยนิยามคำว่า "สัตว์" ตามกฎหมายดังกล่าว ซึ่งตามตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้ต้องการให้เกิดการคุ้มครองทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติด้วย เพียงแต่กำหนดให้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ต้องออกประกาศกำหนดประเภทหรือชนิดสัตว์ที่อยู่อาศัยในธรรมชาติเสียก่อนเท่านั้น
    นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า นับแต่วันที่ 27 ธ.ค.57 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ รมว.เกษตรฯ กลับละเลยเพิกเฉยที่จะเร่งรีบออกประกาศประเภทหรือชนิดสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายดังกล่าวเลย จึงถือได้ว่า รมว.เกษตรฯ ที่ผ่านมาในอดีตคือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ และคนปัจจุบันคือนายกฤษฎา บุญราช ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพราะตลอดเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติกลับไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายฉบับนี้เลย กลายเป็นช่องว่างให้ผู้มีอำนาจหรือผู้มีอิทธิพลเข้าไปฆ่าสัตว์ป่าได้โดยไม่ต้องหาความผิดตามกฎหมายนี้ได้ 
    ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติเลย ดังนั้นสมาคมจึงขอเรียกร้องให้ รมว.เกษตรฯ เร่งออกประกาศกำหนดประเภทหรือชนิดสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่อาศัยในธรรมชาติที่เป็นสัตว์ใหญ่ สัตว์สงวน สัตว์คุ้มครองทุกชนิดให้เป็น "สัตว์" ตามนัยของกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมฯ โดยเร็ว แต่หาก รมว.เกษตรฯ ยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องนี้ สมาคมจำต้องนำความขึ้นฟ้องร้องต่อศาลฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"