โฆษกรัฐบาลเผยอียูเข้าใจ สนช.คว่ำ 7 กกต. เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมสากล ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน รัฐบาลบังคับ สนช.ไม่ได้ ขณะ "ภูมิธรรม" ระบุพร่ามัว อึมครึม นานาชาติไม่มั่นใจ ไม่มีใครเชื่อคำพูด "บิ๊กตู่" อีกแล้ว ส่วนกลุ่มอยากเลือกตั้ง หวังขยายสถานการณ์ให้ใหญ่ขึ้น ชุมนุมในครั้งหน้า 10 มี.ค. ยกชั้นเทียบ 14 ตุลา "วัฒนา" ร่วมชุมนุมไม่หวั่นถูกวิจารณ์อยู่เบื้องหลัง
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (อียู) ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยสอบถามถึงโรดแมปการเลือกตั้งหลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมสากลที่ทุกประเทศก็ต้องดูเรื่องของโลกโดยทั่วไป นอกเหนือจากการคำนึงถึงเรื่องราวในประเทศของตน คิดว่าเขาน่าจะมีกำหนดการในการพบกันกับ พล.อ.อ.ประจินในเรื่องอื่นๆ ส่วนเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ถามในช่วงท้าย
"ยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินกระบวนการทุกอย่างไปตามขั้นตอน ระเบียบ หลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะรัฐบาลไม่สามารถบังคับ สนช.ได้ เขามีเหตุผลของเขา คือเขาตรวจสอบรายละเอียดของผู้ได้รับการเลือกสรรมาว่าแต่ละบุคคลมีประวัติอะไร อย่างไร รัฐบาลไปทำอะไรไม่ได้ ต้องว่าไปตามนั้น"
เมื่อถามว่า มองว่าการสอบถามของทูตอียูเป็นการกดดันรัฐบาลไทยให้ทำตามโรดแมปหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญตอบว่า ในโลกปัจจุบันไม่มีใครกดดันใครได้ เขาแค่ถามว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกฝ่าย ทั้งพรรคการเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และ กกต. ซึ่งเมื่อกฎหมายลูกแล้วเสร็จ คณะรัฐมนตรีจะแจ้ง คสช.ให้เชิญ กกต. กรธ. และพรรคการเมืองมาหารือว่าการเลือกตั้งควรเกิดขึ้นเมื่อใด โดยจะเป็นวันเวลาที่ทุกฝ่ายพร้อม เมื่อทุกฝ่ายเห็นพ้องกันถือเป็นวาระสำคัญของชาติ และอาจเป็นสัญญาร่วมกันว่า จะเดินหน้าไปตามโรดแมปของประเทศ โดยประชาชน นักการเมืองและทุกฝ่าย ต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศ ความมีเสถียรภาพของประเทศ และไม่ขัดแย้ง-แบ่งฝ่ายกันอีกต่อไป รวมถึงหลังการเลือกตั้ง สัญญาว่าจะมีรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ร่วมมือกันเพื่อประเทศ
ไม่เชื่อคำพูดบิ๊กตู่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ สนช.มีมติโหวตคว่ำว่าที่ 7 กกต.ซึ่งอาจจะกระทบกับการเลือกตั้งตามโรดแมปว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้พร่ามัว อึมครึม ยากที่จะคาดเดา เพราะอยู่บนพื้นฐานของความไม่ชัดเจน แม้แต่โรดแมปซึ่งเป็นคำสัญญาของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ประกาศไว้ ก็กลายเป็นเพียงคำสัญญาลอยๆ ที่พูดเพื่อให้ประชาชนพอมีหวัง สุดท้ายโรดแมปก็เปลี่ยนแปลงไปตามความพึงพอใจของผู้มีอำนาจเท่านั้น แต่กลับส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจต่อนานาชาติ ท่านกำลังกลายเป็นคนที่พูดอะไรแล้วไม่มีใครฟังอีกแล้ว ไม่สามารถหยิบมาเป็นสาระได้ เพราะเปลี่ยนแปลงตลอด ล่าสุดที่บอกว่าจะเชิญพรรคการเมืองไปพูดคุยเรื่องเลือกตั้งนั้น ตนไม่ได้เก็บมาคิด เพราะไม่รู้ว่าท่านบ่นหรือพูดลอยๆ
รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สนช.คือหนึ่งในแม่น้ำ 5 สาย แต่งตั้งโดย คสช.ใช่หรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่ได้รับการสรรหามาเป็น กกต.นั้น น่าสงสัยอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.คสช.ยึดติดอำนาจหรือไม่ และไม่อยากให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะพวกท่านยังไม่พร้อมกลับเข้าสู่อำนาจตามกติกาใหม่ สนช.ถึงโหวตคว่ำเพื่อให้เกิดการยืดเวลาออกไปอีก และใช้เวลาในช่วงนี้เตรียมความพร้อมลงพื้นที่ไปหาเสียง เรียกความนิยมจากประชาชนผ่านโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก
"แม้ท่านพยายามจะปฏิเสธว่าไม่ใช่การหาเสียง แต่พฤติกรรมของท่านแสดงออกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาที่ท่านถามประชาชนว่าควรจะเลือกใคร และ 2.เกิดความขัดแย้งภายในของกลุ่มผู้มีอำนาจเอง เพราะเริ่มมีแรงกดดันจากสังคมที่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แม้แต่ ผบ.ทบ.ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าท่านรู้ว่าประชาชนอยากเลือกตั้งโดยเร็ว" นายภูมิธรรมกล่าว
นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เมื่อรัฐบาลประกาศเจตนารมณ์จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง จึงไม่เข้าใจว่าการลงมติของ สนช.เช่นนี้ เป็นเพราะผู้มีอำนาจไม่พอใจในรายชื่อว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คนหรือไม่ หรือ สนช.ต้องการยื้อการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ แม้รัฐบาลจะยืนยันว่าไม่กระทบโรดแมป แต่ภาพที่ออกมาจะให้มองความตั้งใจของ สนช.เป็นอย่างอื่นคงยาก
ตอก"บิ๊กตู่"ไม่ต้องเรียกคุย
ส่วนนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สนช.เป็นหนึ่งในแม่น้ำ 5 สายที่เกิดจาก คสช. การทำงานที่ผ่านมาทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับการประทับตราความชอบธรรมให้กับผู้มีอำนาจ สนช.จะมีมติผ่าน เช่น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. แม้มีกรรมการบางคนมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ สนช.ก็แก้กฎหมายให้สามารถอยู่ในหน้าที่ต่อไปได้ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้คนในรัฐบาล เช่นในขณะนี้ที่ตรวจสอบประเด็นนาฬิกาหรูกันอยู่ แต่อะไรที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ดูเหมือนจะมีปัญหาไปเสียหมด เช่น ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ก็ให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีก 90 วัน กกต.ก็ให้มีการเซตซีโร พอได้มาก็ถูกคว่ำไปอีก การสรรหาต่อจากนี้ก็ไม่มั่นจะว่าจะเป็นตามกรอบเวลาหรือไม่ แม้คนในรัฐบาลบอกว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบโรดแมป แต่สิ่งที่ปรากฏทำให้เห็นภาพชัดเจนว่ามีความพยายามยื้อเวลาเลือกตั้งออกไปจากโรดแมปที่มีอยู่
เขากล่าวว่า ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมาหารือร่วมกันหลังกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับมีผลบังคับใช้ เพื่อทำข้อตกลงกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนนั้น ส่วนตัวมองว่าเมื่อกฎหมายบังคับใช้แล้วไม่ต้องหารืออะไรกันเพิ่มเติม ควรทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วันไปเลย เพราะถ้าหารือกันจะมีข้ออ้างเพื่อเลื่อนการเลือกตั้งได้อีก ที่สำคัญวันนี้ประชาชนทั่วประเทศเขาต้องการใช้สิทธิในการเลือกตัวแทนของเขามาทำหน้าที่ แทนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหารแล้ว
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจโลก และการบริหารเชิงกลยุทธ์ กล่าวว่า การคว่ำ กกต.อาจส่งผลในแง่ของความรู้สึกของกลุ่มการเมืองที่อยากเลือกตั้ง เพราะจะเกิดคลื่นใต้น้ำ เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล คสช.ตามมา และน่ากังวลบรรยากาศทางการเมืองจะคุกรุ่นรุนแรงถ้าหากโรดแมปยืดเวลาออกไปเกิน 6 เดือน ซึ่งจะส่งกระทบเสถียรภาพรัฐบาลตามมา
ไม่รู้สุเทพตั้งพรรค
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ แอบไปจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ว่า ยังไม่ทราบท่านไปจดวันไหน แต่ช่วงหลังคุยกันเฉพาะเรื่องคดี เพราะต้องเตรียมเรื่องคดีเนื่องจากศาลรับฟ้องแล้ว ศาลนัดวันที่ 19 มี.ค.นี้ ซึ่งต้องไปขึ้นศาล
เขากล่าวว่า เรื่องพรรคการเมืองนายสุเทพเองท่านเคยปรารภไว้ว่าภารกิจของมวลมหาประชาชนในการต่อสู้บนท้องถนนนี้จบไปแล้ว แต่ภารกิจในการสนับสนุนการปฏิรูปประเทศยังไม่จบ แม้ว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้ริเริ่มแนวทางสำคัญไว้หลายอย่าง แต่การปฏิรูปต้องใช้เวลา และท่านคิดว่ามีความคิดที่จะรวบรวมคน ซึ่งมีแนวความคิดตรงกันกับมวลมหาประชาชนนี้ตั้งพรรคการเมือง ซึ่งผมมองว่าเป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านประกาศชัดเจนว่าท่านจะไม่ลงการเมืองแล้ว
เวลา 15.00 น. วันเสาร์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณทางเดินข้างหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ว่าในวันนี้ทางกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้จัดงาน "ปากปราศรัย น้ำใจเชือดเผด็จการ 3-2-1 ถึงเวลาเปลี่ยน" มีประชาชนและนักศึกษาบางส่วนเข้าร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมในกิจกรรม พร้อมระบุว่า ในวันนี้ที่มาเพื่อให้กำลังใจกลุ่มนักศึกษาและแสดงตัวเป็นแนวร่วมเรียกร้องการเลือกตั้งในนามนักการเมือง โดยไม่กลัวจะถูกมองและหยิบยกเป็นประเด็นทางการเมืองว่าอยู่เบื้องหลังการออกมาเคลื่อนไหวจนทำให้การต่อสู้ของนักศึกษาไม่บริสุทธิ์ เพราะส่วนตัวถือเป็นคนหนึ่งที่มีสิทธิเลือกตั้ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามที่ได้ประกาศไว้
นายวัฒนากล่าวว่า ได้เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในเทศกาลตรุษจีน แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นทางการเมือง รวมถึงความชัดเจนของตัวบุคคลที่จะมานำพรรคเพื่อไทย แต่ส่วนตัวเห็นว่าผู้นำพรรคคนต่อไปต้องเป็นคนที่ ส.ส.และประชาชนยอมรับ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สรุปว่าเป็นใคร
นอกจากนี้ นายวัฒนายังได้กล่าวถึงการคว่ำ กกต.ทั้ง 7 คนว่า เป็นเรื่องผิดปกติ แต่เป็นไปในทางที่ดี เพราะผู้ได้รับการคัดสรรทั้งหมดมีที่มาไม่เป็นไปตามกฎหมาย ดังนั้นหลังจากนี้ถือเป็นโอกาสในการคัดเลือกคนดีๆ เข้ามาทำหน้าที่
เทียบชั้น 14 ตุลา
ช่วงเย็น ภายในกิจกรรมได้มีการขับร้องเพลง โดยมีการเสียดสีรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนการเลือกตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และนาฬิกากับแหวนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยสภาพอากาศในพื้นที่มีฝนหนักสลับเบา แต่ก็ไม่ทำให้การกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาต้องยกเลิก
นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า ตนยืนยันว่าตนเรียนจบแล้ว และภูมิใจที่ได้เรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ตนรักประชาชน เพราะเหตุนี้เองที่ตนต้องออกมาเพื่อประชาชนทุกคน โดยอยากให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งในปีนี้ และยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังบอกว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้ง ตนและพวกจะออกมาเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งจะออกมาจนกว่าเผด็จการทหารจะออกไป
เขากล่าวว่า การชุมนุมในครั้งหน้าในวันที่ 10 มี.ค. อยากให้ประชาชนออกร่วมมากยิ่งขึ้น ให้ล้นที่สนามฟุตบอลในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เทียบเท่ากับการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2516
นายสิรวิชญ์กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่เราเรียกให้กับประชาชนคือการเลือกตั้งในปีนี้ เป็นสิทธิพึงได้ของประชาชน และเป็นส่วนพื้นฐานของประชาธิปไตย แต่คสช.พรากสิทธินั้นไป แม้จะบอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน สำหรับประชาชน แค่วันเดียวก็นานพอแล้ว หรืออยากจะอยู่แบบเดิมๆ กับ คสช. ให้ถ่วงเวลาการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ จะทำให้ศักดิ์ศรีของประเทศชาติหมดไป นายกฯได้ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้ง และให้สัญญาต่อประชาคมโลกมาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็เลื่อนไปเรื่อยๆจนกลายเป็นคำโกหกหลอกลวง เปรียบเสมือนกับพิน็อกคิโอ จนกลายเป็นฉายาที่ชื่อว่า ยุทธ์น็อกคิโอ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งเป็นทางเลือกของประชาชน ที่จะทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มนักศึกษาได้แจกหน้ากากที่มีหน้าคล้าย พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีจมูกที่ยาวคล้ายกับพิน็อกคิโอให้กับผู้ร่วมงาน พร้อมทั้งมีการถ่ายรูปรวมเพื่อล้อเลียน พล.อ.ประยุทธ์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |