“วิษณุ” อ้าง รธน.ไม่ได้กำหนดต้องเปิดชื่อกรรมการสรรหา ส.ว. ยันไม่มีใครเสนอชื่อตัวเอง ลั่นจะเปิดเองก็ได้ ตั้ง ส.ว.-โหวตนายกฯ ไม่มีโมฆะ ย้อนดูคำสั่ง คสช.เป็นร้อยฉบับล้วนประกาศในราชกิจจานุเบกษา ชี้คำสั่ง คสช.1/2562 เข้าเงื่อนไขต้องประกาศ "ศรีสุวรรณ” ลุยร้อง ป.ป.ช.เอาผิด ผอ.ราชกิจจาฯ ละเลยต่อหน้าที่ ฝ่ายแค้นไปไกลสงสัยเกมสืบทอดอำนาจถ่วงให้ คสช.อยู่ต่อ ยุประธานสภาฯ นำเข้าที่ประชุมหาทางออก 

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 11 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีไม่เปิดเผยคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งอาจส่งผลให้การแต่งตั้ง ส.ว.เป็นโมฆะว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงแล้ว ส่วนรายชื่อสำรอง ส.ว.อีก 50 คน ได้ส่งรายชื่อไปที่ประธานวุฒิสภาแล้วก็จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป 
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม กล่าวว่า รายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพราะในรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติว่าด้วยเรื่องการเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา โดยมาตรา 269 เขียนไว้เพียงให้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเท่านั้น ซึ่งที่ คสช.ยังไม่เปิดเผยหลังจากการแต่งตั้งในตอนต้น เพราะเกรงว่าจะเกิดการวิ่งเต้นขอตำแหน่ง เนื่องจากไม่ได้ใช้ระบบการสมัคร แต่ให้คณะกรรมการสรรหาไปเจาะหาตัวบุคคล 
    "คสช.จะเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว.หลังจากนี้ ไม่ได้มีอะไรปกปิด หาก คสช.ไม่เปิดเผยผมจะขอเปิดเองก็ได้ ไม่ใช่เรื่องลำบาก เรื่องดังกล่าวไม่เป็นปัญหา ไม่ทำให้การแต่งตั้ง ส.ว.และการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นโมฆะ ส่วนรายชื่อสำรอง ส.ว.อีก 50 คน ได้ส่งรายชื่อไปที่ประธานวุฒิสภาแล้ว คาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 1-2 วันนี้" นายวิษณุกล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่า กก.สรรหา ส.ว.ได้สรรหาตัวเองเข้าไปเป็น ส.ว.ด้วย นายวิษณุยืนยันว่า ไม่มี เพราะตนอยู่ใน กก.สรรหา ส.ว.ด้วย ซึ่งกก.สรรหาแต่ละคนได้เสนอชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมขึ้นมาคนละ 50-60 ชื่อ โดยมี กก.สรรหาทั้งหมด 10 คนลาออกไป 1 คน เหลือ 9 คน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด และก็ไม่ได้เสนอตัวเอง แต่เมื่อที่ประชุมได้พิจารณารายชื่อที่มีการเสนอแล้วพบว่ามี กก.สรรหาถูกเสนอชื่อให้เป็น ส.ว.ด้วย กก.คนดังกล่าวที่ถูกเสนอชื่อก็ต้องออกจากที่ประชุม ซึ่งได้ทำเช่นนี้ตั้งแต่ขั้นตอนของ กก.สรรหา จนถึงการพิจารณาในส่วนของ คสช. โดย กก.สรรหาได้รวบรวมรายชื่อทั้งหมด 395 รายชื่อ เพื่อส่งให้หัวหน้า คสช. โดยได้รายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วตั้งแต่ต้น
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดเผยชื่อ กก.สรรหา ส.ว.ว่า เดี๋ยวจะเปิดเผย แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีการประชุมอะไร แต่ยืนยันว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญแน่นอน
    นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับตน เพราะถือเป็นผู้ที่ได้รับการสรรหาและแต่งตั้งเข้าปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบย้อนหลัง หรือทำให้การทำหน้าที่ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ เพราะ ส.ว.ถือว่าได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ทำหน้าที่แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ว่า เป็นเรื่องภายในที่จะดำเนินการได้ และ ส.ว.ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป 
เข้าเงื่อนไขต้องประกาศ
    วันเดียวกัน เว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่รายละเอียดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 231 (1) ว่า คำสั่ง คสช.ที่ 1/2562  เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ลงวันที่ 8 ก.พ.62 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 81 วรรคสอง และมาตรา 269 (1) (ข)และ (ค) หรือไม่ จำนวน 4 หน้า แต่อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นว่า คำสั่ง คสช.ดังกล่าว มีเนื้อหาสาระสำคัญเป็นเพียงการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่กลั่นกรองเสนอรายชื่อ ส.ว.เท่านั้น ไม่ใช่การออกกฎเกณฑ์ที่มีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไป จึงไม่เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามความหมายของรัฐธรรมนูญมาตรา 231(1) ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้
     จากการตรวจสอบข้อมูลเว็บไซต์ราชกิจจาฯ ระบุว่า เรื่องที่จะนำลงประกาศในราชกิจจาฯ นั้น จะต้องมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ 1.เรื่องที่กฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องประกาศในราชกิจจาฯ  2.ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ต้องส่งไปลงพิมพ์ในราชกิจจาฯ ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ 3.เรื่องที่กฎหมายมิได้บัญญัติให้ต้องประกาศ หรือส่งพิมพ์ ในราชกิจจาฯ แต่เป็นเรื่องสำคัญที่สมควรเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ 
    กรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. ลงนามคำสั่งที่ 1/2562 เมื่อ 8 ก.พ.2562 เข้าเงื่อนไขข้อที่ 3 ซึ่งจะต้องประกาศในราชกิจจาฯ ประกอบกับการสรรหาให้ได้มาซึ่ง ส.ว.เพื่อเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อประเทศชาติ หัวหน้า คสช.ต้องนำรายชื่อส.ว.ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง การดำเนินการ จึงต้องเปิดเผย โปร่งใส ไม่ใช่ปกปิดซ่อนเร้นด้วยเจตนาไม่สุจริต
    เมื่อย้อนไปตรวจสอบคำสั่งของหัวหน้า คสช.และคสช. นับตั้งแต่ยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค.2557 พบว่าหลายร้อยคำสั่งและประกาศล้วนแต่ลงพิมพ์ในราชกิจจาฯ ทั้งสิ้น แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังประกาศในราชกิจจาฯ เช่น คำสั่ง คสช.ที่ 13/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าคสช. 28 พ.ค.2557 ก็ประกาศในราชกิจจาฯ หน้า 5 เล่ม 131 ตอนพิเศษ 96 ง 2 มิ.ย.2557 
    "คำสั่ง คสช.เหล่านี้ว่าไปแล้วไม่ได้สลักสำคัญเมื่อเทียบกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เมื่อเป็นเช่นนี้กระบวนการสรรหา ส.ว.จึงผิดหลักเกณฑ์ อีกครั้ง คณะกรรมการสรรหาที่ พล.อ.ประวิตรเป็นประธาน ก็ไม่ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการการสรรหาให้ได้ 400 รายชื่อ ซ้ำไม่ประกาศในราชกิจจาฯเช่นกัน ส.ว.สรรหาชุดนี้น่าจะเป็นโมฆะ นายวิษณุพูดมาเป็นเดือนแล้วว่าจะประกาศรายชื่อกรรมการสรรหาซึ่งถูกหลายฝ่ายโจมตีว่าขัด รธน. เพราะไม่เป็นกลางทางการเมือง แต่ก็ไม่ประกาศสักที" รายงานข่าวระบุ 
ร้อง ปปช.ฟันผอ.ราชกิจจาฯ
    ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตนจะร้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิด ผอ.สำนักราชกิจจานุเบกษาฯ ที่ไม่นำประกาศ คสช.ฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2/2562 มาลงเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ ทั้งที่กฎหมายบัญญัติ เพราะการที่มีคำสั่งหรือมีเอกสารที่จะกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินในลักษณะนี้ เป็นอำนาจหน้าที่ของ ผอ.สำนักราชกิจจาฯ ต้องเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับรู้ ไม่ใช่ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางหรือท่านอาจจะมีคำสั่งนี้อยู่แล้ว แต่มีคำสั่งจากผู้มีบารมี หรือผู้มีอำนาจ สั่งการไม่ให้นำมาประกาศในราชกิจจานุเบกษา ท่านก็ต้องไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ดังนั้น ถ้าไม่มีการแก้ไขให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ผู้ที่เกี่ยวข้องก็อาจต้องรับผิดชอบฐานละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่     
    "จะมางุบงิบปิดบังซ่อนเร้นไม่ให้ประชาชนรับรู้   ทำไม่ได้ และคงไม่มีเหตุผลอื่น นอกจากคณะกรรมการสรรหามีผลประโยชน์ได้เสียในตัวเอง เช่น ได้รับเลือกไปเป็น ส.ว. จึงไม่อยากให้ประชาชนได้รับรู้  แต่ช้างตายทั้งตัวจะเอาใบบัวไปปิดคงไม่มิด จึงไม่มาเปิดเผย เพราะถ้าเปิดเผยก็อาจจะทำให้ประชาชนติฉินนินทา ว่าเป็นกรรมการสรรหาแล้วมาเป็น ส.ว.เสียเอง ก็จะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ที่นายวิษณุเป็นหนังหน้าไฟ ไปการันตีให้รัฐบาลอยู่เสมอ เรื่องนี้สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย ท่านพยายามบอกให้ประชาชนเคารพกฎหมาย แต่เรื่องนี้ท่านกลับไม่เคารพกฎหมายเสียงเอง มันเหมือนแม่ปูกับลูกปู " นายศรีสุวรรณกล่าว 
     นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกตกใจมากเมื่อทราบจากข่าวว่าได้เกิดเรื่องผิดปกติที่ในราชกิจจานุเบกษา ไม่ลงคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 ล่องหนหายไปจากราชกิจจาฯ ด้วย การออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ต้องประกาศในราชกิจจาฯ เพื่อให้สังคมได้รับทราบ แต่เป็นเรื่องแปลกประหลาดมากเมื่อไม่มีคำสั่งดังกล่าวในราชกิจจาฯ หากเป็นจริงถือว่า กก.สรรหา ส.ว.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และถูกโจมตีว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง และเล่นพวกพ้องแต่งตั้งพวกพ้องมาเป็น ส.ว.ไม่มีผลทางกฎหมาย การสรรหาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จึงทำให้ ส.ว.ที่ได้รับแต่งตั้งอาจจะโมฆะ และ ส.ว.เหล่านี้โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ไปแล้ว จะมีผลตามกฎหมายได้อย่างไร 
    "ปัญหานี้ควรนำไปพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ประธานสภาฯ ควรยกเลิกคำสั่งงดประชุมแล้วเรียกประชุมด่วนในวันที่ 12-13 มิ.ย.นี้ เพื่อหาทางออกของประเทศร่วมกันทุกพรรค และการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลก็ควรจะหยุดไว้ก่อนเพื่อรอผลการพิจารณาจากที่ประชุมสภาเสียก่อน น่าสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือใคร ที่ทำไปเพราะไม่ต้องการให้มี ครม.ใช่หรือไม่ อาจเป็นเกมถ่วงเพื่อให้ คสช.อยู่ต่อ เพราะเมื่อ ครม.ใหม่เข้ารับหน้าที่แล้ว คสช.หมดอำนาจทันที ตาม รธน.ม.265”นางลดาวัลลิ์กล่าว
เกมสืบทอดอำนาจ
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เชื่ออยู่แล้วว่าการแต่งตั้งส.ว.ชุดนี้ไม่มีทางเป็นโมฆะ การไม่ประกาศชื่อในราชกิจจานุเบกษา เป็นกลวิธีที่ผู้รับเหมาร่างกฎหมายวางไว้ตั้งแต่ต้น ถ้านายวิษณุยืนยันว่าไม่มีกรรมการคนไหนเสนอชื่อตัวเองเป็น ส.ว. ก็อยากถามต่อว่า ในกรรมการสรรหามีใครมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งกรรมการสรรหาให้ไปหาคนมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งเป็น ส.ว. แล้วให้ ส.ว.ทั้งหมดเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งกรรมการส่วนหนึ่งเป็น ครม. เล่นกันแบบนี้ถึงเรียกว่าสืบทอดอำนาจ
     “ตอนนี้เท่ากับว่าฝ่าย คสช.มีพรรคการเมือง 2 พรรค คือพลังประชารัฐกับพลังประยุทธ์คัด หมายถึงส.ว. 250 คน ต่างกันตรงที่พลังประชารัฐเป็นนักการเมืองจากการเลือกตั้ง จึงบริหารจัดการยากกว่าพลังประยุทธ์คัด ซึ่งเป็นคนเคยใช้งานกันมา มีภาษีประชาชนเป็นเงินเดือนและสวัสดิการ ถ้ายังยอมรับกันว่าสิ่งเหล่านี้ถูกต้อง อนาคตประเทศไทยจะยิ่งเสียหายไปกว่านี้” นายณัฐวุฒิกล่าว
    ส่วน น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ของ คสช.ที่ 1/2562 ไม่ปรากฏว่ามีการประกาศในเว็บราชกิจจาฯ ซึ่งส่งผลให้คณะกรรมการสรรหา ส.ว.ที่มี พล.อ.ประวิตรเป็นประธาน ไม่มีผลทางกฎหมาย เนื่องจากการสรรหาไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญ ส.ว.ที่ได้รับแต่งตั้งอาจจะเป็นโมฆะ รวมทั้ง ส.ว.เหล่านี้โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์มาจาก ส.ว. ที่อาจจะเป็นโมฆะ ก็จะต้องโมฆะตามไปด้วยใช่หรือไม่ เปรียบได้กับการจงใจกระทำผิด ทั้งรู้แต่ยังกระทำเพื่อสนองความต้องการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร 
    วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง ประกาศรายชื่อบุคคลสำรองสำหรับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 50 คน อาทิ นายดอน ปรมัตถ์วินัย, นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์, นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร, พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล, พันตำรวจเอกจรุงวิทย์ ภุมมา, นายอนุสิษฐ คุณากร, พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล, นายประพันธุ์ คูณมี, พลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน, พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์, นายสมชาย มีเสน, นางถวิลวดี บุรีกุล, นายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ, นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์,   นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ, นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน และนายไชยา ยิ้มวิไล เป็นต้น.