พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรีสมัย 2 แล้ว "บิ๊กตู่" ขึ้นโพเดียมประกาศพร้อมทุ่มเททำงาน ก่อนรุดเคลียร์แบ่งเค้กโตวตารัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย "ป้อม" ยังไหวรองนายกฯ ควบ กห. "สมคิด-วิษณุ" รองนายกฯ "ป๊อก" เกาะหนึบมท.1 จ๊าก! "สมศักดิ์" นั่ง รมว.ยุติธรรม "ธรรมนัส" ผงาด รมว.แรงงาน ขณะที่ "จุรินทร์" รองนายกฯ ควบพณ. "เฉลิมชัย" ยึดกระทรวงเกษตรฯ ด้าน "ภูมิใจไทย" สมหวังเสี่ยหนู 3 กระทรวง ฮือฮาพรรคลุงกำนันคุมต่างประเทศ
เมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2562 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
จึงแต่งตั้งให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้ยิ้มตอบคำถามว่าวันนี้รู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ ว่า เป็นปกติ เหมือนทุกวันนั่นแหละ
และเมื่อเวลา 11.40 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล 18 พรรคการเมืองได้เข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี โดยได้ทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ก่อนที่พรรคอื่นๆ จะทยอยกันมา ขาดเพียงพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ที่ติดภารกิจไม่ได้มาเข้าร่วม
ต่อมาเวลา 13.35 น. เข้าสู่พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการมายังห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งหัวหน้าพรรคและตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลร่วมเป็นเกียรติ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ทำพิธีรับพระบรมราชโองการ โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ร่วมในพิธี
เมื่อเสร็จพิธี พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนนำเดินไปยังห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นนายกฯ กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ตนเองและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ
พร้อมรับฟังความเห็น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี
“สร้างสรรค์สังคมให้มีความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาส เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย” นายกฯ ระบุ
นายกฯ ยังกล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่อย่างเต็มความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ ขอขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนและให้โอกาสได้ทำหน้าที่นายกฯ อีกวาระหนึ่ง เพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ทุกท่านได้ตั้งใจไว้ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป
ต่อจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้ามาขอบคุณแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และเชิญไปถ่ายรูปพร้อมกันที่เชิงบันไดขึ้นห้องทำงานในตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่นายกฯ จะเดินมายังตึกภักดีบดินทร์ โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอขอบคุณสื่อทุกท่านทั้งคนไทยและต่างประเทศที่ให้เกียรติ ที่วันนี้มาร่วมในพิธีสำคัญ ซึ่งได้ให้คำมั่นสัญญาไปแล้วว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดร่วมกับ ส.ส.และ ครม.ต่างๆ ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นในอนาคต ทุกอย่างเป็นไปตามที่ได้แถลงไปแล้ว ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกันในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ปลอดภัย ยั่งยืน ต่อไปเราจะมีแต่รอยยิ้มให้กัน
เมื่อถามว่า รายชื่อ ครม.จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้เมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า ยังไม่ได้รับรายงานนะจ๊ะ ยังไม่ได้คุยกัน เพิ่งเป็นนายกฯ วันนี้
พรรคร่วมแนะให้ใจเย็น
ช่วงหนึ่งระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยกล่าวทักทายกับตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยสนับสนุนให้เป็นนายกฯ สมัยที่ 2 จากนี้จะทำงานอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนช่วยกัน และยินดีจะทำงานร่วมกับทุกคน โดยหนึ่งในตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลได้กล่าวให้กำลังใจนายกฯ พร้อมขอให้ใช้ความใจเย็นในการทำงานหลังจากนี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ตอบกลับว่า "รู้อยู่แล้ว ตัวเองใจเย็นอยู่แล้ว" ทั้งนี้ บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการคุยนอกรอบ และไม่มีการพูดเรื่องโควตารัฐมนตรีแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่รับพระบรมราชโองการภายในทำเนียบฯ หากไม่นับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ซึ่งไม่ได้เข้ามาในสถานการณ์ปกติ เนื่องด้วย พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อเนื่องหลังจากที่เป็นมาแล้ว จึงได้ใช้ทำเนียบฯ เป็นสถานที่รับพระบรมราชโองการได้ ต่างจากอดีตนายกฯ คนอื่นที่ต้องรับพระบรมราชโองการนอกทำเนียบฯ ส่วนการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมในพิธีด้วยนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวก่อนรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งว่า หลังจากมีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว จึงจะคุยกับเขาตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาก็เห็นเพียงแต่ในสื่อ ที่เขียนเชิงวิเคราะห์จำนวนมาก แต่วันนี้ต้องหาทางพูดคุยกัน โดยคำนึงถึงความเหมาะสม หาจุดลงตัวให้ได้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนนโยบายที่ทุกพรรคต่างๆ เสนอขึ้นมานั้น ล้วนเป็นประโยชน์ต่อประเทศทั้งสิ้น ในฐานะรัฐบาล ถือเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมี ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ จึงเป็นรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ การนำเอานโยบายต่างๆ มาปรับให้สอดคล้องกับงบประมาณ ต้องดูทั้งแผนงานเดิมและแผนงานใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด คิดว่าคงเรียบร้อยโดยเร็ว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวเชิญพรรคประชาชาติมาร่วมรัฐบาลด้วย พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถาม โดยส่ายหัวแล้วเดินกลับตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความชัดเจนในยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.และประกาศ คสช. ตามมาตรา 44 ที่ไม่จำเป็นว่า คำสั่งมาตรา 44 ก็ไม่ได้อยากจะมีเอาไว้ อันไหนที่ไม่จำเป็นก็ยกเลิก กำลังเร่งรัดให้เร็วที่สุด ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนที่กังวลว่าหากไม่ยกเลิก อำนาจ คสช.บางส่วนยังคงอยู่นั้น ตรงนี้ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะแล้วเสร็จก่อนมีรัฐบาลใหม่ และรัฐบาลใหม่จะมีผลต่อเมื่อมีการถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วเท่านั้น ช่วงนี้รัฐบาลนี้ยังมีอำนาจทำหน้าที่อยู่
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า หลังจากนายกฯ ได้เข้าพิธีโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกฯ เรียบร้อย จะแสดงความยินดีเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง ซึ่งนายกฯ ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ส่วนตนเองจะต้องทำหน้าที่ต่อหรือไม่นั้น ยังไม่รู้ เพราะขณะนี้ก็เดินไม่ค่อยไหวแล้ว
เมื่อถามว่า ช่วงเย็นจะแสดงความยินดีเป็นการส่วนตัวกับนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์อาจเชิญให้มาร่วมงานอีกครั้ง พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ สื่อก็คิดกันไปเอง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวเพียงสั้นๆ ถึงการทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีต่อว่า ยังไม่มีการทาบทาม
ปชป.-ชทพ.พร้อมร่างนโยบาย
นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่กล่าวยืนยันว่า 10 พรรคเล็กไม่มีการต่อรองใดๆ เพราะหากมีการต่อรองการเมืองจะเป็นแบบเก่า ซึ่งหลังจากนี้คงเป็นเรื่องของแต่ละพรรคจะพูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่วน 10 พรรคเล็กก็ขึ้นกับการตัดสินใจในของนายกฯ ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ส่งนโยบายไปหมดแล้ว
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการจัดทำนโยบายร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า เคยเป็นประธานยกร่างนโยบายรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาก่อน โดยจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ประจำส่วนหนึ่งมาทำการยกร่าง แต่รัฐบาลชุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯ และพรรค พปชร. คงต้องหารือร่วมกัน โดยในส่วนของพรรคยังยืนยันนโยบายแก้จนสร้างคนสร้างชาติ รวมถึงนโยบายการประกันรายได้พืชผลการเกษตร
“ที่พูดไม่ได้จะกดดัน เพียงแต่เรื่องดังกล่าวรับเป็นเงื่อนไขไปแล้ว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่พรรคมองเห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมรับเป็นนโยบายร่วมของรัฐบาล ส่วนนโยบาย ส.ป.ก.ที่มีข่าวว่าพรรค พปชร.จะผลักดันเรื่องที่ดินทองคำนั้น ผมไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งทั้งหมดต้องหารือกัน”
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค ปชป.ในขณะนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดในเรื่องของขั้นตอนและหลักเกณฑ์พิจารณา เมื่อถึงเวลาก็คงคุยกันไม่มีปัญหาอะไร
นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค กล่าวในเรื่องนี้ว่า พรรคพร้อมส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับพรรคแกนนำ พปชร. เพื่อนำเสนอนโยบายให้พิจารณาต่อการยกร่างนโยบายของรัฐบาล ส่วนจะส่งใครยังอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่ง พปชร.ยังไม่ได้ประสานว่าจะให้เข้าหารือช่วงเวลาใด แต่นโยบายที่พรรคเตรียมเสนอให้พิจารณา คือประเด็นที่พรรคได้หาเสียงไว้กับประชาชน
“การเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคนั้น ก็ยังไม่ได้รับการประสานเช่นกัน แต่เชื่อว่าอาจต้องรอให้พ้นจากการจัดประชุมอาเซียนซัมมิต ช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย. เพื่อให้คณะรัฐมนตรีปัจจุบันดำเนินการประชุมไปก่อนเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง”นายวราวุธกล่าว
เมื่อถามถึงการเมืองหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์รับตำแหน่งนายกฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการ นายวราวุธ กล่าวว่า จะเป็นไปอย่างกระตือรือร้น เพราะเสียงของ 2 ฝ่ายในสภาผู้แทนราษฎรใกล้เคียงกัน การเข้าประชุม หรือการลงคะแนนแต่ละครั้ง ส.ส.ต้องมีวินัย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ต้องพิจารณาร่วมกันทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายค้าน ซึ่งประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจเป็นโอกาสดีที่ ส.ส.ทุกฝ่ายจะร่วมหารือกัน และร่วมมือกันทำงานให้เดินหน้า ไม่ใช่ทำงานแบบแบ่งฝ่าย หากยังยึดติดการแบ่งฝ่ายต่อไป วังวนปัญหาเก่าๆ อาจกลับมาได้แบบเป็นประเด็นไม่รู้จบได้
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร.ยอมรับว่าเป็นเด็กที่เคารพผู้ใหญ่เสมอมา แต่ก็มีหน้าที่ตามที่พรรคได้มอบหมายให้ด้วย ซึ่งการที่แสดงความเห็นเรื่องการจัด ครม.นั้น ก็ด้วยความหวังดีและห่วงใย อยากให้ทุกฝ่ายยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก เชื่อว่าประชาชนเข้าใจดี แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารพรรค และสุดท้ายนายกฯ ก็จะเป็นผู้พิจารณาคนที่เหมาะสมตามอำนาจของท่าน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว อย่าไปคิดว่าตั้งชุดใหม่ไม่ได้ก็ใช้ชุดเก่าทำงานไปเรื่อยๆ เพราะพรรคพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงาน เริ่มต้นตั้งแต่นโยบายที่ใช้หาเสียงทำได้จริงหรือไม่ จนถึงจับตาการทุจริตคอร์รัปชัน
วันเดียวกัน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีหนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ เผยแพร่บทความซึ่งมีเนื้อหาแนะนำรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่ายังไม่ควรฟื้นฟูความสัมพันธ์กับไทยอย่างเต็มรูปแบบ ว่าเรื่องนี้ไม่ต้องชี้แจง เพราะเป็นเพียงความเห็นของสื่อ และแม้เดอะวอชิงตันโพสต์จะเป็นสื่อดัง แต่จะเรียกว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคงไม่ใช่ เพราะสิ่งที่มีอิทธิพลมากขณะนี้คือโซเชียลมีเดีย
“ถ้าเราไปให้น้ำหนักเกือบจะทุกฉบับจะเป็นปัญหา แต่เรารับฟังและรับรู้ว่ามีเสียงสะท้อนเช่นนี้ ซึ่งต้องถามว่าเสียงสะท้อนเหล่านี้มาจากอะไร เพราะบางครั้งคนที่เขียนเขาไม่เคยรับรู้ ไม่เคยเข้ามาเมืองไทย แต่แค่นำจิกซอว์ต่างๆ ไปประกอบเป็นรูปเป็นร่าง” นายดอนกล่าว
เปิดโผครม.ประยุทธ์ 2/1
ช่วงเย็นวันเดียวกัน มีความคืบหน้ากรณีกระแสข่าวปัญหาจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลคือ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พยายามทวงคืน 3 กระทรวงเกรดเอ คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงปัญหาภายในพรรค พปชร.เองที่ไม่ลงตัว
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ได้เข้าเคลียร์กับแกนนำกับพรรคร่วมรัฐบาลทันที โดยได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ตั้งแต่ 15.40 น. ซึ่งเร็วกว่าปกติ โดยเริ่มจากเคลียร์ปัญหาภายในพรรค พปชร.ก่อน จากนั้นจึงจะไปเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล
รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้คุยกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และกลุ่มสามมิตร ซึ่งลงตัวที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นั่ง รมว.พลังงาน, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง นายอนุชา นาคาศัย รมช.การคลัง
ขณะที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจองเก้าอี้ รมว.พลังงาน แต่หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้าเคลียร์ปัญหา มีการเสนอให้ไปนั่ง รมว.ศึกษาธิการแทน ส่วนอดีต 4 รัฐมนตรีนั้น นายอุตตม สาวนายน จะนั่ง รมว.การคลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.อุตสาหกรรม, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
นอกจากนี้ ยังมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั่ง รมว.มหาดไทย, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.แรงงาน และนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม
ขณะที่ตำแหน่งรองนายกฯ ในโควตาพรรค พปชร. ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบกลาโหม, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย
ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า พปชร.ที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้กลับใช้ดีลเดิมที่มีการเจรจาตั้งแต่ต้น แต่บางส่วนยังไม่มีความชัดเจนในส่วนของรายชื่อบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการจัดสรร 8 ตำแหน่ง โดยมีบุคคลเข้าปฏิบัติหน้าที่ 7 คน แบ่งเป็น รองนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง, รัฐมนตรีว่าการ 3 ตำแหน่ง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, รัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 ตำแหน่ง คือ รมช.มหาดไทย, รมช.คมนาคม, รมช.ศึกษาธิการ และ รมช.สาธารณสุข
เบื้องต้นรายงานข่าวแจ้งว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. เป็นรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาฯ พรรคปชป.เป็น รมว.เกษตรฯ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อยู่ระหว่างการพิจารณาของพรรคคือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนายจุติ ไกรฤกษ์ ส่วนโควตา รมช.มหาดไทย เป็นการแข่งขันระหว่างนายนิพนธ์ บุญญามณี กับนายถาวร เสนเนียม
พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะนั่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นั่ง รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามีนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. นั่ง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนตำแหน่ง รมช. 4 ตำแหน่ง ตัวบุคคลยังไม่นิ่ง
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา จะนั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายประภัตร โพธสุธน นั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้รับการจัดสรรในตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ พรรคชาติพัฒนา ได้ รมช.อุตสาหกรรม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |