'๑ หญิง ๒ ชาย' ที่ไปด้วยกัน


เพิ่มเพื่อน    

              ปี ๒๕๓๓.........

                "ธงไชย-กมลชนก" เป็น "คู่กรรม" ที่ผู้คนประทับใจกันทั้งบ้าน-ทั้งเมือง

                มาปี ๒๕๖๒ นี้

                "ธนาธร-พรรณิการ์-ปิยบุตร" เป็น "คู่เวร" ที่ผู้คนอยากประทับทั้งบ้าน-ทั้งเมืองไม่ต่างกัน

                แต่ที่ประทับ ไม่ใช่ "ใจ"

                หากแต่เป็น "เท้า"!

                เพราะบทบาทฟิวเจอริสตา ของ "๑ หญิง ๒ ชาย" นี้ มันเป็นบัดซบแห่งคนหลงแผ่นดินเกิดแท้จริง  ซึ่งกำแหงหาญ ทำสะแอ๋ง

                ประกาศ....

                "พวกกูจะกระทำการสืบต่ออำนาจ คณะราษฎร" จากปี ๒๔๗๕

                เป็น "คณะราษฎร" ที่ "ยึดอำนาจแผ่นดิน" ไปจาก "พระมหากษัตริย์"

                จะอภิวัฒน์ไทยหรือสยามไปเป็นประชาธิปไตย ในระบบ "ประธานาธิบดี"

                นี่...ตอนนี้ "ธนาธร-พรรณิการ์-ปิยบุตร" ดังใหญ่

                แต่เป็นการดังที่กระเดียดส่อไปในทาง "ดับ" มากกว่า!

                โดยเฉพาะ น.ส.พรรณิการ์ หรือ "ช่อ" ด้วย "กรรม" คือริยำกิริยาที่เธอทำสะสมเรื่อยมาแต่อดีต

                "ออกดอก-ออกผล" เป็นช่อโตแล้วตอนนี้

                คือทั้งรูปถ่าย-ทั้งเรื่องราว ด้วยถ้อยคำที่เธอทวีต ส่อไปในทางหยามเหยียดพระมหากษัตริย์และสถาบันมากมาย มันทะลักพรั่งพรูออกมา.........

                ยืนยันถึงความเป็นคน "อกตัญญู" ต่อแผ่นดิน และต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงคุณประเสริฐ อันชนทั้งหลายยอมรับสิ่งที่เธอทำไม่ได้

                แอกชั่นและคำพูดของช่อ ก็คงเห็นกันแล้ว

                ทั้งโพสต์ ทั้งแชร์ ช่วง ๒-๓ วันมานี้ เรียกว่า ยึดพื้นที่โซเชียลมีเดียไปเลย!

                ตรงนี้ อยากฝากให้คิดกันนิด

                ที่แก๊งธนาธร ชูประเด็น "สืบต่ออำนาจคณะราษฎร" นั้น เป็นการใช้วาทกรรมเดียว แต่ได้ผลถึง ๓  ทาง

                ทางแรก สร้างมวลชนร่วมแนว

                ทางที่สอง อาศัยระบบรัฐสภาสู่อำนาจ และ

                ทางที่สาม.....

                ด้วยเชิงชั้น "ปัญญาชน" ที่เข้ามาสานงาน "แดงทั้งแผ่นดิน" ต่อจากพวก "แดงรากหญ้า" ที่ร่อแร่-สิ้นสภาพ

                จึงประณีตในลีลา ที่จะไม่ใช้คำพูดเป็นปฏิปักษ์โดยตรงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างที่ "แดงรากหญ้า" ทำทื่อๆ

                ธนาธร ใช้คำว่า สืบต่ออภิวัฒน์ประชาธิปไตย ๒๔๗๕ คนฟังทั่วไป ก็เข้าใจว่า หมายถึงต่อต้านเผด็จการทหาร

                แต่ไม่ใช่.......

                ที่ธนาธรใช้คำนี้ เจตนาต้องการสื่อลึกลงไป ให้หมายถึงการ "ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์"

                อภิวัฒน์ประชาธิปไตย คืออะไร?

                แกะคำสวยๆ นั้นออก จะเห็นเนื้อใน คือปฏิบัติการ "คณะราษฎร" ยึดอำนาจการปกครองประเทศ

                จาก "พระมหากษัตริย์" ไปเป็นของ "คนกลุ่มหนึ่ง"

                แล้วอ้าง "ของประชาชน-โดยประชาชน-เพื่อประชาชน"

                ที่ยังไปไม่ถึงการสถาปนาระบบประธานาธิบดีแทนพระมหากษัตริย์ตามจุดมุ่งหมาย

                นั่นเพราะ .........

                ปฏิวัติล้มอำนาจพระมหากษัตริย์แล้ว พวกคณะราษฎร ก็ทะเลาะ แก่งแย่งตำแหน่ง-อำนาจกัน ล้มล้างกันเอง ไล่ล่ากันเองไปมา

                เรียกว่า ๒๕ ปีเต็ม

                จากปี ๒๔๗๕ จนถึง ปี ๒๕๐๐ "จบยุค" คณะราษฎร ชนิดค้างเติ่ง ที่ "จอมพล ป. พิบูลสงคราม"

                ด้วย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ปฏิวัติ......

                ล้าง-ล้มอำนาจคณะราษฎร "คนสุดท้าย" ไปตายนอกแผ่นดินไทย

                เนี่ย...

                แล้วที่แก๊งธนาธร ประกาศจะเข้ามาสืบต่ออำนาจคณะราษฎร นั้น

                ก็งานที่คณะราษฎรค้างไว้ ตามที่ธนาธรประกาศจะเข้ามาสืบต่อ ก็คือ การเปลี่ยนระบบกษัตริย์

                ไปเป็น "ประชาธิปไตยระบบประธานาธิบดี" ที่ค้างเติ่งอยู่แค่นี้-ตรงนี้ นี่แหละ

                และทราบกันมั้ย........

                ภารกิจคณะราษฎร ภายใต้คำสวยหรูหลอกชาวบ้านว่า "อภิวัฒน์ประชาธิปไตย" นั้น

                "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" แก๊งคณะราษฎร (สงสัยต้นตระกูลแก๊งนิติราษฎร์)

                ปฏิบัติอย่างไรกับองค์พระมหากษัตริย์?

                .........อย่าให้ต้องพูดตรงนี้เลย!

                เดชะพระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ พระผู้สร้างและทรงกอบกู้ทะนุบำรุงรักษาแผ่นดินผืนนี้ให้พวกเราคนไทยได้อยู่อาศัย

                เป็นกฤดาการที่มีอยู่จริง

                และมันผู้ใดบังอาจ ลบล้าง หยามหมิ่น มันผู้นั้น ผมไม่เห็นใครไปรอดสักราย

                ไม่มีใครไปทำอะไรหรอก แต่ด้วย "อสัตย์ชาติ" ที่ตัวมันเองทำ จะลงโทษตัวมันเองในที่สุด!

                ปิยบุตรสุดเสร่อก็เถอะ.........

                หยิบยืมขี้ปาก "หลุยส์ อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์" อ้างเป็นประวัติศาสตร์วิชาการ

                แล้วละเลงขี้ตีนแต่งหน้า เที่ยวสาธยายจ้วงจาบหยาบช้าด่าทอพระมหากษัตริย์เป็นประจำ นั้น

                ทั้ง "ฟ้าเดียวกัน" ของธนาธร ที่ทำ ก็เหมือนกัน

                ซักวัน.........

                ด้วยอนันตริยกรรม "แยกชาติ-แยกแผ่นดิน" ปั่นให้คนพลอยหมิ่นแคลนสถาบัน

                สิ่งที่ "ไม่คิด-ไม่ฝัน" มันจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัว!

                พวกเราส่วนหนึ่งก็ "หลง" เป็นเครื่องมือให้ขบวนการโยกคลอนเพื่อถอน-ล้มล้างสถาบันโดยไม่รู้ตัว

                คือการนำข้อความ ภาพ เรื่องราว ที่แก๊งธนาธรของช่อโพสต์เป็นเหยื่ออ่อย

                แล้วสุจริตชนทั้งหลาย เห็นก็ทนไม่ได้ แค้นมัน..ต้องประจาน

                ก็พากันนำข้อความ-ภาพ ที่หมิ่นแคลนเป็นเหยื่ออ่อยนั้น ฮุบมาแชร์ มาเผยแพร่ต่อ

                ที่อยู่ในวงแคบ-วงจำกัด ก็เลยแพร่หลายลามโลกา ด้วยสุจริตชนเราๆ ท่านๆ นี่แหละ เป็นพาหะ

                แผนนี้ เขาเรียกว่า "ยืมคลื่นขยอกฝั่ง"!

                ใช้ขนมปังเล็กๆ ชิ้นเดียว พอฝูงปลาแย่งฮุบ น้ำจะกระจายกลายเป็นวงคลื่นกว้างออกไป

                คลื่นกระแทกฝั่งไปเรื่อยๆ แผ่นดินทั้งผืน ถูกกลืนหายในท้องทะเล ไม่เคยเห็นกันดอกหรือ?

                ทักษิณเขา "เปลี่ยนหน้าชน"

                เมื่อรากหญ้าหมดราคาไป ก็เปลี่ยนจากแดงทั้งแผ่นดิน ทักษิณสถาปนา มาใหม่ในสีส้ม

                และสโลแกนใหม่ ให้สมกับปฏิบัติการชนชั้น "พ่อค้า-ปัญญาชน" สืบต่อภารกิจอภิวัฒน์ประชาธิปไตย ๒๔๗๕!

                ทั้ง "อภิวัฒน์ประชาธิปไตย" และ "แดงทั้งแผ่นดิน" ต่างกันเพียงถ้อยคำ

                แต่เนื้อหา "ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์" สถาปนาอำนาจใหม่ในระบบ "ประธานาธิบดี"

                อันเดียวกันเป๊ะ!

                ตัวธนาธรน่ะ ผมไม่ห่วงหรอก เพราะเขามีโรงงานอยู่ในสหรัฐ ไม่แน่ว่า อยู่ใต้อาณาจักรกลุ่มทุนยิว  CFR ด้วยซ้ำ

                ระดับธนาธร เผลอๆ เป็นซิติเซน ดังนั้น จวนตัวจริงๆ เขาไม่ต้องหนี เพียงเดินทางกลับไปประเทศที่สองของเขาก็ได้

                อยู่แต่ "ฟ้าของพ่อ" ทั้งหลายนี่แหละ กว่าจะรู้ตัวว่าถูกหลอกให้ชังชาติ ก็ "เสียชาติเกิด" ไปแล้ว

                นี่...ตอนนี้ ช่อยังไม่อยู่ใช่มั้ย?

                ดูข่าวเนชั่นเย็นวาน เห็น "เจ๊ปอง" บอกว่า ไปภารกิจชังชาติที่พม่า

                งั้นยังไม่บอก......

                เอ้า...บอกก็บอก คืออยากจะบอกว่า บ้านเมืองไทยมีกฎหมาย ว่าด้วย "มาตรฐานทางจริยธรรม" พ.ศ.๒๕๖๑ อยู่

                ด้านอาญา เห็นว่าทางตำรวจเขาเอาจริง-เอาจัง ก็ว่ากันไป

                แต่ทางจริยธรรม สิ่งที่เธอทำ ตามที่เห็นทั้งพาราขณะนี้ระวังนะ มันจะเข้าข่าย

                "มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์" หมวดที่ ๑ ในข้อที่ ๕ และที่ ๖

                ตามกฎหมาย ให้ถือว่า การกระทำในหมวดที่ ๑ นี้ มีลักษณะร้ายแรง

                เมื่อมีลักษณะร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๕ (๑) เป็นพฤติกรรมที่เธอทำก่อนเป็น ส.ส.

                ดังนั้น มีสิทธิ์ถูก ป.ป.ช.สอบสวน ส่งฟ้องศาลฎีกาฯ ได้ ถ้าศาลรับฟ้อง เธอก็จะเหมือนธนาธร

                คือต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

                เออ..ช่อจ๊ะ.......

                ขอถามเป็นความรู้คำ ที่คุณทวีตข้อความว่า

                "ชะนีน้ำเดิน" นั่นน่ะ

                มันคืออะไรของเธอจ๊ะ? 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"