กกต.เรียก "ศรีสุวรรณ" ไต่สวนข้อร้องเรียน "ธนาธร" ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 110 ล้านบาท 11 มิ.ย.นี้ "เลขาฯ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย" ชี้คดีนี้ถ้า "พ่อฟ้า" ผิดถึงขั้นคุก 5 ปี กก.บริหารพรรคโดนเพิกถอนสิทธิ์ 5 ปี "อิทธิพร" เผยกำลังสอบคำร้องงูเห่าอนาคตใหม่ 120 ล้าน "เอกชัย" โวยเห็นต่างโดนติ่ง "อนค." โจมตี
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณียื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องเรียนเรื่องที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 110 ล้านบาท อันส่อที่จะขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ว่า ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือเรียกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยไปไต่สวน สอบสวนเรื่องที่ร้องเรียนในวันอังคารที่ 11 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนมีข้อสงสัยว่าเป็นการกระทำที่ขัดหรือฝ่าฝืน ม.66 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ เนื่องจากรายได้ของพรรคการเมืองตาม ม.62 ของกฎหมายดังกล่าว ไม่ได้ระบุให้บุคคลใดหรือให้พรรคการเมืองใดสามารถกู้ยืมเงินมาใช้ในกิจกรรมของพรรคการเมืองได้ นอกจากเงินทุนประเดิมของพรรค เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค เงินจากการจำหน่ายสินค้าและบริการของพรรค เงินที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค เงินที่ได้จากการรับบริจาค เงินอุดหนุนจากกองทุนพรรคการเมือง ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคเท่านั้น
"ถ้าหากการดำเนินการดังกล่าวของนายธนาธรเป็นการขัดหรือฝ่าฝืนกฎหมายข้างต้น ก็อาจจะมีความผิดตาม ม.124 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ซึ่งมีบทกำหนดโทษไว้ คือ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี ส่วนพรรคอนาคตใหม่ก็จะมีบทลงโทษตาม ม.125 คือ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนด 5 ปี และให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินกว่า 10 ล้านบาทที่กําหนดไว้ตาม ม.66 ให้ตกเป็นของกองทุนพรรคการเมือง" เลขาฯ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าว
ขณะที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีบวงสรวงในวันครบรอบสถาปนาสำนักงาน กกต.ถึงความคืบหน้าเรื่องที่นายศรีสุวรรณยื่นหนังสือต่อ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่แถลงข่าวมีการซื้อตัว ส.ส.แลกกับการโหวตนายกรัฐมนตรี 120 ล้านบาทว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ขอพูดไปก่อน เมื่อมีการยื่นคำร้องมาแล้วสำนักงาน กกต.ก็จะเป็นผู้สอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น ได้ผลประการใดแล้วจึงเสนอที่ประชุม กกต. หลังจากนั้นจะพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายลักษณะใดก็จะพิจารณาไปตามนั้น
"ไม่อยากไปพูดล่วงหน้าก่อนว่าถึงขั้นไหนอะไรอย่างไร ยังไม่เป็นข้อเท็จจริง เข้าใจว่าเรื่องนี้สำนักงานได้รับคำร้องเรียนไว้แล้ว เราสามารถรับคำร้องไว้ได้ และจะพิจารณาว่ามีหลักฐานข้อมูลเบื้องต้นเพียงพอหรือไม่ ถ้าเพียงพอก็จะรับไว้พิจารณาตามขั้นตอน" นายอิทธิพรกล่าว
ถามถึงเรื่องการตรวจสอบคำร้องในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ประธาน กกต.กล่าวว่า การพิจารณาในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่จะให้ใบแดง ซึ่งในการพิจารณาก็มีคำร้องบางส่วนที่ยกคำร้องไป บางส่วนก็ให้มีการสืบสวนไต่สวนเพิ่มเติม ในส่วนที่ยกคำร้องไปแล้วก็สามารถตรวจสอบได้ทางเว็บไซต์ของ กกต.
ประธาน กกต.กล่าวว่า เนื่องในวันครบรอบสถาปนาสำนักงาน กกต. เราจะศึกษาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้นหรือให้มีความผิดพลาดน้อยลง เพราะจุดมุ่งหวังของการทำงานของเราคือ จะทำงานให้ดีที่สุด พยายามที่จะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ถามถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น นายอิทธิพรกล่าวว่ายังไม่ทราบ แต่ก็เตรียมไปเรื่อยๆ ส่วนการเลือกตั้งจะมีขึ้นเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ที่พิจารณา เพราะ กกต.ไม่ใช่ผู้กำหนดวัน มหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบหลัก
ด้านนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ออกมาวิจารณ์พรรคอนาคตใหม่ ในประเด็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่บางรายออกมาประกาศมีความพยายามจูงใจให้เงิน 120 ล้านบาทแลกกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าเขาบอกว่ามีความพยายามติดต่อซื้อตัว ส.ส.ในวงเงิน 10-20 ล้านบาท ตนเองอาจจะเชื่อก็ได้ แต่เมื่อพูดว่ามีการพยายามเสนอเงินให้ถึง 120 ล้านบาทต่อคน ฟังแล้วมันเวอร์ไป
"เมื่อผมออกมาวิพากษ์วิจารณ์แบบนั้น ก็ทำให้พวกติ่งหรือบรรดากองเชียร์พรรคอนาคตใหม่ทั้งหลายออกมาโจมตีผม การออกมาเชียร์ก็ไม่ผิดหรอก แต่ว่าบางทีต้องมีขอบเขตหน่อย แล้วไปลามปามคนอื่นมันเยอะไป กรณี ส.ส.คนหนึ่งพูดเรื่องงูเห่า 120 ล้าน ฟังแล้วมันเวอร์ ผมไม่เชื่อ ทำไมต้องขี้โม้ด้วย ถ้าเริ่มต้นด้วยการโม้ ต่อไปจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณจะไม่โม้ต่ออีก ก็ต้องออกมาติกันบ้าง" นายเอกชัยกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |