ครบรอบ 1 ปี ในการก่อตั้งพรรค "อนาคตใหม่" ไปไม่กี่วัน ดูเหมือนมรสุมกลับถาโถมเข้าใส่หนักหน่วงและรุนแรงกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

                ตั้งแต่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปในสภา ในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เพราะโดน แขวน จากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ปมหุ้นวี-ลัค มีเดีย ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งยังมีเรื่องที่คาอยู่ใน กกต. ทั้ง ปมให้พรรคกู้เงิน

                ท่ามกลางกระแสข่าวลืออย่างหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ว่า พรรคอนาคตใหม่ คงจะสิ้นอายุขัยในเวลาไม่นานนี้        

                ต่อมาเป็นคิวของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ที่มีชนักติดหลังมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากเคยเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่ม นิติราษฎร์ ซึ่งคนในสังคมต่างตีความ แนวทางการดำเนินการของนักเคลื่อนไหวในกลุ่มนี้กันไปหลากหลาย แต่ที่แน่ๆ คือ สิ่งที่ทางกลุ่มพยายามทำนั้น ส่งผลโดยตรงกับสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย

                ปิยบุตร จึงไม่รอดสันดอน โดน "ขุดคลิป" ที่เจ้าตัวเคยพูดบนเวทีวิชาการ สมัยดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนเจ้าตัวแก้ต่างพัลวัน

                กระทั่งล่าสุดสาวมั่น อย่าง “ช่อ" พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ก็เป็นตำบลกระสุนตกแห่งใหม่ ตั้งแต่โดน “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี จากพรรคพลังประชารัฐ เปิดหน้าแลกหมัด

                พร้อมๆ กับวลีที่เรียกขาน อีช่อ เป็นเรื่องเป็นราวกันพักใหญ่ ตามมาด้วยเรื่องชุด ขาวดำ และเรื่อง มารยาทการพูดจาในสภา

                กระทั่งที่กระสุนลูกล่าสุดที่ตก ซึ่งดูจะเป็นกระสุนปืนใหญ่ ตกหนัก ตกแรง มีอานุภาพมากกว่ากระสุนทั่วไป กับโพสต์ในอดีตสมัยรับปริญญา ที่ ช่อ ใส่ชุดครุย พร้อมถ่ายภาพกับหนังสือที่มีพระบรมฉายาลักษณ์

                ที่สังคมต่างตั้งคำถามต้องการสื่ออะไร และเหมาะสมหรือไม่????

                 แม้ ช่อ จะออกมาโพสต์แก้ต่างยาวเหยียดว่า สิ่งที่ทำไปนั้น มีความหมายอย่างไร เพื่อให้เกิดความเข้าใจไปในแนวทางเดียวกันระหว่างทั้งระหว่างผู้รับสารแลผู้ส่งสาร และป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามมากไปกว่านี้ พร้อมยืนยันเคารพระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

                แต่กระแสโหมกระหน่ำก็ไม่กระเตื้องขึ้น ถึงขนาดพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) สั่งการไปยัง 3 หน่วยงานให้ตรวจสอบกรณี

                ประกอบด้วย 1.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ให้ตรวจสอบเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของ น.ส.พรรณิการ์ ว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ 2.ให้กองกฎหมายและคดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบในกรณีดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดอาญาหรือไม่ และ 3.มอบหมายให้ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) ดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวกับความมั่นคงหรือไม่อย่างไร

                ไม่ว่าผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมาอย่างไร จะมีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ ช่อ-พรรณิการ์ หรือไม่

                ก็ไม่สู้ผลที่สะท้อนสะเทือนอยู่ในสังคม ที่พรรคอนาคตใหม่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะ "ช่อ" ที่นับจากนี้จะกลายเป็นตำบลกระสุนตกของจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.