สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ยกเลิกกฎห้ามพนักงานมีรอยสัก หลังโดนวิจารณ์ว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติต่อชาวเมารี

แฟ้มภาพ เครื่องบินโดยสารของแอร์นิวซีแลนด์กำลังเทคออฟจากสนามบินซิดนีย์ / AFP PHOTO / Greg WOOD

    คริสโตเฟอร์ ลักซอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินแอร์นิวซีแลนด์แถลงทางอีเมลเมื่อวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนปีนี้ สายการบินยกเลิกกฎห้ามพนักงานมีรอยสัก แต่จะต้องเป็นรอยสักที่ไม่ทำให้เกิดความขุ่นเคือง การเปลี่ยนกฎเรื่องนี้มาจากการทำวิจัยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา กับลูกค้าและพนักงานของสายการบิน และกับชาวนิวซีแลนด์ทั้งในประเทศและที่อยู่ต่างประเทศ ชัดเจนว่าปัจจุบันมีการยอมรับเรื่องของรอยสักเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะกับรอยสักที่เป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมและความเป็นปัจเจกบุคคล

    แอร์นิวซีแลนด์เผยว่า จากการวิจัยพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ใหญ่ชาวนิวซีแลนด์มีรอยสักอย่างน้อย 1 แห่ง และมากกว่า 35% ของชาวนิวซีแลนด์ที่อายุต่ำกว่า 35 ปีมีรอยสัก

    โฆษกแอร์นิวซีแลนด์กล่าวว่า สายการบินพิจารณารอยสักของพนักงานไม่ต่างจากคำพูด โดยตัดสินว่าทำให้เกิดความขุ่นเคืองหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ในที่ทำงาน พนักงานไม่ควรกล่าวคำสบถ, วิจารณ์ผู้อื่นด้วยความเกลียดชัง, พูดตลกลามก, ใช้ภาษาก้าวร้าวรุนแรง และถ้าสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน ทางสายการบินจะออกข้อแนะนำเรื่องรอยสัก เพื่อช่วยให้พนักงานและผู้จัดการตัดสินได้ว่า รอยสักแบบใดที่จะไม่ขัดกับนโยบายของสายการบิน

    ชาวเมารีมีรอยสักที่ใบหน้าและแขน เพื่อแสดงถึงลำดับวงศ์ตระกูล ซึ่งถือว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ทางวัฒนธรรม โดยผู้ชายสักทั้งหน้า ส่วนผู้หญิงสักที่คาง แต่กฎเครื่องแบบของสายการบินแห่งชาตินิวซีแลนด์ห้ามพนักงานมีรอยสักบริเวณร่างกายที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะกับพนักงานต้อนรับบนเครื่อง ซึ่งโดนวิจารณ์ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับชาวเมารี ทั้งที่สายการบินนี้นำภาษาเมารีมาใช้ทำการตลาด และนำรูปคล้ายใบเฟิร์น หรือ "โครู" สัญลักษณ์ของชาวเมารี มาใช้เป็นโลโก้ของสายการบินและที่หางของเครื่องบิน.