10 มิ.ย.62 - ที่ร้านกาแฟพีซคอฟฟี่แอนด์ไลบรารี่ อิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5  วานนี้ มีการจัดกิจกรรมต่อลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ ซึ่งออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม พีซทีวี โดย มีแกนนำ นปช.มาพบปะพูดคุย ร้องรำทำเพลงสนุกสนานกันเป็นประจำทุกสัปดาห์

โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่าน ฝ่ายประชาธิปไตยจะเริ่มต้นด้วยชัยชนะ เพื่อรอวันพ่ายแพ้เสมอ เลือกตั้งทุกครั้ง ยกแรกได้เป็นรัฐบาลแทบทุกครั้ง หลังจากนั้นก็รอพ่ายแพ้ ไม่ว่าจะจบลงที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ จะจบลงด้วยการรัฐประหารก็ตาม

นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ที่เราสตาร์ทด้วยความพ่ายแพ้ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยกแรกเราชนะเสมอ แต่เมื่อผลรวมที่เป็นการออกแบบการนับ ให้มีผลไปกลับนั้น เราไม่เคยเจอว่าเลือกตั้งเสร็จแล้ว ไม่เป็นรัฐบาล

ส่วนเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกครั้งที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มีความพยายามหลายครั้ง ซึ่งในขณะนั้นเราเป็นเสียงข้างมากที่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ไม่เคยแก้ไขสำเร็จ แม้จะเป็นเสียงข้างมาก

ครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายประชาธิปไตยอยู่ฝั่งเสียงข้างน้อยในสองสภา จึงเป็นการพิสูจน์ว่าเมื่อมีเสียงข้างน้อยจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างการแก้ไข มาตรา 291 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยมีการเลือก สสร.เข้าไปนั้น ผ่านวาระ 1 ตนมีโอกาสโหวต แต่เมื่อถึงวาระ 3 ก็ถูกจัดการเสียก่อน จนสุดท้ายได้มีการยื่น ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และสมาชิกรัฐสภาไม่กล้าโหวตในวาระที่ 3

ดังนั้น บทเรียนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฝ่ายของคนเขียนรัฐธรรมนูญนั้น ก็มีตัวอย่างเป็นอย่างดี และในครั้งนี้ จึงออกแบบให้ต้องใช้เสียง ส.ว.ถึง 84 คน

นายจตุพร กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถตั้งรัฐบาลกันได้ แต่เชื่อว่า ประชาชนคงมองเห็นว่า การเจรจาการต่อรองผลประโยชน์ของประเทศไทยนั้นไม่ได้ง่ายนัก แต่ละพรรคยังคงต่อรองกันไม่เสร็จ และไม่ต้องไปพูดถึงเมื่อครั้งตอนหาเสียงว่าแต่ละพรรคเคยพูดไว้อย่างไรบ้าง เพราะไม่มีใครใดยึดถือแม้แต่คนเดียว ในซีกของคนที่ต้องการแสวงหาอำนาจ เมื่อครั้งหาเสียงก็ประกาศอย่างหนึ่ง เช่น ประกาศไม่เอาพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็กลับคำพูด หนุนพลเอก ประยุทธ์

อีกทั้ง เสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ปริ่มน้ำนั้น ส่วนตัวมองว่า มีเรื่องที่จะต้อง พิสูจน์กันอีกมาก เพราะจากนี้ไป ในห้วงระยะเวลาร่วม 4 เดือนนั้น ซึ่งเป็นสมัยประชุมของสภานั้น จะเป็นการพิสูจน์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฝ่ายค้านเช่นเดียวกันว่า จะมีศักยภาพ ในการอธิบายให้ประชาชนเข้าใจหรือไม่ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎรนั้นเกิดขึ้นจากเสียงข้างน้อยอยู่แล้ว

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อหลายวันก่อนตนได้ไปเยี่ยม นาย สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง อายุ 27 ปี ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย เพื่อต้องการสื่อไปถึง ผู้กระทำการทั้งหลายว่า การทำร้ายบรรดานักเคลื่อนไหวนั้น จะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง เพราะมีตัวอย่างในอดีตก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็ มีเหตุการณ์ทำร้ายนักเคลื่อนไหวในลักษณะแบบนี้ ทำให้เกิดอารมณ์สะสมของประชาชนไปเรื่อยๆในแต่ละเรื่องราว

อย่างไรก็ตาม จะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไรนั้น ส่วนตัวมองว่า ให้เวทีรัฐสภาได้ดำเนินกระบวนการไปนั้นเป็นเวทีที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าเวทีอื่นจะมีไม่ได้ แต่เวทีรัฐสภาเป็นเวทีที่ดีที่สุด

นายจตุพร ยังกล่าวถึงที่ทำการพีซทีวีแห่งใหม่ ว่า ขณะนี้ได้เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว จะไปอยู่ที่รามอินทรา 40 เลยวัดนวลจันทร์เลี้ยวซ้ายเข้าไป เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ อย่างน้อยที่สุดก็ได้กลับไปสู่ดินกันอีกครั้ง คาดว่า อีก 1ถึง 2 เดือนจะสามารถเคลื่อนย้ายของได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับภูมิทัศน์และการก่อสร้าง