9 มิ.ย. 2562 - นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระบวนการการพยายามดิสเครดิต พรรคอนาคตใหม่ ว่า เราเข้าใจถึงกระแสการโจมตี ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำให้เราอ่อนแอลง เขาพยายามไปขุดข้อมูลในอดีตที่นานมากๆ ของทั้งแกนนำพรรค และส.ส.ของเรา เพื่อนำมาโจมตี ซึ่งเราก็มองว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะเป็นจุดยืนของเรา ที่มีมาตลอด

“เราเชื่อว่า การกระทำต่อจากนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าเราเป็นอย่างไร ทั้งในข้อบังคับ และตอรณรงค์หาเสียงว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มาโดยตลอด อย่างไรก็ดีการตีความ จากข้อมูลที่ปรากฎ สามารถตีความได้ทั้งหมด บางคนอาจตีความเลยเถิดไป ก็เหมือนคนขับแท็กซี่ที่โดนจับ หากเขาจะเอาผิด แค่แต่งตัวไม่เรียบร้อย ก็โดนจับปรับได้”

ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะทำได้หรือไม่ ต้องถามประชามติก่อน จริงอยู่เหมือนจะทำได้ยาก แต่การเสนอกฎหมายก็เหมือนการจุดประกาย จุดประเด็น เสนอเพื่อให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ รณรงค์ ถือว่าได้จุดประเด็นขึ้นแล้ว แม้สุดท้ายจะตกไปก็ถือว่าได้จุดประกาย ส่วนคดีของพรรคอนาคตใหม่ยังแปลกใจอยู่ว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลหรือไม่ ถ้าเป็นศาลทำไมไม่อยู่ในศาล แต่กลับไปอยู่อีกหมวดหนึ่งต่างหาก ส่วนเรื่องหุ้นสือของนายธนาธร เชื่อว่าโดยกฎหมายเราไม่มีทางผิดในข้อหานี้แต่ศาลรัฐธรรมนูญรับไปมีการสั่งให้สปีด ให้ยุติปฎิบัติหน้าที่ซึ่งเราได้ยื่นหลักฐานชี้แจงไปแล้ว พร้อมกับยื่นร้องพรรคอื่นประมาณ2พรรค ไปในกรณีเดียวกันกับที่นายธนาธรโดน หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะใช้มาตรฐานเดียวกัน เพราะพิจารณาธนาธร ใช้เวลา 7วัน ก็รอดูอยู่ว่าจะใช้เวลากี่วัน