ติ่งส้มรู้ยัง'ธนาธร'รับอีก10ปีอาจเปลี่ยนเพราะอำนาจหอมหวล ผุดแผนอนาคตใหม่ขยายฐานแหล่งทุนหนุนพรรค


เพิ่มเพื่อน    

8 มิ.ย.62 - เมื่อเวลา 17.30 น.ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  กล่าวในงาน ฉลองครบ 1 ปี การก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้หัวข้อ “1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน walk with me talk with me”

โดยนายธนาธร  กล่าวช่วงหนึ่งถึงแผนการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ ว่า นับจากนี้อนาคตใหม่จะแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วนคือ 1.การทำงานในสภา ซึ่งน่าเสียดาย ตนยังทำหน้าที่ไม่ได้จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น แต่ตนกำชับส.ส.ให้ทำงานในสภาอย่างสร้างสรรค์ สร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ผลักดันกระทู้ให้รัฐบาลนำปัญหาไปแก้ เสนอญัตติเพื่อหามติให้นำไปสู่การแก้ไข ใช้กลไกกมธ.ผลักดันวาระของอนาคตใหม่ และถ้าเรื่องใหญ่ จะผลักดันกฎหมาย ซึ่งอนาคตใหม่มีส.ส.เกิน 20 คน สามารถเสนอร่างกฎหมายได้ ให้นำไปสู่การแก้ปัญหาได้ เช่น ปัญหารัฐธรรมนูญ ปัญหาทุนผูกขาด ปัญหาการเกณฑ์ทหาร

2.สร้างพรรคการเมืองที่แข็งแกร่งกว่าเดิม 1ปีนี้ อนาคตใหม่ยังห่างไกลกับความสมบูรณ์แบบ ยังมีความผิดพลาดเยอะในทางยุทธศาสตร์ และการปฏิบัติการ กรรมการบริหารพรรคจะทำการสรุปบาเรียน จากทางเลือกที่เดินผิดทาง วิเคราะห์ประมินผล โดยคนนอกสภาจะไปขยายแนวร่วม กลุ่มคนที่สนใจปัญหาเฉพาะด้านแต่ละกลุ่ม ส่งปัญหาให้ส.ส.ในสภาผลักดัน ทั้งยังต้องขยายฐานสมาชิกจาก 5.4 หมื่นคน ให้กว้างขึ้น เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม โหวตออนไลน์ในบางเรื่อง เพื่อฟังสมาชิกในการแก้ปัญหาที่ยากๆดูบ้าง

"ต้องขยายความคิดและอุดมการณ์ให้คนหมู่มากกว่านี้ เพราะเรายังเข้าถึงคนส่วนใหญ่ไม่ได้ดีพอ สุดท้ายคือขยายฐานที่มาของเงินทุนพรรค เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าเงินมาจากนายทุนไม่กี่คน การตัดสินใจในเรื่องสำคัญจะปฏิเสธนายทุนพรรคไม่ได้ จึงจำเป็นต้องมีอิสระทางการเงิน ให้พรรคยืนหยัดในอุดมการณ์ที่เข้มแข็งได้ ไม่มีใครรู้ว่าผมอีก 10 ปี อาจเปลี่ยนก็ได้ เพราะอำนาจหอมหวล ถ้าไม่มีฐานเงินทุนมากพอ คุณจะทำอะไรผมที่เปลี่ยนไปไม่ได้เลย แต่ถ้าเข็มแข็งจะสามารถเตะนายธนาธรออกไปได้ พรรคนี้ต้องใหญ่กว่าธนาธร ไกลกว่าปิยบุตร เข้มแข็งกว่าพรรณิการ์"

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า 3.ช่วงปลายไตรมาสสามต้นไตรมาสสี่ จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้น ที่ผ่านมาพรรคการเมืองมักไม่ส่งทีมเลือกตั้งโดยใช้ชื่อพรรค แต่อนาคตใหม่เชื่อว่าการเมืองท้องถิ่นสำคัญมาก จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทัองถิ่น แต่ยอมรับว่า ยังไม่มีทรัพยากรคนเข้มแข็งพอจะส่งทั้ง 77 จังหวัด จึงมองเพียง 10 -20 จังหวัด ที่เรามีศักยภาพก่อน เพื่อหวังทำให้เห็นว่า คุณภาพชีวิตกับการเมืองเป็นเรื่องเดียวกัน ระบบขนส่งห่วยแตกก็คือการเมือง 

"เราจะทำให้เห็นว่าอำนาจกับชีวิตประชาชนเป็นเรื่องเดียวกัน โดยอนาคตใหม่ส่วนกลางของพรรคจะทำตรงข้ามกับที่เผด็จการรวบอำนาจ เราจะผลักอำนาจให้กลับไปอยู่จังหวัดของท่าน เราจะเขย่าการเมืองท้องถิ่น หมดยุค พ่อเป็นส.ส.ลูกเป็นส.จ. หมดยุคบ้านใหญ่แล้ว มาเขย่าท้องถิ่นกัน 

ผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น จะขับเคลื่อนผ่านนโยบาย เราจะแข่งท้องถิ่นด้วยนโยบาย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมี เลือกตั้งท้องถิ่นแข่งกันแค่เครือข่าย แต่ตนบอกแล้วว่า หมดยุคแล้ว แล้วเราไม่หวงถ้าเพื่อนพรรคอื่นอยากทำ ทำตามเลย คุณภาพการเมืองจะได้สูงขึ้น และต้องอย่าลืมเป้าหมายใหญ่ของพรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่ได้หักเหเปลี่ยนแปลงเลย คือ เปลี่ยนประเทศให้น่าอยู่ เท่าเทียมกัน เสาหลักที่ค้ำจุนความไม่เป็นธรรม อย่างทุนผูกขาด บทบาทกองทัพ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และรัฐราชการรวมศูนย์ที่กทม. ถ้าไม่แก้ไขไทยเดินไม่ได้ ทั้งสามส่วน จึงต้องเดินต่อสำหรับเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไปเพื่อจัดการกับสามเสานี้"

นายธนาธร กล่าวต่อว่า 1 ปีผ่านไป พวกเรายังตั้งมั่นกับสิ่งเหล่านี้เหมือนเดิม สมรภูมิหลังจากนี้จะแหลมคมขึ้น ไม่มีใครเดาอายุรัฐบาลชุดนี้ได้ว่า จะ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 4 ปี การต่อสู้เพื่อสถาปนาอำนาจประชาชนเป็นเจ้าของ ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน จะมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราทำคนเดียวไม่ได้ต้องช่วยกันผลักดันแนวคิดใหม่ๆดังนี้  

1.การเมืองของเผด็จการคือการเมืองของความกลัว การเมืองของอนาคตใหม่คือความหวัง เขาบอกให้เรากลัวจะไม่สงบ พูดแง่ลบว่าถ้าไม่มีคุณลุงประเทศเราจะพัง แต่ของเราคือความหวัง แต่ถ้าเรากลัวจะไปถึงความฝันไม่ได้ 

2.การเมืองของเขาการทำให้ลืม การเมืองของเราคือการทำให้จำ จำไว้ว่าความอยุติธรรมที่เขาทำกับเราเจ็บปวดแค่ไหน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศนี้ มันมีมายาวนานแล้ว แต่ถูกทำลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเล่านิทานเราฟัง  

3.การเมืองของเขาคือการเมืองของเมื่อวาน การเมืองของเราคือการเมืองของวันพรุ่งนี้ พวกเขาคือกลุ่มคนที่ไม่อยากเห็นวันพรุ่งนี้อยากให้ทุกวันเป็นเมื่อวาน ที่ประชาชนไม่เข้าใจอำนาจ ไม่กล้าทวงอำนาจจากเขา และเขาจะบอกเราเสมอว่าอย่ายุ่งกับการเมือง แต่การเมืองคืออำนาจ หมายความว่า อย่ามายุ่งกับอำนาจของเขา ยิ่งเราไม่สนใจ เขาก็ยิ่งตักตวงอำนาจ เพื่อเขาจะได้เสวยสุข โดยไม่มีใครสั่นคลอนอำนาจของเขาได้ สิ่งที่อนาคตใหม่ต้องการไม่ใช่ความก้าวร้าว หรือพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน แต่ต้องการความก้าวหน้า ประชาธิปไตย ไม่ใช่ทางเลือก แต่ทางเดียวเพื่อวันพรุ่งนี้

สุดท้าย 4.การเมืองของเขาคือการเมืองแห่งความเกลียดชัง แบ่งฝ่ายประชาชน ตีตราประชาธิปไตยและประชาชนคือปัญหา กองทัพคืออัศวินขี่ม้าขาว รัฐประหารคือทางออก ตนก็จะบอกว่า ไม่เอาความเกลียดชัง อย่าทำให้คนไทยเกลียดกันมากกว่านี้ ต้องสู้การเมืองแบบนี้ ด้วยการเมืองแห่งความรัก ถ้าประชาชนไม่เกลียดกันเอง จะทำให้เขารัฐประหารไม่ได้เลย เราจึงเห็นเขาลดน้ำพรวนดิน ให้เมล็ดพันธ์แห่งคงามเกลียดชังงอกงาม จนคนพร้อมสนับสนุนให้มีการฆ่าคนที่มีความเห็นต่างทางการเมือง เราจึงต้องช่วยกันตอบโต้การเมืองแห่งความเกลียดชังด้วยความรัก ด้วยความเป็นจริง เราจะชนะได้ด้วยการดึงคนอีกฝั่งกลับมาเชื่อประชาธิปไตยได้ด้วยความจริง ด้วยความรัก แล้วโอกาสที่เราจะชนะก็มีได้

"วันนี้เราไม่อาจฝันใหญ่แบบภาพคนเรือนแสนบนถนนราชดำเนินได้ จึงต้องมาช่วยกัน สมรภูมิการต่อสู้จะยิ่งความแหลมคมและคงไม่จบในอนาคตอันใกล้ จึงต้องเตรียมใจไว้ นี่การเดินทางไกล เดินทางขึ้นเขา แพ้ครั้งเดียวไม่ได้ทำให้เราหมดกำลังใจ หรือทำให้เราเปลี่ยนแปลง" นายธนาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายธนาธรแสดงวิสัยทัศน์เสร็จ ได้เชิญส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทั้ง 81 คน ขึ้นบนเวทีแล้วร้องเพลงทุ่งฝันวันใหม่พร้อมกัน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างฮึกเหิม ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเปิดให้ประชาชนและสมาชิกพรรคร่วมถ่ายภาพนานนับชั่วโมง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"