7 มิ.ย.62 - นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้ ในที่สุดพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลผสม ๒๕๔ เสียง ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี
ก่อนการโหวตเลือกนายกฯในคืนวันที่ ๖ ความเห็นทั้งในพรรค นอกพรรค แตกออกเป็น ๒ ข้างชัดเจน
เกือบสองสัปดาห์ที่พรรคเป็นตำบลกระสุนตกจากทุกฝ่าย จนต้องโหวตลงมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ในเย็นวันที่ ๕ ก่อนวันโหวต ๑ วัน
ผมเชื่อว่า ตลอดการอภิปรายในสภาวันที่มีการเลือกนายกฯ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่มี ส.ส. ของประชาธิปัตย์ลุกขึ้นอภิปราย
ความจริงคืนวันที่ 4 หัวหน้าพรรคจุรินทร์ แถลงเหตุผลไว้ชัดเจนแล้ว
แต่เช้าวันที่ 5 ข่าวที่อดีตหัวหน้าพรรคอภิสิทธิ์ แถลงเหตุผลลาออกจาก ส.ส. กลายเป็นข่าวใหญ่กว่า
และแน่นอนว่า การโหวตให้พลเอกประยุทธ ของพรรค กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง
ผมเอง เตรียมเรื่องอภิปรายไว้ถึงเหตุผลที่ผมตัดสินใจโหวตให้พลเอกประยุทธ แต่โดยสถานการณ์ยากที่จะทำได้ เพราะรัฐธรรมนูญให้อภิปรายแค่คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเท่านั้น
จึงอยากจะเขียนบอกเหตุผลไว้
นอกเหนือจาก ๕ เหตุผลของพรรคประชาธิปัตย์
มันเป็นความในใจของผม
ผมคิดว่า ประชาธิปัตย์ อยู่ท่ามกลางทางเลือกเพียง ๒ ทาง
ทางหนึ่งคือขั้วพรรคการเมืองที่เคยบริหารประเทศมาแล้วหลายครั้งเป็นแกนนำ แต่เป็นรัฐบาลที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมโหฬาร ทั้งทุจริตเชิงนโยบาย ทุจริตตรงๆ ใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรอิสระ ครอบงำราชการ แทรกแซงสื่อ จนอดีตนายกฯต้องถูกยึดทรัพย์ หนีคุกไปต่างประเทศ แล้วยังจัดตั้งมวลชนก่อการชุมนุม จนมีเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ต่อมาให้คนของตัวเองมาเป็นนายกฯ ก็เกิดทุจริตจำนำข้าว จนตัวเองต้องหนีไปต่างประเทศ ปล่อยลูกน้องติดคุกจนปัจจุบัน สร้างความเสียหายแก่ประเทศเป็นแสนล้าน ขั้วการเมืองนี้ เสนอชื่อนักการเมืองที่ร้อนแรงจากการเสนอความคิดแหวกแนว สุดขั้ว และตัวเองเคยตกเป็นที่สงสัยเรื่องสนับสนุนนิตยสารที่มุ่งวิพากษ์สถาบัน ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย ต้องออกมาแก้ตัวจนคนจับพฤติกรรมได้จนปรากฎเป็นข่าวทั่วไป ทั้งยังน่าสงสัยว่าถ้ามาเป็นนายกฯจริง ประเทศคงแตกแยกกันครั้งใหญ่
ทางที่สอง คือขั้วที่มีนายกฯที่มาจากคณะรัฐประหาร ถูกกล่าวหาว่าสืบทอดอำนาจ แต่เป็นคนที่ไม่เคยมีข้อสงสัยเรื่องความจงรักภักดี ไม่เคยถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น มีแต่คนรอบข้างที่ถูกสงสัยจนเข้ากระบวนการตรวจสอบมาแล้ว ช่วงยึดอำนาจ เข้มงวดเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ก็ทำให้บ้านเมืองสงบไประยะหนึ่ง มีจุดอ่อนเรื่องการบริหารเศรษฐกิจ จนคนบ่น แต่เด่นเรื่องเงินช่วยเหลือตรงเข้ามือผู้ยากไร้ พูดจาโผงผาง ไม่ค่อยไว้หน้าใคร มีคนสนิทมาทำพรรคการเมืองเป็นที่รู้กัน ช่วงเลือกตั้งที่มีข่าวสะเทือนใจคนทั้งประเทศ ออกมาแสดงตนปกป้องประเทศชัดเจน จนคนยอมรับ ดูแนวคิดไม่ค่อยเอื้อต่อการเมืองแบบเก่า จนถูกหาว่าดูถูกนักการเมือง แต่ก็ถูกใจคนอีกส่วนหนึ่ง ที่สำคัญ มุ่งเอาจริงกับคดีความทุจริตของรัฐบาลก่อนหน้า แก้กฎหมายให้พิจารณาโทษลับหลังได้ จนศาลลงโทษอีกหลายคดี จะว่าไปแล้ว ที่มาสาเหตุการยึดอำนาจ ก็เป็นเพราะมีสถานการณ์ความไม่มั่นคงอันเนื่องมาจากการออกกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดคนโกง ของขั้วการเมืองแรกนั้นแหละ
มันมีทางเลือกแค่ ๒ ทางนี้ เท่านั้น
อย่าบอกว่า มีทางที่ ๓ คือฝ่ายค้านอิสระ เพราะมันไม่มีอยู่จริงในรัฐธรรมนูญ
ทันทีที่ไม่ร่วมรัฐบาล ก็คือเป็นฝ่ายค้านที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
ผมตั้งใจอภิปรายว่า ถ้าเป็นท่าน จะเลือกฝ่ายใดเป็นรัฐบาล
ประชาธิปัตย์ เป็นแค่พรรคลำดับที่ ๔ ไม่ใช่พรรคแกนนำ เราจึงต้องตัดสินใจ ใน ๒ ทางเลือกนี้
ป.ล. และเราไม่มีสิทธิบ่นด้วยว่า อนิจจาประเทศไทย ทำไมมีแค่ ๒ ตัวเลือก เพราะมันมีแค่นี้จริงๆ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |