เสร็จสิ้นกันไปแล้วกับการเลือกและได้นายกรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปออกแบบไว้ "ทุกอย่างก็เหมือนเดิม" ว่าที่นายกฯ สมัยที่ 2 อยู่ในโหมดแฮปปี้ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายสื่อ ตีความตามที่ "บิ๊กตู่" ว่าน่าจะมีอย่างเดียวที่เหมือนเดิมก็ตรงที่นายกฯ ยังชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ที่ต่างคงบอกไม่หมด เบาะๆ เอาแค่ที่มา ถึงจะถูกตราหน้าว่าสืบทอดอำนาจ แต่ครั้งนี้ก็มาตามครรลองรัฐธรรมนูญ รัฐสภาโหวตเลือกให้มาทำหน้าที่นายกฯ ต่อ จากนายกฯ คสช.กลายเป็น "นายกฯ 500" ส่วนหนทางข้างหน้าก็รู้กันดี ยิ่งเป็นรัฐบาลปริ่มน้ำ พลาดนิดเดียวเดี้ยงสนิท กระบองกายสิทธิ์ "ม.44" ก็ไม่มีให้ใช้แล้ว ต่อไปจะสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้เหมือนเก่า ครม.ก็จะมีคนรู้ใจไม่กี่คน นอกนั้นก็เขี้ยวลากดินทั้งนั้น ป่านนี้ถึงยังปิดดีลไม่ลงซะที แบ่งเค้กพรรคร่วมว่ายากแล้ว ในพลังประชารัฐดูท่าจะลำบากยิ่งกว่า หลายก๊กหลายแก๊งวิ่งกันฝุ่นตลบ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวหัวหอกสามมิตรอย่าง "สมศักดิ์ เทพสุทิน" ออกมาเขย่า ขอเก้าอี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คราวนี้ถึงคิวอีก ส. แว่วมาว่า "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ก็เริ่มจะไม่ปลื้มกับโผ ครม. เพราะ พปชร.เที่ยวแจกกระทรวงสำคัญด้านเศรษฐกิจให้เพื่อนไปหมดแล้ว พรรคตัวเองแทบไม่เหลืออะไร เล่นเอารองนายกฯ คุมเศรษฐกิจ ที่ต้องตามบิ๊กตู่ไปสานงานสมัย 2 ต่อต้องกุมขยับ ขืนมีแค่หัวโขนแต่ไร้อำนาจ สู้ไม่รับจะดีกว่ามั้ย งานนี้เลยต้องประลองกำลังกันอีกยก ว่าที่นายกฯ สมัย 2 ต้องลงมือจัดการเองละทีนี้

                ๐ ได้ตัวนายกฯ แล้ว หันมาดูตัวผู้นำฝ่ายค้าน หนีไม่พ้นพรรคเพื่อแม้ว ที่ต้องหน้าที่นี้แบบจำยอม หรือจะเรียกว่าเป็นฝ่ายแค้นน่าจะตรงกว่า ค่อนข้างชัดว่าจะเสนอชื่อ  "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" ส.ส.เชียงใหม่ สายตรงนายใหญ่ รับบทบาทนี้ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะไม่มีภาพการทำหน้าที่ในสภาที่โดดเด่น แต่ถ้าดูตัว ส.ส.ทั้งหมดแล้ว แทบหาใครมารับหน้าที่นี้ยาก เพราะดาวสภาของเพื่อไทยที่ล้วนอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ร่วงหมด ไม่ว่าจะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, โภคิน พลกุล, ชูศักดิ์ ศิรินิล, พงศ์เทพ เทพกาญจนา, นพดล ปัทมะ ว่ากันตามจริง เพื่อไทยก็ไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว ถึงจะคาดการณ์ไว้บ้างว่าอาจไม่ได้บัญชีรายชื่อสักคน แต่แกนนำพรรคที่อยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ทั้งหลายก็ไม่ได้สนใจเข้าสภา เป้าหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลมากกว่า สุดท้ายก็ฝันสลาย โดยเฉพาะ "หญิงหน่อย" ที่เล่นการเมืองมานาน 27 ปี เคียงข้างทักษิณมา 23 ปีตั้งแต่อยู่พรรคพลังธรรมด้วยกัน ฝ่าฟันจนได้ถือธงนำเพื่อไทยได้สำเร็จ แต่แล้วก็ไม่เหลืออะไรซะอย่าง ขนาดแค่ชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในสภายังไม่ได้เลย

                ๐ ถ้าเพื่อไทยเคาะเสี่ยสมพงษ์ หลังจากนี้ก็ต้องนัดประชุมเพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และหัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องชื่อสมพงษ์ ถึงจะมีคุณสมบัติเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 "ภายหลังที่คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุด และสมาชิกมิได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร..." ตอนนี้ก็ยังมีเวลา จนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ

                ๐ ไม่ใช่พวกลิ่วล้อที่ลำบาก "นายใหญ่" ทักษิณ ชินวัตร ก็ใช่ว่าจะสุขสบาย ขนาดหนีร่อนเร่ไปต่างแดน ก็โดนสั่งจำคุกเพิ่มอีก 2 ปีในคดีโกงหวยบนดิน ถือเป็นคดีที่ 2 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินโดยพิจารณาลับหลังจำเลย บวกเพิ่มจากที่เจอ 3 ปีคดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่า วิบากกรรมยังไม่หมด ยังมีอีก 2 คดีรออยู่ คือ กรณีการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่บริษัทในเครือกฤษดามหานคร กว่า 9.9 พันล้านบาท ซึ่งโทษหนักกว่า 2 คดีนี้เสียอีก เพราะศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาจำคุกพวกที่ร่วมในคดีนี้ไปแล้วคนละ 18 ปี นอกจากนี้ยังมีกรณีการแปลงสัญญาสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต ด้วยการตรา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (พ.ศ.2527) 2546 เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2551.

ลี้คิมฮวง