6 มิ.ย.62 -  นพ.เหวง โตจิราการ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และแกนนำนปช. โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้

"รัฐบาลห้าร้อยเสียง ฟังคุ้นๆไหมครับ คล้ายๆกับภาษิตคำพังเพยของไทยที่ว่า”ไอ้โจรห้าร้อย”หรือไม่ครับ? ทำไมจึงประจวบเหมาะอะไรเช่นนี้?

DNA ของคสช.หรือรากเหง้าต้นกำพืดของคสช.ก็คือการยึดอำนาจรัฐประหาร ซึ่งก็คือกบฏตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา113 ยุบสภา ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ออกประกาศคำสั่งเผด็จการจำนวนมาก(ร่วมห้าร้อยเช่นกัน) ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้เห็นต่าง เช่นจับกุมคุมขังปรับทัศนคติส่งฟ้องศาลทหาร ไปจนทำร้ายร่างกายอย่างเหี้ยมโหด จัดทำรัฐธรรมนูญที่ทำประชามติแบบมัดมือชกแล้วอ้างอิงตลอดว่าประชาชนสนับสนุน จากนั้นก็ตั้งองค์กรที่สร้างความมั่นคงสถาพรให้แก่พวกเขามากมาย อาทิ สว.แต่งตั้ง องค์กรอิสระต่างๆ รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญด้วย

รัฐบาลห้าร้อยเสียงนี้ก็เป็นการต่อเนื่องของคสช.อย่างไม่อายฟ้าดินชัดเจน

รัฐมนตรีของคสช.สี่คนมาเป็นหัวหน้ารองหัวหน้าเลขาธิการโฆษกพรรคอย่างไม่แยแส ชื่อพรรคก็ตั้งตามนโยบายของคสช.รัฐบาลคสช.เดินสายถี่ยิบพร้อมโปรยหว่านงบประมาณลงไปนัยว่าเพื่อแก้ปัญหาประชาชนแต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมืองอย่างมโหฬารครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นวิสัยของสุจริตชนหรือมิจฉาชนครับ

องค์ประกอบของพรรคก็ได้จากการไป “ดูด” เอา โดยมีสารพัดข้อแลกเปลี่ยนที่ “ฉาวโฉ่” ต่อรองคดีบ้าง ต่อรองเงินทองบ้าง ต่อรองตำแหน่งหน้าที่บ้าง เพื่อดูดเอามิจฉาบุคคลที่มีพรรษาทางการเมืองรู้วิธีหาคะแนนจากประชาชนผู้ใสซื่อมาได้จำนวนมาก ไม่แปลกที่จะได้จำนวนร่วมร้อย

ที่สำคัญคือกฎกติกาที่เขียนเองและตีความกันเองจนทำให้ พวกหมื่น(สามหมื่นขึ้น)ก็ได้สส.แล้วทั้งที่อีกฝ่ายคะแนนต้องร่วมเจ็ดหมื่นขึ้นจึงได้บัญชีรายชื่อ และที่พิสดารที่สุดในโลกก็คือ ฝ่ายชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนถล่มทลายได้สส.1คน แต่ฝ่ายแพ้ทั้งสองพรรค กลับได้มาอีกพรรคละคนจนเป็นที่มาของคำกล่าวขานกันว่า “ต.พันเจ็ด”

นอกจากนี้การดำเนินคดีทางการเมืองกับพรรคตรงข้ามก็รวดเร็วรุนแรงเฉียบขาด แต่ในเรื่องเดียวกัน คล้ายกันเกือบทุกอย่างของพรรคฝั่งเดียวกันกลับเนิ่นช้า และถูกปัดตกไปด้วยความเชี่ยวชาญทางการตีความ

ข้างต้นเป็นองค์ประกอบชัดเจนบางด้านของ DNA รัฐบาลห้าร้อยเสียง

พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ก็ไม่ใช่ “นักขับมือใหม่”แต่ขับเคลื่อนบริหารประเทศเดียวกันนี่แหละครับ มาห้าปีแล้ว แต่ผลสัมฤทธิ์ที่เห็นชัดๆก็คือ

1.หนี้สาธารณะเพิ่มเกือบเจ็ดล้านล้าน

2.ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนเลวร้ายที่สุดของโลกผลวิจัยล่าสุดของนักวิชาการสำนักมาตรฐานของไทยยืนยันว่า ผู้ที่มีรายได้สองหมื่นบาทต่อเดือน ดำรงชีวิตอย่างแสนลำบากในไทย

3.สินค้าเกษตรแทบทุกชนิดราคาตกต่ำจนเกษตรกรต้อง “ฆ่าตัวตาย”ไปจำนวนไม่น้อย เมื่อ2-3วันก็มีชาวสวนยางแขวนคอตายที่ภาคใต้ 4.สร้างความร่ำรวยมหาศาลให้กับกลุ่มทุนขนาดยักษ์

5.ใช้ม.44 หรือมาตรการกฏหมายอื่นๆอีกหลายอย่างสร้างประโยชน์ให้กับทุนขนาดใหญ่อาทิ การยกเลิกสัญญาสัมปทานทีวีดิจิตอล รถไฟความเร็วสูง(ปัจจุบันยังไม่รู้เลยว่าไปถึงไหนแล้ว) การประมูลดิวตี้ฟรี รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินที่ให้ประโยชน์กับผู้ชนะประมูลอย่างน่าสงสัย ฯลฯ

ผู้คนก็ดี องค์กรก็ดี จะเป็นเช่นไรนั้น คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ยากเพราะจะพิจารณาได้จาก ต้นกำเนิดของเขา แก่นแท้ของเขา ประวัติความเป็นมาและพฤติกรรมของเขา

รัฐบาลห้าร้อยเสียง ที่ต่อเนื่องมากจากรัฐบาลคสช.ก็เช่นกัน ย่อมสามารถพิจารณาได้จากกำเนิดของรัฐบาลห้าร้อยเสียง

จากพฤติกรรมที่เป็นมาทั้งหมดในอดีตของรัฐบาลห้าร้อยเสียง(รัฐบาลคสช.นั่นเอง) ก็สามารถทำนายอนาคตของการบริหารประเทศของรัฐบาลห้าร้อยเสียงได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ ประชาชนยังได้ ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพสูงทั้งทางด้าน อุดมการณ์ทิศทางการเมือง และจิตวิญญาณของนักสู้ที่ไม่ทรยศประชาชนไม่มีงูเห่าในการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี

การประชุมเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีแสดงให้เห็นความสามารถสูงเด่นและเฉียบคมของฝ่ายค้านชุดปัจจุบันได้อย่างน่าชื่นชม นี่เป็นเพียงตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ในการทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารประเทศต่อไปของรัฐบาลห้าร้อยเสียง การทำงานอย่างหนักหน่วง การเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และความสามารถฝีไม้ลายมือของฝ่ายค้านย่อมทำให้ประชาชนได้เรียนรู้ ทุกซอกทุกมุมของรัฐบาลห้าร้อยเสียงได้อย่างชัดแจ้งแดงแจ๋โดยอดีตที่ผ่านมาไม่อาจจะรับรู้ได้เพราะอยู่ในห้วงที่รัฐบาลห้าร้อยเสียงฝังตัวอยู่ในเกราะกำบังที่ชื่อคสช.

และเมื่อเริ่มจากความเป็นจริงที่ รัฐบาลห้าร้อยเสียง มีสส.หนุนเพียง251(อาจจะ+1) โอกาสที่จะแพ้น๊อกเอ๊าท์ แพ้ฟาวล์ เกิดขึ้นได้เกือบทุกยก เกือบทุกวินาทีเลยครับ และเห็นจะครบยกยาก หรือแม้จะครบยกในที่สุดก็จะแพ้คะแนนอย่างเอกฉันท์จากประชาชน

เชื่อมั่นในอนาคตที่สดใสของฝ่ายประชาธิปไตยเราเถอะครับ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย