เข้าหน้าฝนแล้วแต่อากาศในบางพื้นที่ต้องเรียกว่า “ร้อนฉ่า” ไม่ต่างจากฤดูร้อนแต่ประการใด ซึ่งเรียกได้ว่า “วิปริตผิดเพี้ยน” ไม่ต่างจากแวดวง “การเมืองไทย” ในยามนี้ ซึ่งทุกสายตาต่างโฟกัสไปในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปี) เรื่องพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น “นายกรัฐมนตรี” ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ...๐

แต่ก่อนการ “โหวต” นายกฯ กลับมีเรื่องให้ “ฮอต” และกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทั้งในโลกความจริงและโลกออนไลน์อย่างมาก คือ การประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส.ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังพรรคมีการลงมติลับด้วยคะแนนเสียง 61 ต่อ 16 ว่าจะร่วมรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 4 มิ.ย. ...๐

“พี่มาร์ค” ของบรรดาติ่งทั้งหลายให้เหตุผลว่าเพื่อรักษาเกียรติภูมิของตนเอง และ เกียรติภูมิของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่มีคำขวัญว่า "สจฺ จํ เว อมตา วาจา” จึงต้องรักษาคำพูดและรับผิดชอบต่อคำพูดที่เคยกล่าวไว้ พร้อมทั้งอ้างอิง “มหาตมะ คานธี” เกี่ยวกับบาป 7 ประการ ในเรื่องการเมืองที่ปราศจากหลักการ จึงจำเป็นต้องลาออกจาก ส.ส. ...๐

แหม! ต้องเรียกว่าในช่วงนี้บุคคลระดับโลกถูกอ้างอิงเยอะเสียเหลือเกิน โดย สัปดาห์ที่แล้วก็ “จอร์จ ออร์เวลล์” นักเขียนผู้รจนา “Animal Farm” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ได้แนะนำให้อ่าน แต่ล่าสุด “อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์” ก็อ้างอิง “คานธี” ซึ่ง ทั้งสองกรณีก็ทำให้น่าคิดว่าประเทศไทยนี้ไม่เคยมีใครที่ดีพอที่จะอ้างอิงพิงหลังกันเลยหรือ จึงต้องลากต้องโยงไปยังคนต่างบ้านต่างเมืองกันทั้งนั้น ช่างน่าน้อยใจเสียจริงๆ ...๐ แต่อย่างน้อยการกล่าวอ้างต่างๆ ก็ทำให้โลกของคนไทยเปิดกว้างมากขึ้น เพราะนับแต่ “ลุงตู่” แนะนำเรื่องดังกล่าว ก็ทำให้ หนังสือและภาพยนตร์ดังกล่าวกลายเป็นท็อปลิสต์ในการตามหา ตามอ่าน และตามดู ไม่ต่างจากกรณี “พี่มาร์ค” เพราะกลายเป็นท็อปเท็นในการเสิร์ชหาเรื่องบาป 7 ประการกันเลยทีเดียว ...๐

โดยบาป 7 ประการนั้นเขียนไว้ในหนังสือ "Mohandas K. Gandhi, Autobiography : The Story of My Experiments with Truth" ซึ่ง “กรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย” ได้ถอดความไว้ในหนังสือ “ข้าพเจ้าทดลองความจริง : อัตชีวประวัติของมหาตมะ คานธี” ซึ่งประกอบด้วย 1.Politics without principles. เล่นการเมืองโดยไม่มีหลักการ 2.Pleasure without conscience. หาความสุขสำราญโดยไม่ยั้งคิด 3.Wealth without work. ร่ำรวยเป็นอกนิษฐ์โดยไม่ต้องทำงาน 4.Knowledge without character. มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดี 5.Commerce without morality. ค้าขายโดยไม่มีหลักศีลธรรม 6.Science without humanity. วิทยาศาสตร์เลิศล้ำแต่ไม่มีธรรมแห่งมนุษย์ และ 7.Worship without sacrifice. บูชาสูงสุดแต่ไม่มีความเสียสละ ...๐

ผลพวงการไขก๊อกแสดงความรับผิดชอบของ “อภิสิทธิ์” ก็ทำให้เห็น “สันดอนแลสันดาน” ของใครต่อใครได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนในพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมจะรู้สึกเสียดายกับการ “ฮาราคีรี” ตัวเองของพี่มาร์ค เพราะ “อภิสิทธิ์” นั้นคร่ำหวอดในวงการการเมืองมานาน แต่ในซีกฝ่ายตรงข้ามก็ไม่น่าเชื่ออีกเช่นกัน ทั้ง “ส.ส.หน้าใหม่” และ ส.ส.เก่าอย่าง “วัน อยู่บำรุง” และ “การุณ โหสกุล” ที่ออกมาระบุในท่วงทำนองเดียวกันว่า ถ้าแน่จริงก็ลาออกจากพรรคด้วย ...๐

แล้วที่น่าสนใจเข้าไปอีกคือ บรรดา ส.ส.สอบตก ทั้ง “วัฒนา เมืองสุข” และ “ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง” ที่ต่างโพสต์เฟซบุ๊กยิ่งกว่าคอหอยลูกกระเดือกเสียนี่กระไร ว่าการลาออกของ “อภิสิทธิ์” ไม่สามารถพ้นข้อหาตระบัดสัตย์ได้ แหม! นี่ถ้า “น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา” แกนนำคนอยากเลือกตั้ง คนเหงาของ “เสี่ยไก่” ออกมาโพสต์ในสไตล์เดียวกัน ก็คงทำให้สังคมปลาบปลื้มกันไม่หยอก แต่ที่อยากให้ทั้ง “หมวดเจี๊ยบ” และ “เสี่ยไก่” น่าจะควรไปทำคือ การไปชี้แจงกับคนอีสานและ ส.ส.อีสานในพรรคเพื่อไทยกันเองดีกว่าพรรคอับจนขนาดไม่มีตัวเลือกผู้เป็นนายกฯ แล้วเหรอจึงต้องเชิด “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มาเป็นตัวแทน แล้วที่สำคัญอย่ากระมิดกระเมี้ยนเลี่ยงบาลีเลยว่าพรรคเห็นแก่การปิดสวิตซ์การสืบทอดอำนาจ เพราะจริงๆ แล้วคนที่เคาะชื่อ “ธนาธร” นั้น เพราะเห็นแล้วว่าเป็นอนาคตใหม่ของระบอบทักษิณนั่นเอง ...๐ 

...ท.ศักดิ์