5 มิ.ย. 62 - นายนคร มาฉิม อดีตผู้สมัครส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย และ อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ถึงหัวหน้าอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ผมเคยร่วมงานกับท่านหัวหน้า และพรรคประชาธิปัตย์ยาวนานเกือบ 20 ปี แต่ได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. ตามคำสั่งของพรรคและตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เมื่อพรรคมีมติคว่ำบาตรการเลือกตั้งตั้งแต่ปลายปี2556 ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการปูทางให้ทหารยึดอำนาจสร้างความเข้มแข็งให้ระบอบเผด็จการ พร้อมกับทำลายระบอบประชาธิปไตยให้ย่อยยับเช่นที่เป็นอยู่ขณะนี้
วันนี้ท่านได้ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส. อ้างว่าเพื่อรักษาสัญญาประชาคมที่จะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ พร้อมกับขอโทษประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่หลังเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์กลับมีมติไปสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสวนทางกับจุดยืนที่ท่านในฐานะหัวหน้าพรรคได้ประกาศไว้ และเชื่อว่าคนที่เลือกลงคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส. และ พรรคของท่าน ก็คงจะลงคะแนนให้เพราะเชื่อว่าท่านและพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พลเอกประยุทธ์และระบอบเผด็จการ แต่มาวันนี้พรรคของท่านกลับไปสนับสนุนการสืบทอดอำนาจและเลือกพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ เรื่องนี้วิญญูชนผู้มีสติปัญญาจะให้คำตอบเองว่าพรรคประชาธิปัตย์ทรยศหักหลัง ตระบัดสัตย์ต่อประชาชนและระบอบประชาธิปไตยหรือไม่เป็นเรื่องของพวกท่านผมไม่เกี่ยวและไม่ต้องการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นนี้
แต่สิ่งที่ผมอยากจะกราบเรียนคือท่านไม่ได้ลาออกจากการเป็น ส.ส. เท่านั้น ซึ่งจะได้รับเสียงชื่นชม อย่างมีเกียรติ แต่ท่านได้พยายามสร้างภาพให้เป็นฮีโร่ว่าท่านต้องการประชาธิปไตยสุจริต ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ เช่นที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณ เมื่อปี 2548 เสียงชื่นชมและเสียงปรบมือจึงต้องสะดุดหยุดลงทันที จึงจำเป็นต้องเขียนหนังสือถึงท่านและพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเขียนถึง เพราะอาจจะถูกประนาม ถูกว่าร้ายด้วยคำหยาบคายสารพัดจากมวลชนที่สนับสนุนท่านและพรรคของท่านได้ แต่เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ชัดเจนไม่ถูกบิดเบือนความจริงไปจึงขอกราบเรียนความจริงว่า
1.ประชาธิปไตยสุจริตเราเห็นตรงกันว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ใช่ประชาธิปไตยที่สุจริตเพราะมีการใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบคู่แข่งอย่างหนักหน่วงรุนแรง มีการซื้อเสียงมากที่สุด มีการคดโกงทุจริตการเลือกตั้งครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย 2.การสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร เผด็จการ คสช. ผมเห็นด้วยกับท่าน ว่ามีอยู่จริง ไม่ใช่แค่วาทกรรม โดยมีพรรคของท่านร่วมสนับสนุนด้วย
3.ที่ท่านบอกว่า ท่านสู้กับระบอบทักษิณ นั้น ผมไม่เห็นด้วย เพราะระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงวาทกรรมที่ระบอบเผด็จการสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะใครก็ตาม หากได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน แล้วมีความพร้อม 3 อย่างคือ มีเงิน มีมวลชน และ มีอำนาจรัฐ คนนั้นถือว่าขึ้นมาท้าทายอำนาจของผู้นำระบอบเผด็จการจะถูกทำลายทิ้งไป เพื่อไม่ให้ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยลุกขึ้นนำพามวลชนฝ่ายประชาธิปไตยขึ้นมาท้าทายระบอบเผด็จการอีก
ขอกราบเรียนท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า ความจริงระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง แต่ระบอบเผด็จการ กับ ระบอบประชาธิปไตยมีอยู่จริง การต่อสู้กันของ 2 ระบอบมีอยู่จริงและดำรงอยู่ทุกวันนี้ ท่านไม่ควรจะสร้างความสับสน ความเข้าใจผิด และไม่ควรจะสร้างวาทกรรม ระบอบทักษิณอีกต่อไปท่านจะได้รับเกียรติและความชื่นชมอย่างจริงใจ อย่างมีเกียรติภูมิ และเป็นผู้ที่ควรยกย่องของคนไทยและอนุชนสืบไป หยุดใช้วาทกรรมระบอบทักษิณ หยุดใช้วาทกรรมเผด็จการรัฐสภา หยุดเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายเผด็จการมาทำลายฝ่ายประชาธิปไตยเสียเถอะครับ แล้วมาร่วมอุดมการณ์เดียวกันเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบจนกว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะ เพื่อสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาคและภราดรภาพของประชาชน"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |