บริดจสโตนคอร์ปอเรชัน (บริดจสโตน) ประกาศแผนงานสำหรับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตปี 2019 โดย บริดจสโตน เป็นผู้สนับสนุนการแข่งรถหลากหลายประเภท ตั้งแต่รายการแข่งขันต่อเนื่องมืออาชีพระดับสูงไปจนถึงการแข่งขันมือสมัครเล่นทั้งในและต่างประเทศ โดยจัดหายางรถรุ่นบริดจสโตนโพเทนซา (POTENZA) ให้กับการแข่งขันรถยนต์ และยางรถรุ่นบริดจสโตนแบทแทล็กซ์ (BATTLAX) ให้กับการแข่งขันรถจักรยานยนต์ สำหรับแผนงานปี2019 มุ่งเป้าไปที่การกระตุ้นความสำเร็จให้มากขึ้นไปอีกจากปี 2018 ที่นับเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีของทีมแข่งรถที่ใช้ยาง บริดจสโตนที่สามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ SUPERGT ได้ทั้งในรุ่น GT500 และ GT300 ไม่เท่านั้นยังนับเป็นปีที่สองที่บริดจสโตนได้สนับสนุนการแข่งขันในฐานะผู้จัดหายางรถให้กับทีมที่ชนะเลิศในการแข่งขันเอ็นดูรานซ์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ ปี 2018 (EWC) อีกด้วยซึ่งเป็นรายการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบประเภทเอ็นดูรานซ์ที่เร้าใจที่สุดของโลก ซึ่งจัดโดยสหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ (FIM)

ในปี 2019 บริดจสโตนเป็นผู้จัดหายางรถให้กับการแข่งขันชิงแชมป์รถยนต์ทางเรียบทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น และการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบประเภทเอ็นดูรานซ์ซูซกะ 8 ชั่วโมง และการแข่งขันเอ็นทีทีอินดีคาร์ซีรีส์ (NTTIndyCar®) ที่อเมริกาเหนือ ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวสู่ปีที่ 20 ของบริดจสโตนในฐานะผู้จัดหายางรถให้กับการแข่งขันติดต่อกันทุกฤดูกาลแต่เพียงผู้เดียวภายใต้ แบรนด์ Firestone (ไฟร์สโตน) และได้ลงนามขยายความร่วมมือไปจนถึงปี 2025 อีกด้วยจากเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านยางรถของบริดจสโตนที่รุดหน้าอย่างต่อเนื่องผ่านการออกแบบ และการพัฒนายางรถสมรรถนะเหนือระดับเพื่อสำหรับรายการแข่งขันระดับสูงเหล่านี้ แผนงานปีนี้ยังรวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันโตโยต้า กาซู เรซซิง 86/BRZ, โรดสเตอร์ ปาร์ตี เรซ III, ออลเจแปน จิมคานาแชมป์เปียนชิป และการแข่งขันโกคาร์ท ซึ่งจัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด นอกจากนี้บริดจสโตนยังเป็นผู้จัดหายางรถให้กับทีมที่เข้าแข่งขันในการแข่งขันประเภทเอ็นดูรานซ์ นูร์เบอร์กริง 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการแข่งรถจัดขึ้นในประเทศเยอรมนีที่รวม ผู้เข้าชมไว้มากกว่า 200,000 คน บริดจสโตนมุ่งหวังจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจโดยการส่งมอบยางรถให้กับรายการแข่งรถเหล่านี้ ในปี 2019 บริดจสโตนจะยังคงทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์และฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อสนับสนุนกีฬาแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตให้เกิดการพัฒนา และจะเป็นส่วนสำคัญที่ได้ส่งเสริมสังคมให้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ได้อย่างเร้าใจแต่ปลอดภัยยิ่งขึ้น