อินไซต์การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ 5 ชั่วโมง ก่อนเคาะมติร่วมรัฐบาล


เพิ่มเพื่อน    

5 มิ.ย.62-ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณาจุดยืนทางการเมือง วานนี้เริ่มขึ้นในเวลา 13 นาฬิกา โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้ชี้แจงกับที่ประชุมถึงโควต้ารัฐมนตรีทีได้ว่า มี 1 รองนายก 3 ว่าการ ประกอบด้วย กระทรวงเกษตร พาณิชย์ และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ 4 รัฐมนตรีช่วย คือ รมช.มหาดไทย รมช.คมนาคม รมช.ศึกษาธิการ และรมช.สาธารณสุข จากนั้นได้มีการเชิญสส.เข้าประชุมร่วมกับกรรมการบริหารพรรค เพื่อลงมติตามข้อบังคับพรรคที่ 96 ว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ โดยใช้เวลาอภิปรายนานเกือบ 5 ชั่วโมง 

เริ่มจากนายเฉลิมชัย สรุปสถานการณ์ให้ที่ประชุมฟัง ก่อนที่นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค จะกล่าวเปิดเวทีรับฟังความเห็นสส. โดยระบุว่า พรรคพลังประชารัฐตอบรับว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภา เพื่อเปิดช่องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะมีการกำหนดระยะเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ด้วย ส่วนนโยบายพรรคก็รับปากแล้วว่าจะบรรจุนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติของพรรคในนโยบายรัฐบาลด้วย โดเฉพาะการประกันรายได้สินค้าเกษตร แต่ทั้งนี้ข้อตกลงทั้งหมดไม่รวมถึงกรณีหากมีการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาล ที่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมถอนตัวทันทีหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความกังวลว่าถ้ามีการทุจริตในรัฐบาลประชาธิปัตย์จะทันเกมหรือไม่ และชี้ให้เห็นว่าพรรคควรยึดอุดมการณ์ต่อสู้ทั้งการทุจริตและการสืบทดอำนาจ ให้พรรคมีที่ยืนของตัวเอง ไม่ใช่ไปยืนฝ่ายพลังประชารัฐหรือฝ่ายของทักษิณคือเพื่อไทย ซึ่งจะมีผลต่อการเติบโตของพรรคในวันหน้า พร้อมเสนอให้พรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ ไม่ร่วมรัฐบาล ยึดมั่นอุดมการณ์พรรคและรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เป็นการยืนบนหลักการซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคในการทำหน้าที่ตรวจสอบ

ขณะที่นายเทอดพงษ์ ชัยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แสดงความเห็นแย้งกับนายอภิสิทธิ์ โดยระบุว่า อารมณ์สังคมต้องการให้เลือกข้าง ไม่ซ้ายก็ขวา และสาเหตุที่พรรคแพ้ก็เป็นเพราะคำประกาศของนายอภิสิทธิ์ที่ไม่ประกาศไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงเหตุการณ์ที่ฮ่องกง ประชาธิปัตย์วันนี้จึงต้องเลือกข้างยืนตรงกลางไม่ได้แล้ว เพราะไม่ว่าจะเลือกฝั่งไหนก็โดนตำหนิ 

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ได้ลุกขึ้นปกป้องนายอภิสิทธิ์ โดยขอให้พรรครักษาเกียรติภูมิของอดีตหัวหน้าพรรค ที่เปรียบเสมือนแม่ทัพ แม้ทำศึกพ่ายแพ้แต่ก็ต้องรักษาแม่ทัพไว้ เพราะคำพูดของแม่ทัพก็เปรียบเหมือนคำพูดของพรรค หากไม่มีการปกป้องผู้นำเป็นเช่นนี้ใครจะเชื่อคำพูดของหัวหน้าพรรค ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ลุกขึ้นอภิปรายว่าขอให้สส.ลงมติโดยอิสระ ไม่ต้องคำนึงถึงตน เพราะตนก็ต้องรักษษเกียรติภูมิของตัวเองอยู่แล้ว

จากนั้นนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เสนอความเห็นเป็นขั้วที่สาม ไม่ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ เพราะคู่แข่งที่แท้จริงของประชาธิปัตย์คือพรรคพลังประชารัฐ ที่แกนนำใช้ทุกวิถีทางเช่นเดียวกับที่ระบอบทักษิณเคยใช้ แต่รุนแรงมากกว่า ทั้งอำนาจและอำนาจเงิน รวมถึงการแทรกแซงข้าราชการ องค์กรอิสระ เพื่อกุมอำนาจรัฐไว้ หากประชาธิปัตย์เลือกยืนข้างพลังประชารัฐ เท่ากับเป็นการติดปีกให้กับพรรคพลังประชารัฐ และมีนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนให้พรรคฟรีโหวตในการเลือกนายกรัฐมนตรี

ต่อมาเป็นการอภิปรายอย่างกว้างขวางโดยส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนให้ร่วมรัฐบาล อ้างถึงความต้องการของประชาชนที่อยากเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคให้ร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน 

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่ม กปปส.แทบจะไม่แสดงความเห็น มีเพียงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังและนางสาวกุลธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี ที่ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนการร่วมรัฐบาล และเสนอให้พรรคฟรีโหวตในการเลือกนายกรัฐมนตรี 

แต่นายจุรินทร์ ทักท้วงว่า การลงมติในครั้งนี้เป็นการลงมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ถ้าร่วม รัฐบาลต้องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย และขอให้ทุกคนยึดมติพรรคและเสนอให้ที่ประชุมลงมติในทางลับด้วยการเขียนว่าจะร่วมหรือไม่ร่วม หรืองดออกเสียง 

หลังมีการอภิปรายกันเกือบ 5 ชั่วโมง ผลปรากฏว่า ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและสส.ซมีองค์ประชุมใน 81 คน แต่ในวันนี้มี 80 คน เนื่องจากนายชวน หลีกภัย ซึ่งไปดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยผลลงคะแนนปรากฏว่า มีผู้ต้องการร่วมรัฐบาล 61 ต่อ 16 งดออกเสียง 2 บัตรเสีย 1 

จากนั้นมีการประชุมสส.เพื่อทำความเข้าใจและนัดหมายในการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีขึ้นตั้งแต่เวลา 11.00 น.วันนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"