4 มิ.ย.62-   นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า บรรยากาศในวันนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์พฤษภา 2535 ที่มีคนเขียนรัฐธรรมนูญคนเดียวกัน ทั้งฉบับปี 2534 และ 2560 คือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ผู้มีฉายาผู้ทำหมันประชาธิปไตย

โดยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เท่านั้น ไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น เผด็จการยุคนี้ได้ศึกษาบทเรียนจากรุ่นพี่ทุกรูปแบบ กล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ ใครที่หวังให้ ส.ว. เสียงแตกไม่มีทาง เขาได้วางแบบแผนไว้แล้ว

“วันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) หลายคนหวังเพียงนักการเมืองจำคำพูดของตัวเองได้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรี เสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร และเพียงแค่แต่ละพรรครักษาจุดยืนตัวเอง พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯได้ แต่อยู่ไม่ได้”

นายจตุพร ไม่เชื่อแนวทางที่คนกล่าวอ้างแนวทางพระพุทธเจ้าบอก นั่นคือ แนวทางเทวทัต เมื่อถูกอภิปรายแล้วเลือกกลับมาได้อีก คิดไปได้อย่างไร เสียงปริ่มน้ำเช่นนี้อย่างไรก็อยู่ยาก แม้พรุ่งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะหลบเลี่ยงไม่เข้าสภาฯ แต่วันแถลงนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไป

“ที่ผ่านมา 5 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยฟังใคร มีแต่พูดให้ใครฟัง แต่สภาฯวันที่ไม่มีมาตรา 44 พล.อ.ประยุทธ์ จะเท่ากับ ส.ส.ทุกคน ไม่มีอะไรแตกต่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะทนด้วยความยากลำบาก ถูกพรรคการเมืองแวดล้อมทั้งหมด บริหารความขัดแย้งยากมาก จะไม่มีความเบ็ดเสร็จอีกต่อไป 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบ แต่ต่อไปนี้จะตรวจสอบได้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องถูกตรวจสอบอย่างย่อยยับที่สุดในสภา”

นายจตุพร กล่าวว่า รัฐธรรมนูญนี้เขียนให้แก้ไม่ได้ และออกแบบเพื่อส่งไม้กันยึดอำนาจครั้งต่อไป ตนหวังว่า จะสามารถจบปัญหากันได้ที่สภา อย่าให้ถึงมือประชาชนเลย 27 ปีที่แล้วพลังประชาชนวันนั้นทุกคนลืมตาย ตนไม่ต้องการให้ประเทศนี้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ เพียงแค่พรรคการเมือง 2 พรรคจำคำพูดของตัวเองได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จบแล้ว อย่าไปแสวงหาลาภที่ไม่ควรได้

“พรรคการเมืองเหล่านั้น ต้องถามตัวเองว่าได้คะแนนเสียงมาเพราะอะไร ถ้าคิดถึงประวัติศาสตร์ทางการเมือง นักการเมืองสามารถต่อต้านการสืบทอดอำนาจได้ ถ้าไม่ทรยศประชาชน ไม่ตระบัดสัตย์ที่ให้ไว้กับประชาชน”