"จ่านิว" ประกาศจองเวรแก๊งรุมตื้บ บี้ ตร.ตั้งข้อหาพยายามฆ่า "จตุพร" รุดเยี่ยมพร้อมกระทุ้ง "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" ล่าตัวคนร้ายดำเนินคดี หวั่นจุดชนวนขัดแย้งรอบใหม่ "ธนาธร" ซัดความป่าเถื่อนอำมหิตระบอบรัฐประหาร "เพนกวิน" ผวาคิวต่อไป เผยคลิปโดนขู่ "เอกชัย" ร้องขอบอดี้การ์ดคุ้มครอง

    จากกรณีที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อายุ 27 ปี แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล ซึ่งเคลื่อนไหวล่ารายชื่อเรียกร้องให้ ส.ว.งดออกเสียงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย. ถูกคนร้าย 4-5 คนรุมทำร้ายที่ป้ายรถเมล์ซอยรัชดาภิเษกซอย 7 เขตดินแดง กรุงเทพฯ ช่วงค่ำวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
    เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน นายสิรวิชญ์ซึ่งอยู่ในสภาพมีรอยฟกช้ำตามใบหน้า ใบหูขวา และตามร่างกายหลายแห่ง กล่าวระหว่างเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมิชชั่นว่า จากการตรวจร่างกายแพทย์แจ้งให้ทราบว่าอยู่ในช่วงดูอาการ 12 ชั่วโมง หากไม่มีอะไรผิดปรกติในวันที่ 4 มิ.ย.ก็สามารถเดินทางกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ส่วนการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ตนยังคงอุดมการณ์เดิมทุกอย่าง ซึ่งที่ถามว่าเกิดเหตุแบบนี้ตนกลัวหรือไม่ ยอมรับว่ามีความกลัวบ้าง แต่ต่อไปต้องระวังตัวในการเคลื่อนไหว 
    "ตอนเกิดเหตุคนร้ายมีกันประมาณ 5-6 คน แต่งกายรัดกุมมิดชิด มีรถเป็นยานพาหนะ และใช้อาวุธคล้ายไม้พลองครบมือทุกคน เข้ามารุมตีโดยเน้นที่ใบหน้า ศีรษะ และบริเวณทัดดอกไม้ โดยไม่พูดจาอะไรเลย ผมคิดว่าการกระทำแบบนี้เหมือนจะพยายามฆ่ากัน ไม่รู้จะอาฆาตพยาบาทอะไรผมนักหนา  จึงอยากบอกกับผู้ก่อเหตุว่าจะไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน และฝากบอกตำรวจด้วยว่าขอให้ทำคดีให้เร็วที่สุด ยืนยันว่าจะเอาเรื่องผู้กระทำถึงที่สุดในข้อหาพยายามฆ่า เพราะมีการเล่นงานแต่จุดสำคัญ ส่วนรายละเอียดอาจจะมีการแถลงข่าวพรุ่งนี้ ส่วนจะเป็นที่ไหนค่อยว่ากันอีกครั้ง" จ่านิวระบุ
    ต่อมานายสิรวิชญ์ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอาการหลังถูกลอบทำร้ายด้วย
    ด้าน พ.ต.ท.พงศธร วงศ์ธรรมนันท์ สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า  ขณะนี้ชุดสืบสวน สน.ห้วยขวางอยู่ระหว่างสืบสวนหาข่าว รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง ตอนนี้ไม่ขอเปิดเผยว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นใดบ้าง ขอเวลารวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาก่อน หากเปิดเผยออกไปเกรงว่าจะเสียรูปคดี อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะเรียกนายสิรวิชญ์มาให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ให้ข้อมูลตำรวจเบื้องต้นเท่านั้น 
    เมื่อถามว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุจะเป็นกลุ่มเดียวหรือเชื่อมโยงกับการทำร้ายนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมืองก่อนหน้านี้หรือไม่ พ.ต.ท.พงศธรกล่าวว่าต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ยังไม่สามารถสรุปได้ เรื่องนี้ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รักษาราชการแทน ผกก.สน.ห้วยขวาง ให้ความสำคัญ เพราะบุคคลที่ถูกทำร้ายเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว
    ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสิรวิชญ์ที่โรงพยาบาลมิชชั่น พร้อมมอบพระเครื่องไว้ห้อยคอเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย  จากนั้นได้กล่าวเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งขอให้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดจะเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งและรุนแรงครั้งใหม่ 
    "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คล้ายกับการทำร้ายนายเอกชัย ไม่รู้จะเกิดขึ้นอะไรกับนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ  อีก เรื่องนี้มันเกินไปและจะนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงครั้งใหม่ วันนี้เราอยู่ในสังคมมนุษย์ ไม่ใช่อยู่ในสังคม animal farm ไม่ใช่ใครเห็นต่างจะต้องฆ่ากัน" นายจตุพรกล่าว
    นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล กล่าวภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมนายสิรวิชญ์ว่า  การกระทำดังกล่าวเป็นการก่อเหตุเพื่อให้จ่านิวหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับเขียวอันธพาล เขียวรับจ้าง เขียวสั่งการ จึงเรียกร้องให้กลุ่มเขียวทั้งหมดหยุดการกระทำเพราะจะทำให้เกิดเรื่องบานปลาย และเรียกร้องให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งตำรวจทุกสถานีเพิ่มความเข้มงวดดูแลความปลอดภัย และเร่งจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ 
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทวีตผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า นายเอกชัยโดนทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ล่าสุดจ่านิวเป็นเหยื่อรายใหม่ ความผิดเดียวของพวกเขาคือเรียกร้องถึงสังคมที่เป็นธรรม แม้ไม่มีต้นทุนทางสังคมไว้ปกป้องตัวเอง อย่ารอให้ถึงคิวลูกคุณถึงเห็นว่านี่คือความอยุติธรรม  พอกันทีกับความป่าเถื่อนอำมหิตของระบอบรัฐประหาร
    นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขอประณามการใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง เพื่อหวังจะสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ไม่ให้คนที่มีความคิดลักษณะเดียวกันออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในหลายประเทศการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง มักเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไม่ได้ถูกปกครองด้วยรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการคุกคาม ข่มขู่ ใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางการเมืองในประเทศไทย อาทิ นายเอกชัยถูกทำร้ายถึง 9 ครั้ง นายฟอร์ด เส้นทางสีแดง ก็ถูกทำร้ายเช่นกัน เหตุใดการกระทำลักษณะจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งได้โดยที่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ซ้ำร้ายผู้ที่ถูกคุกคามทำร้ายเพราะความเห็นต่างทางการเมืองกลับโดนคดีซ้ำอีก เพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขาแสดงออกทางการเมือง
    นายเอกชัย หงส์กังวาน แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ปีที่ผ่านมาถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง แต่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งผลให้คนร้ายเหล่านี้ย่ามใจมากขึ้น  ปีนี้การทำร้ายร่างกายขยายตัวเพิ่มขึ้น นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กลายเป็นเหยื่อแบบเดียวกับตน ซึ่งจุดอ่อนของนักเคลื่อนไหวอิสระคือไร้ความคุ้มครอง ดังนั้นการคุ้มครองการเดินทางเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเคลื่อนไหว รถยนต์ที่ปลอดภัยรับ-ส่ง บอดี้การ์ดคุ้มครองระหว่างร่วมกิจกรรม แต่ขอร้องประเภทให้กำลังใจ สู้ๆ นะ หรืออย่าไปไหนคนเดียว พอทีเถอะ เป็นคำแนะนำที่งี่เง่า
    นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความและคลิปการสนทนาทางโทรศัพท์กับชายนิรนามว่า หลายวันก่อนกำลังจะเข้านอนมีคนโทรศัพท์มาหาและพยายามถามว่าบ้านตนอยู่ที่ไหน จะไปชุมนุมที่ไหนเมื่อไหร่ จะได้ "ต้อนรับ" ซึ่งตนได้อัดคลิปไว้ ยังไม่ได้เผยแพร่ แต่สถานการณ์แบบนี้ที่เริ่มมีคนคิดต่างถูกทำร้าย วันก่อนมีผู้ใหญ่เตือนมาว่ามีคนอยากทำร้ายจ่านิวกับผม นี่จ่านิวก็โดนทำร้ายไปหมาดๆ ก็คงต้องเผยแพร่คลิปนี้ไว้เป็นหลักฐานว่าภัยคุกคามกำลังคืบคลานเข้ามา ส่วนคลิปเสียงเต็มจะเผยแพร่ภายหลัง
    นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการรุมทำร้ายนายสิรวิชญ์ ในระหว่างที่เขาออกดำเนินกิจกรรมรณรงค์และแสดงความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยให้ ส.ว.เลือก พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป สังคมไทยจะไม่เปิดพื้นที่ให้กับคนที่มีความเห็นแตกต่างมีที่ยืนเลยหรือ ประเทศนี้อยู่ยากจริงๆ.