3 มิ.ย.62-นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงท่าทีของปชป.จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)หรือไม่ว่า จากการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านขณะที่ลงพื้นที่ฟังดูแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกขอให้ร่วมรัฐบาลโดยอ้างเหตุผลว่าพรรคมีนโยบายชัดเจน คือ แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ดังนั้น การเข้าร่วมรัฐบาลจะสามารถนำนโยบายพรรคไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ จึงอยากให้พรรคเป็นรัฐบาล เพื่อนำนโยบายดังกล่าวแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ค่าครองชีพ ให้ประชาชนที่กำลังประสบปัญหาในขณะนี้

นายเทพไท กล่าวว่า กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มไม่อยากให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาล โดยอ้างเหตุผลว่าไม่อยากให้พรรคเป็นนั่งร้านให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์สืบทอดอำนาจ สำคัญที่สุด คือ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ผลงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจสาหัสมาแล้วและยังเป็นอยู่ ดังนั้นการจะให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีก 4 ปี ไม่มีหลักประกันใดว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่กำลังจะตั้งจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชนได้อย่างไร

“ประชาชนบอกผมว่า 5 ปีที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาให้คนจน ให้บัตรคนจน 14.3 ล้านใบ ถ้าอยู่ต่ออีก 4 ปี คงต้องแจกบัตรขอทานให้ประชาชน นี่คือมุมมองของประชาชนที่สะท้อนให้เห็นประชาธิปัตย์อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ร่วมรัฐบาลก็โดนต่อว่า ไม่ร่วมรัฐบาลก็โดนวิจารณ์หนัก แต่ทางออกของผมวันนี้เห็นว่าทางออกที่ดีที่สุด เมื่อขั้วที่หนึ่งและขั้วที่สองจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ผมอยากให้ผู้บริหารพรรคปัจจุบันพิจารณาเรื่องขั้วที่สาม และสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรค การออกแนวขั้วที่สามจะสามารถแก้วิกฤตทางการเมืองได้ เพราะการเมืองทั้งสองขั้วไม่มีความชัดเจน ประชาชนจึงเรียกร้องขั้วที่สามซึ่งตรงกับแนวคิดของผมที่เห็นเหมือนกับคณะกรรมการวีรชนพฤกษา 35 ที่อยากได้รัฐบาลที่มีพรรคการเมืองแนวกลางๆแบบขั่วที่สาม จึงขอให้สังคมพิจารณาแนวคิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ รัฐบาลคนกลาง หรือรัฐบาลที่ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ โดยมีฝ่ายค้านเป็นพรรคเพื่อไทย นี่อาจเป็นทางออกของบ้านเมือง”