ขาลง!ปชช.เบื่อปชป.ยึกยักเก่งแต่พูด


เพิ่มเพื่อน    


    ดึงเช็ง-ยื้อตั้งรัฐบาลทำคะแนนพรรคสีฟ้าทรุด! นิด้าโพลเผยประชาชนส่วนใหญ่มองพรรคมีความแตกแยก ทำให้ตัดสินใจการเมืองไม่ได้-เดินเกมทางการเมืองต่อรองเพื่อหวังเก้าอี้ รมต. เผยมอง ปชป.แพ้เลือกตั้งเพราะคนเบื่อพรรคและดีแต่พูด ทำงานไม่เป็น ถูก อนค.-พปชร.แย่งคะแนน 
    ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังจับตามองท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อการตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2562 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “บทเรียนและบทบาทพรรคประชาธิปัตย์” ซึ่งสำรวจประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 1,261 หน่วยตัวอย่าง
    โดยจากการสำรวจ เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แพ้การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา (24 มีนาคม 2562) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 32.83% ระบุว่าประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบ วิธีการดำเนินงานทางการเมืองของพรรค ปชป. 
    รองลงมา 18% ระบุว่าพรรคอนาคตใหม่แย่งฐานคะแนนเสียงไป, 17.05% ระบุว่านักการเมืองส่วนใหญ่ในพรรค ปชป.พูดเก่งอย่างเดียว แต่ปฏิบัติไม่เป็น, 15.31% ระบุว่าพรรคพลังประชารัฐแย่งฐานคะแนนเสียงไป, 13.4% ระบุว่าประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ปชป., 12.85% ระบุว่า ประชาชนเบื่อ/ไม่ชอบวิธีการดำเนินงานทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, 11.66% ระบุว่า กรรมการบริหารพรรค ปชป.กำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียงที่ผิดพลาด, 11.58% ระบุว่านายอภิสิทธิ์ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ,  2.85% ระบุว่าประชาชนเชื่อว่าพรรค ปชป.ไม่สามารถเอาชนะพรรคเพื่อไทยได้ จึงตัดสินใจสนับสนุนพรรคอื่นแทน, 2.46% ระบุว่าพรรค ปชป.ถูกโกงการเลือกตั้ง และ 6.98% ระบุอื่นๆ         
    ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความรู้สึกต่อบทบาทของพรรค ปชป.ในขณะนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 31.17% ระบุว่าพรรคมีความแตกแยกมากเกินกว่าที่จะตัดสินใจทางการเมืองได้อย่างรวดเร็ว, 21.97% ระบุว่าพรรคเดินเกมทางการเมืองต่อรองเพื่อตำแหน่งรัฐมนตรีที่ต้องการ, 17.61% ระบุว่าพรรคแค่ชอบอ้างอุดมการณ์ของพรรค, 14.83% ระบุว่าพรรคยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค, 13.48% ระบุว่าการต่อรองทางการเมืองเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมือง, 7.53% ระบุว่าพรรคไม่มีบทบาททางการเมืองที่ชัดเจน, 5.08% ระบุว่าพรรคเดินเกมทางการเมืองต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน, 4.76% ระบุว่าพรรคไม่มีเจ้าของที่ครอบงำพรรคจึงต้องใช้เวลานานในการตัดสินใจทางการเมือง และ 1.43% ระบุว่าพรรคมีความเชี่ยวชาญเกมการเมืองในสภาเป็นอย่างมาก 
    ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพลดังกล่าวว่า 
    พรรคประชาธิปัตย์พร้อมรับฟังความเห็นของนิด้าโพล  ซึ่งผลโพลที่ระบุว่ามีร้อยละ 32.83 ที่บอกว่าไม่ชอบวิธีการดำเนินงานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ประเด็นนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่มีความเห็นต่างในทางการเมือง และเชื่อว่าอีกร้อยละ 67.17 มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ที่มีประชาชนชื่นชอบวิธีการดำเนินการทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความละเอียดรอบคอบในการคิด ยึดหลักการกฎหมายของบ้านเมือง คิดนโยบายที่มุ่งหวังให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว ไม่คิดอะไรแบบฉาบฉวย มีนโยบายที่คิดอย่างเป็นระบบ มีประชาชนจำนวนมากที่คิดเสมอว่านโยบายหลายเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาคิดเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งๆ ที่หลายนโยบายประชาชนที่ได้รับประโยชน์ไม่สามารถลงคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์ได้เลย เช่น โครงการนมโรงเรียน โครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และอีกหลายโครงการที่ส่งผลให้เกิดความยั่งยืนมาจนถึงขณะนี้ ส่วนกรณีผลงานของพรรคความจริงแล้วพรรคดำเนินการทางการเมือง 73 ปี ผลงานที่ผ่านมาถือว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวในประเทศไทยที่มีผลงานเป็นจำนวนมากและชัดเจนที่สุด ต่อจากนี้ก็จะมีการสื่อสารบอกกล่าวให้เพิ่มการรับรู้มากขึ้น 
    “ขอเรียกร้องไปยังนิด้าโพล ว่ามีประเด็นที่น่าสนใจของพรรคการเมืองหลายพรรคที่ควรทำการศึกษา ว่าจุดยืนทางการเมืองที่คิดถึงประโยชน์ของพวกพ้อง คิดนโยบายมาเพื่อทุจริต พรรคการเมืองที่เลือกปฏิบัติกับประชาชน ใช้เสียงข้างมากในทางที่ผิด ทำลายระบบตุลาการ จุดยืนของพรรคการเมืองที่ซื้อตัวนักการเมืองมาเพื่อให้มาอยู่พรรคของตนเพื่อให้มีอำนาจ คิดว่าหัวข้อต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ประชาชนได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง และจะเห็นชัดขึ้นถึงคำว่าสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง” นายราเมศกล่าว
    ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค  กล่าวถึงเรื่องผลนิด้าโพลว่า ความเห็นของประชาชนจะบวกหรือลบเป็นเสมือนกระจกเงาที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาพรรค และยืนยันว่าประชาธิปัตย์น้อมรับความเห็นของประชาชนทุกประเด็นเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้เรียกประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคในวันที่
    3 มิ.ย. เวลา 10.30 น. เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ใหม่ของพรรค โดยจะนำผลสำรวจความเห็นของประชาชนประกอบการพิจารณาด้วย โดยตนเองจะได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคต่อที่ประชุม ซึ่งจะประกอบไปด้วยโครงสร้างใหม่และแผนปฏิบัติการ เชื่อมั่นว่าประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นทางเลือกหลักของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง
    วันเดียวกันนี้ นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Arnond Sakworawich ว่า "ขอโทษนะครับ ผอ.นิด้าโพลคนปัจจุบัน ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ บิดาก็เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ น้องชายก็ลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผมขอย้ำว่า ไม่มีใครสั่ง อ.สุวิชาได้ ทำทุกอย่างตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว ที่ผลนิด้าโพลออกมาว่าประชาชนเบื่อพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเล่นแต่การเมือง ทะเลาะกันไม่เลิก ไม่สนใจประเทศชาตินั้น
    พรรคประชาธิปัตย์ควรจะรับฟัง เพราะ อ.สุวิชาท่านคือเลือดเนื้อเชื้อไขของประชาธิปัตย์มาแต่ก่อนด้วยซ้ำ และที่ทำโพลก็ทำตามที่ประชาชนรู้สึกนึกคิดและแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว นี่คือปรโตโฆสะ หรือเสียงจากภายนอกในพึงรับฟัง โดยคิดใคร่ครวญแยบคายในในด้วยโยนิโสมนสิการโยนิ = โยนีหรืออวัยวะเพศหญิง อันแปลว่าจุดกำเนิดหรือต้นเหตุมนัส = ใจสองคำนี้รวมกัน แปลว่าการคิดแยบคายในใจจนถึงโยนี อันแปลว่าคิดให้ลึกซึ้งถึงต้นเหตุที่แท้จริง".
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"