อิหร่านเตือน เรือรบสหรัฐในอ่าวอยู่ภายในพิสัยมิสไซล์ของอิหร่าน ชี้ศึกในอ่าวเปอร์เซียปะทุเมื่อไหร่น้ำมันพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์/บาร์เรลแน่ ขณะสื่อญี่ปุ่นเผย "ชินโซ อาเบะ" เตรียมเยือนกรุงเตหะรานกลางเดือนนี้ หวังทำหน้าที่กาวใจระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน
ภาพจากกองทัพเรือสหรัฐเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 เครื่องบินเอฟ/เอ-18 เอฟ ซูเปอร์ฮอร์เน็ต บินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสอับบราฮัม ลินคอล์น ในอ่าวโอมาน / Navy Office of Information / AFP
รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2562 สำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านอ้างคำกล่าวของยะห์ยา ราฮิม ซาฟาวี ผู้ช่วยด้านการทหารของอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เตือนถึงการเผชิญหน้าระหว่างอิหร่านกับสหรัฐที่เขม็งเกลียวมากขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาว่า พวกอเมริกันตระหนักดีว่ากองกำลังทางทหารของพวกเขาในภูมิภาคนี้อยู่ภายในพิสัยของมิสไซล์อิหร่าน และกองทัพเรือของสหรัฐและกองทัพเรือต่างชาติทั้งหมดในอ่าวเปอร์เซียก็อยู่ภายในพิสัยของมิสไซล์ชนิดยิงจากพื้นสู่ทะเลของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน
"กระสุนนัดแรกที่ยิงในอ่าวเปอร์เซียจะดันให้ราคาน้ำมันพุ่งเกิน 100 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นเรื่องเกินทานทนสำหรับอเมริกา, ยุโรป และชาติพันธมิตรของสหรัฐ อย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้" ฟาร์สอ้างคำกล่าวของราฮิม ซาฟาวี
การคุมเชิงระหว่างสหรัฐและอิหร่านทวีความตึงเครียดขึ้นหลังจากปีที่แล้วรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากความตกลงปี 2558 ที่อิหร่านลงนามไว้กับกลุ่มชาติมหาอำนาจ แล้วจากนั้นสหรัฐได้รื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งและบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อบังคับให้ทุกประเทศยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน สหรัฐยังแสดงท่าทีพร้อมเผชิญหน้าทางทหารกับอิหร่านด้วยการส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีและเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายลำมาประจำการในภูมิภาคตะวันออกกลาง อ้างว่าเพื่อป้องปรามภัยคุกคามจากอิหร่าน
ภาพจากกองทัพเรือสหรัฐ วันที่ 17 พฤษภาคม 2562 เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอสอับราฮัม ลินคอล์น และเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ยูเอสเอสเคียร์ซาร์จ แล่นในทะเลอาหรับ / Navy Office of Information / AFP
อย่างไรก็ดี เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน ชี้ช่องว่า อิหร่านอาจพร้อมพูดคุยกับสหรัฐ หากสหรัฐให้ความเคารพต่ออิหร่าน แต่อิหร่านจะไม่เจรจาต่อรองเพราะโดนกดดัน
วันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างข่าวของหนังสือพิมพ์ไมนิจิ ชิมบุง ว่านายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เตรียมจะเดินทางเยือนกรุงเตหะรานของอิหร่านอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายนนี้ และตามหมายกำหนดการนั้น อาเบะจะได้พบปะกับคาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และประธานาธิบดีโรฮานี คาดว่าผู้นำญี่ปุ่นจะทำหน้าที่คนกลางสานสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐ
ไมนิจิอ้างคำกล่าวของแหล่งข่าวในรัฐบาลหลายรายที่ไม่เปิดเผยนามว่า การพบกันระหว่างอาเบะกับคาเมนีจะเป็นการพบเจรจากันครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกับผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แต่ก่อนการพบกับคาเมนีนั้น อาเบะจะได้พบกับประธานาธิบดีโรฮานีก่อน
ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเหมือนประธานาธิบดีทรัมป์จะเปิดไฟเขียวสำหรับแผนการทำหน้าที่กาวใจอาเบะ โดยกล่าวว่า เขายังคงเปิดทางสำหรับการเจรจากับอิหร่าน แม้ว่าก่อนการเดินทางมากรุงโตเกียว รัฐบาลของเขาเพิ่งประกาศส่งทหารมาเสริมกำลังในภูมิภาคตะวันออกกลางอีก 1,500 นาย เพิ่มเติมจากการส่งกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีและเครื่องบินบี-52 และทรัมป์เองยังเคยขู่ว่า หากอิหร่านโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐ จะเป็น "จุดจบอย่างเป็นทางการ" ของอิหร่าน
แต่ที่กรุงโตเกียวเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ทรัมป์เสนอหลักประกันแก่อิหร่านว่าสหรัฐไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบ สิ่งที่ตัวเขาใส่ใจมีแค่อิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้ คาเมนีปฏิเสธการเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ที่เขาระบุว่าเหมือนยาพิษ เพราะ "พวกนั้นไม่เข้าใจอะไรเลย" ที่ถอนตัวจากความตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านแลกกับการยกเลิกคว่ำบาตรของนานาชาติ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |