เห็นว่ามะรืน มะเรื่องนี้...ก็น่าจะได้เวลาเปิดสภาฯ เพื่อสรรหา นายกรัฐมนตรี กันแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรยืดเยื้อ ยืดยาด แบบประเภทเบลเยียม หรือเยอรมนี และไม่น่าจะถึงกับต้องกลับไปเลือกตั้งกันใหม่แบบอิสราเอล อาศัย ความเป็นไทยๆ แบบค่อยๆ ปะเหลาะไป ปะเหลาะมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็น่าจะ จัดสรรปันส่วนผสม ได้อย่างลงตัว ไปตามลำดับขั้น...
------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...ถึงจะจัด จะสรร จะปัน จะผสม กันไปในรูปไหนก็แล้วแต่ โดยสีสันบรรยากาศแล้ว คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า ออกจะเป็นอะไรที่น่าขนลุก ขนพอง ก่อให้เกิดอาการมวนท้อง มวนลำไส้ ชนิดน่าคลื่นเหียน วิงเวียน มิใช่น้อย สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ที่ยังไงๆ ย่อมต้องมี บิ๊กตู่ เป็นผู้นำรัฐบาลอยู่แล้วแน่ๆ ด้วยอาการคลื่นเหียน วิงเวียน ที่ได้ปรากฏ ได้แสดงให้เห็นมาตั้งแต่ต้นๆ เช่นนี้นี่เอง จึงส่งผลให้เกิด คำถาม สำหรับใครต่อใคร ถึงอายุ อานาม ของรัฐบาลชุดใหม่ ว่าสุดท้ายแล้ว...จะอยู่สั้น อยู่ยาว กันไปได้ถึงขั้นไหน...
------------------------------------------------
เพราะถ้าดูจาก ปัญหา ที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า...ส่วนใหญ่ มันออกจะหนักไปทาง หินๆ ไปด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะในเรื่องปาก-เรื่องท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ที่เคยเป็น จุดตาย ของนายกฯ บิ๊กตู่ มาก่อนนั่นแหละ เจอเข้ากับ สงครามการค้า ระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับโลก ที่ไม่เพียงแต่หาข้อสรุป ข้อยุติ แทบไม่ได้ ยังมีสิทธิ์บานปลาย ปลายบาน ไปถึงขั้นต้อง เดินทัพทางไกล เอาเลยถึงขั้นนั้น เล่นเอาแต่ละชาติ แต่ละประเทศ ออกอาการ หัวทิ่ม ไปตามๆ กัน ทั้งตัวเลขจีดีพี ตัวเลขการส่งออก การลงทุน ฯลฯ มีแต่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
--------------------------------------------------
ภายใต้ภาวะเช่นนี้นี่เอง...เมื่อต้องเจอกับบรรยากาศอันน่าคลื่นเหียน วิงเวียน มวนท้อง มวนลำไส้ ตั้งแต่แรก โอกาสที่บรรดาปวงชนชาวไทยจะเกิดอาการอ้วกแตก-อ้วกแตน รากแตก-รากแตน ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ และนั่นเอง...ที่จะกลายเป็นตัวกำหนดอนาคต กำหนดอายุ อานาม ของรัฐบาลชุดใหม่ ว่าจะสั้นในระดับหิ่งห้อย หรือจะยาวได้แบบไดโนเสาร์ และเต่าล้านปีกันแน่ แต่โดยสรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่าจะเป็นเซียนบอล เซียนม้า เซียนมวย ไปจนถึงเซียนการเมืองก็แล้วแต่ ต่างไม่คิดจะ ฟันธง แถมยังไม่ให้ ราคาต่อรอง ไว้เป็นมาตรฐานใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย...
----------------------------------------------------
ด้วยเหตุเพราะต่างก็ นึกภาพไม่ออก ว่าสุดท้ายแล้ว...มันจะเป็นไปในแนวไหน อย่างไร จะยับเยิน ยู่ยี่ หรือยั้วเยี้ย ชุลมุน ชุลเก กันไปถึงขั้นไหน อีกทั้งการจะใช้ทางออก ทางรอด ตามกระบวนการประชาธิปไตยโดยปกติ แบบ ยุบสภาฯ แล้วกลับไปเลือกตั้งกันใหม่...ก็น่าจะลำบากอีก!!! เพราะถ้าหากเลือกกันใหม่ โดยที่ยังไม่ได้มีผลงานใดๆ ติดปลายนวมเอาไว้เลยแม้แต่น้อย โอกาสที่จะต้องถูก เผาไทย ต้องเจอกับ อนาคตไหม้ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ เพราะประดากลุ่มคนเหล่านี้เขาได้ ง้างตีนรอ หรือได้ หาเสียงล่วงหน้า กันไปแล้วก็ว่าได้ โดยหวังที่จะอาศัย ความล้มเหลว ของรัฐบาลชุดใหม่นั่นแหละ เป็นเนื้อหา เป็นคำขวัญโฆษณา ได้เป็นอย่างดี...
-------------------------------------------------------
ดังนั้น...การที่ต้อง เดินหน้าประเทศไทย ในแบบ เดินไป-อ้วกไป จึงออกจะเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวด รวดร้าว ทรมานมิใช่น้อย แต่ทำไงได้ล่ะทั่น...ในเมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องลากแข้ง ลากขา กันต่อไป ต้องช่วยกันลดอาการคลื่นเหียน วิงเวียน ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว ช่วยกันควานหามะกรูด มะนาว ส้มจ๊ง ส้มจี๊ด มาช่วยแก้เลี่ยน ตัดเลี่ยน กันไปตามสภาพ ซึ่งหลังๆ นี้...คงต้องยอมรับว่า มันออกจะหายาก หาเย็นเต็มที คือมันมักหนักไปทางมะเดื่อ หรือออกไปทางข้างนอกสุกใส-ข้างในเป็นโพรง ไม่ก็หนักไปทางมะพลับ ประเภทต่อหน้ามะพลับ-ลับหลังตะโก อะไรทำนองนั้น...
--------------------------------------------------------
สรุปแล้ว...ภายในเดือนนี้ ก็คงน่าจะพอได้เห็นหน้า เห็นตา นายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลชุดใหม่ ได้อย่างไม่ต้องเสียเวลาคาดเดากันอีกต่อไป ส่วนจะสวย จะหล่อ จะขี้ริ้ว ขี้เหร่ น่าเกลียด น่าอัปลักษณ์ ไปถึงขั้นไหน ยังไงๆ...ก็คงต้องพยายาม ทำใจ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะภายใต้ทิศทางการเมืองตามแบบฉบับ จัดสรรปันส่วนผสม นั้น มันจะไปคัดสรรเอาแต่เฉพาะคนสวย คนหล่อ คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ อย่างน้อย...คงมีประเภทที่อาจต้อง เขี่ยผ้าห่มปิดหน้า ในช่วงจังหวะที่กำลังผสม โผล่ๆ เข้ามามั่งอย่างมิอาจปฏิเสธได้ แต่เอาเป็นว่า...ไม่ว่า รัฐบาล เป็นไปในรูปไหนก็ตาม...ลองถ้าหาก ประชาชนเข้มแข็ง ซะอย่าง!!! อะไรก็ตามที่ทำให้ต้องวิตก กังวล ล่วงหน้า มันก็อาจพอคลายๆ ลงมาได้บ้าง แม้แต่เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี...
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Rudyard Kipling (อีกครั้ง)...“Nations have passed away and left no traces, And history gives the naked cause of it --- One singles, simple reason in all case; They fell because their peoples were not fit. - หลายชาติได้สูญสิ้นไปอย่างไร้ร่องรอย และประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ้งชัด ถึงเหตุผลง่ายๆ เพียงประการเดียวเท่านั้น ในทุกๆ กรณี นั่นคือ...ชาติเหล่านั้นสูญสลายเพราะ...ประชาชนไม่เข้มแข็ง...”
------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |