การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะไปด้วยจำนวนเสียง 258 เสียง ขณะที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย ได้ไป 235 เสียง

                รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา จากพรรคพลังประชารัฐ เฉือนชนะ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ด้วยคะแนน 248 ต่อ 246 เสียง

                ขณะที่การรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม จากพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 256 เสียง เอาชนะ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ที่ได้ 239 เสียง

                แม้ผลการเลือกประธานสภาฯ-รองประธานสภาฯ จะเสร็จสิ้นลงไป แต่ยังคงสร้างประเด็นคาใจให้กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เนื่องจากพรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตรมีเสียงรวมกันประมาณ 243-244 เสียง (จำนวนเสียงก่อนการรับรอง ส.ส.เพิ่มในภายหลัง) แต่ในการเลือกประธานสภาฯ  และรองประธานสภาฯ คนที่สอง เกิดปรากฏการณ์งูเห่าไปโหวตให้ขั้วตรงข้าม โดยเฉพาะในการเลือกประธานสภาฯ ที่มีเสียงหายไปอย่างน้อย 7 เสียงเลยทีเดียว

                จากนั้นทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนอง ยอมรับสภาพ งูเห่าเกิดขึ้นแล้ว "และจะเร่งตรวจสอบหางูเห่าต่อไป โดยเฉพาะบัตรลงคะแนน"

                การควานหาตัวงูเห่าจะทำได้ยาก เนื่องจากการลงคะแนนเป็นไปโดยลับ และยังเป็นการเขียนชื่อประธานและรองประธานสภาฯ ลงไป ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ แม้พรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตรจะวางมาตรการเบื้องต้นเอาไว้ แต่ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะงูเห่าก็มีวิธีหลบเลี่ยงการถูกจับได้เช่นกัน 

                ไม่ว่าอย่างไร ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะยังไม่ละความพยายาม เดินหน้า ตรวจสอบ แม้จับตัวเป็นๆ ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากเห็นร่องรอยแห่งความผิดปกติ จึงได้เปิดปฏิบัติการณ์ตามหาร่องรอย เริ่มจากเมื่อเปิดประชุมสภาฯ จะขอให้ ส.ส.ยื่นญัตติต่อประธานสภาฯ ขอนำบัตรลงคะแนนเลือกประธาน-รองประธานสภาฯ มาตรวจสอบ 

                สำหรับการตรวจสอบจะนำจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคมาเป็นตัวตั้ง แล้วแยกบัตรลงคะแนนที่มีการลงคะแนนไปในลักษณะเดียวกัน เช่น พรรคเอ มี ส.ส.จำนวน 50 คน ดังนั้นวิธีการเขียนจะไปในทิศทางเดียวกัน ที่จะให้เขียนเฉพาะชื่อประธานสภาฯ หรือรองประธานฯ ที่เราประสงค์จะลงคะแนนเสียงให้เท่านั้น อีกพรรคอาจจะบอกให้เขียนทั้งชื่อ และนามสกุลไปด้วย แต่อีกพรรคให้เขียนทั้งชื่อกับนามสกุล แต่คนละบรรทัดกัน อีกพรรคอาจให้ใช้ปากกาที่มีลักษณะบ่งชัดอย่างเด่นชัด เพื่อให้รู้ว่าเป็นคะแนนเสียงที่มาจากพรรคเรา อีกพรรคอาจบอกนอกจากเขียนชื่อ นามสกุล แล้ว ให้เขียนจุดไข่ปลาหลังชื่อหรือนามสกุลผู้นั้นด้วย หรือแม้แต่การให้ทำสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้บางจุดของบัตร 

                “แม้กลุ่มงูเห่าจะรู้ว่าต้องทำตามมติพรรค แต่ในการโหวตนอกจากการเขียนชื่อบุคคลที่เราประสงค์จะลงคะแนนให้แล้ว เขาจะต้องมีวิธีส่งสัญญาณบางอย่างให้คนอื่นรู้ เช่น ทำสัญลักษณ์บางอย่างไว้ในจุดใดจุดหนึ่งในบัตรที่ลงคะแนน แล้วไปบอกผู้ที่มาติดต่อว่า ได้ทำสัญลักษณ์ตรงนี้ไว้นะ เป็นอันรู้กัน เพราะในระหว่างการนับคะแนนมีตัวแทนจากบางพรรคเกาะติดตรวจสอบการลงคะแนนอย่างใกล้ชิดพร้อมกับบันทึกภาพเคลื่อนไหวเอาไว้ ซึ่งตรงนี้เขาเองก็ต้องการตรวจสอบและเช็กคะแนน ทั้งจากคะแนนเสียงฝั่งเขา  และผู้ที่มาโหวตให้ไปในตัวผ่านการส่งซิกจากบัตรลงคะแนน  แม้เราจะได้บัตรมา ถึงจะไม่รู้ว่าใครเป็นงูเห่า แต่อย่างน้อยก็จะเห็นร่องรอย ซีกไหน พรรคอะไร ใครที่น่าจะทำคะแนนหายไป ดูแล้วมีความเสี่ยงที่จะเป็นงูเห่า เพื่อจะได้มาวางมาตรการอื่นป้องกัน ในอนาคตในสภาวะที่เสียง ส.ส.ปริ่มน้ำกันทั้งสองขั้ว” รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเล่าถึงที่มาที่ไป และการตรวจสอบเบื้องต้น   

                ผลจากการเลือกประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ  เป็นข้อพิสูจน์ได้ดี พิษสงจากกลุ่มงูเห่าเริ่มเล่นงานแล้ว และโดนเล่นงานทั้งสองพวก ไม่ว่าจะเป็นในขั้วพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และขั้วพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ แต่กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตร ที่ยืนยันอย่างหนักแน่น จับมือกันเหนียวแน่น ยังยึดมั่นในสัตยาบันต่อต้านการสืบทอดอำนาจ

                พอเจอปรากฏการณ์ดังกล่าวเล่นงาน เลยเกิดผวา ในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีปล่อยงู กับฝ่ายดักจับงู จะมีปรากฏการณ์งูเห่าอาละวาดอีกหรือไม่ วันโหวตเลือกนายกฯ 5 มิ.ย. ได้รู้พร้อมกัน 

                อีกทั้งการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะต้องขานชื่อ กระทำโดยเปิดเผย จะมีงูเห่าเปิดตัว แว้งกัด เล่นงานอีกหรือไม่ เพราะงานนี้แว่วเสียงกันมาก อีกฝ่ายทุ่มไม่อั้น พร้อมแสดงศักยภาพทำให้ชนะขาด ไม่ต้องให้มีเสียงปริ่มน้ำให้กวนใจ  ขณะที่อีกฝ่ายก็วางมาตการป้องกัน ปลุกขวัญให้ยึดมั่นต่อเจตนารมณ์ประชาชนที่เลือกมา อย่าเห็นแก่ประโยชน์เบื้องหน้า

                เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี เกมในสภาฯ ก็ว่ากันไป เกมนอกสภาฯ ที่ว่ากันด้วยเรื่องงูๆ ของแต่ละฝ่าย.