"ธนาธร" ประเดิมลุยงานนอกสภา เปิดเวทีฟังปัญหาชาวประมงมหาชัย ลั่นสั่งลูกพรรคดันแก้พ.ร.บ.ประมง-กม.ลูกในสภาแน่ 4 อดีตผู้สมัครพลังปวงชนไทยร้อง กกต.ยุบพรรค เขี่ย "นิคม" พ้น ส.ส. แฉเบี้ยวเงินหาเสียง ส่งผู้สมัครสังกัดพรรคไม่ครบ 90วัน ซ้ำยังถือหุ้นสื่อ
ที่ตลาดมั่นคงมหาชัย จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเวทีรับฟังปัญหาของชาวประมงในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยเป็นบทบาทในฐานะผู้แทนราษฎรนอกสภาครั้งแรก ตามที่นายธนาธรได้เคยระบุไว้ว่าจะเดินหน้าทำงานนอกสภา หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ มีตัวแทนชาวประมง ผู้ประกอบการประมง สมาคมประมง และตัวแทนจากหอการค้าจังหวัด มาร่วมสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น โดยตัวแทนผู้ประกอบการส่วนหนึ่งสะท้อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นโดยหลักแล้วมาจากการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยกำลังทำเกินกว่าที่กฎหมายสากลกำหนดไว้ หลายครอบครัวไม่สามารถทำประมงได้ทั้งๆ ที่เป็นอาชีพที่ยึดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ดังนั้นตัวแทนชาวประมงส่วนใหญ่เห็นร่วมกันว่าต้องการให้มีการแก้ไขกฎหมาย โดยชาวประมงเองพร้อมที่จะยอมรับกฎหมายที่สมเหตุสมผล เช่น การกำหนดเขตจับสัตว์น้ำ การกำหนดความถี่ของอวน เป็นต้น ส่วนเรื่องของแรงงาน ควรต้องมีการปรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ควรจะมีการเยียวยาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนฟื้นฟูการทำประมง โดยให้เป็นไปตามหลักกฎหมายสากลที่ถูกต้อง
หลังการรับฟังความคิดเห็น นายธนาธรกล่าวกับตัวแทนชาวประมงและประชาชนที่มาร่วมเวทีว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างไปถึงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เรือประมงไปจนถึงห้องเย็นและผู้ค้าในตลาด แต่การจะบอกว่าหลักการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ซึ่งรัฐนำมาบังคับใช้ผิดไปทั้งหมดก็ไม่ใช่ เพราะการทำประมงในประเทศไทยในอดีตมีปัญหาจริงๆ ตั้งแต่เครื่องมือการจับสัตว์น้ำที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเล ไปจนถึงการละเมิดสิทธิแรงงาน แต่ทว่าการบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบันเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่เคยมีการรับฟังปัญหาจากชาวประมง ที่ผ่านมามีแต่การรับฟังปัญหาจากทุนขนาดใหญ่ที่ผูกขาดการส่งออกปลาทูน่า ซึ่งได้รับผลกระทบจากการออกใบส้มของสหภาพยุโรป ดังนั้น การออกมาตรการบังคับใช้ดังกล่าว จึงกลายเป็นมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อชาวประมงขนาดกลางและขนาดย่อย เพื่อให้ทุนขนาดใหญ่สามารถส่งออกได้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก
"สิ่งที่เราต้องทำคือการไปดูในรายมาตรา จะแก้ไขในเรื่องไหน สิ่งที่เราสัญญาได้ คือมีความตั้งใจที่จะนำพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2560 และกฎหมายลูกอื่นๆ ไปแก้ไขหรือร่างใหม่ให้เหมาะสม โดยมีการรับฟังความคิดเห็นจากชาวประมงและผู้เชี่ยวชาญ เรื่องต่อมาคือการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายที่เกินกว่าเหตุ และการนำกองทัพออกจากการจัดการประมง เพราะเป็นเรื่องของพลเรือน นี่คือสิ่งที่เราจะทำ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะธนาธรไม่ใช่ชาวประมง เราต้องนำชาวประมง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลมาคุยกันว่าจะต้องแก้ไขตรงไหน เพื่อให้การทำประมงเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังคงทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำฟื้นฟูตัวเองได้อย่างยั่งยืน" นายธนาธรระบุ
จากนั้นนายธนาธรได้เดินทางเข้าพบ?นายมณฑล? ไกรวัตนุสสรณ์? นายก?องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาคร? ที่ห้องทำงานนายก อบจ.สมุทรสาคร? ?เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาประมงไทย? ในฐานะที่นายมณฑลเคยดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์? กำกับดูแลกรมประมง? ทั้งนี้จากการหารือได้ข้อสรุปเบื้องต้น? ขอให้ชาวประมงสมุทรสาคร? ตั้งแต่ประมงพื้นบ้าน? ไปจนถึงประมงนอกน่านน้ำ? ร่วมกับพิจารณารายละเอียดของกฎหมายประมง? ที่เป็นอุปสรรคและสร้างความเดือดร้อนกับวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพประมง? เพื่อเป็นข้อมูลให้กับพรรคอนาคตใหม่นำไปผลักดันแก้ไขกฏหมายในรัฐสภา?
หลังจากนี้ นายธนาธรมีกำหนดการที่จะเดินทางไปรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวประมงในจังหวัดตราด? เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาการทำประมงไทยทั้งระบบต่อไป
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ? อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย 4 คน ประกอบด้วย น.ส.จีรนันท์ จันทวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 เชียงราย, นายสุบัน สุวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคใต้, นายสุทัศน์ สัตย์แสง ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 4 และ พ.ต.ท.หญิงศิวนาถ พวงแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 3 ในฐานะเป็นตัวแทนอดีตผู้สมัคร 269 คน ยื่น กกต.ขอให้ยุบพรรคพลังปวงชนไทย และเพิกถอนการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรค
เนื่องจากนายนิคมหลอกลวง และจูงใจให้ลงสมัคร ส.ส.และสมาชิกพรรค โดยสัญญาจะให้เงินสนับสนุนเขตละ 2 ล้านบาท หากมีเสียงตอบรับดีจะได้รับเงินเพิ่มอีก จึงทำให้ไปเร่งหาสมาชิกพรรคและจัดตั้งสาขาพรรค โดยสำรองค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงิน อีกทั้งยังถูกขับออกจากพรรค รวมถึงถูกฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาท ดังนั้นเห็นว่านายนิคมไม่เหมาะสมที่จะเป็น ส.ส.ในฐานะตัวแทนของประชาชน ซึ่งมั่นใจในหลักฐานที่ยื่นต่อ กกต.ว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคได้
น.ส.จีรนันท์เปิดเผยว่า นอกจากตนเป็นผู้สมัครแล้ว ยังเป็นผู้จัดหาสมาชิกพรรคมาลงสมัครด้วย เนื่องจากเชื่อถือ เพราะมีชื่อ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยเชื่อใจเพราะรักตระกูลชินวัตร แต่กลับถูกบางฝ่ายนำมาหลอกให้ประชาชนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีกรรมการบริหารพรรคบางคนเรียกรับเงินค่าหัวคิวจากนายชุติเดช นฤมิตสุวิมล จำนวน 50,000 บาท เพื่อแลกกับสิทธิกับการเป็นผู้สมัคร แต่นายชุติเดชมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถลงสมัครได้ ก็ไปขอเงินคืน แต่กลับถูกปฏิเสธ
นายสุบันกล่าวว่า ตนเองมีหน้าที่จัดหาสมาชิกพรรคมาเป็นผู้สมัคร โดยบางคนสังกัดพรรคไม่ครบ 90 วันตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.).ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
นายสุทัศน์กล่าวว่า นายนิคมอ้างว่ามีบริษัทที่จะสนับสนุนทางการเงินพรรค 4,000 แห่ง ซึ่งจะของบบริษัทละ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นงบหาเสียง พร้อมอ้างว่าสนิทสนมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อทวงถามกลับบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมจ่าย พร้อมกันนี้เห็นว่านายนิคมเข้าข่ายมีความผิดเช่นเดียวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เนื่องจากจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ NB.TV ขึ้นภายในสำนักงานใหญ่ของพรรค และบริษัทบุญวิเศษ คอปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด โดยนายนิคมเป็นเป็นประธาน และมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการด้านสื่อสารมวลชน จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบว่านายนิคม เข้าข่ายเป็นเจ้าของสื่อหรือผู้ถือหุ้นสื่อหรือไม่
พ.ต.ท.หญิงศิวนาถกล่าวว่า การยื่น กกต.วันนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม ทั้งนี้ นายนิคมเป็นคนที่วุฒิภาวะไม่เพียงพอเป็นหัวหน้าพรรค ไม่มีความเหมาะสมจะเป็น ส.ส. แค่ปัญหาสมาชิกพรรคก็ดูแลไม่ได้ จะไปบริหารประเทศและดูแลประชาชนได้อย่างไร บุคคลเหล่านี้หาสมาชิกพรรคให้ แต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ ขณะที่คะแนนเขตทั้งหมดไปรวมให้นายนิคม ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงคนเดียว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |