เป็นที่ฮือฮา เมื่อ เชฟกระทะเหล็กที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันในนามว่า "บุญธรรม เชฟกระทะเหล็ก" ตั้งค่ายมวยขึ้นมาแล้วอย่างเป็นทางการ ใครจะรู้ว่า นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ เจ้าของร้านอาหาร ฮอนโมโนะ ซูชิ หลงไหลศิลปะมวยไทยตั้งแต่เด็ก ถึงขั้นเคยขึ้นชก และอยากมีค่ายมวยเป็นของตนเอง ซึ่งในวันนี้ ฝันของเชฟเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ฤกษ์เปิดโรงยิมครบวงจร พร้อมทั้งเปิดม่านโชว์ค่ายมวย"ศิษย์เขฟบุญธรรม"อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในนามของ บริษัท พรีเมี่ยมมวยไทย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
งานเปิดค่ายมวย"ศิษย์เชฟบุญธรรม" ของ บุญธรรม เชฟกระทะเหล็ก ก็เลยมี ซูชิ กับ ซาขิมิ ชั้นเยี่ยมจาก ฮอนโมโนะ ซูชิ มาบริการแขกวีไอทีทุกท่านแบบไม่จำกัด ภายในงานนี้ยังได้รับเกียรติจากนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึง เขาทราย แกเล็กซี่ กับ สามารถ พยัคฆ์อรุณ รวมถึงคนในวงการหมัดมวยหลายท่าน ร่วมแสดงความยินดี
นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมี่ยมมวยไทย เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด พูดถึงเรื่องนี้ว่า "ผมมีความชอบกีฬามวยตั้งแต่สมัยเด็ก ต้องการที่จะช่วยเหลือเด็กๆ และเยาวขนที่มีจิตใจรักในกีฬามวยไทยแต่ขาดโอกาสทางการศึกษา รวมถึงนักกีฬามวยที่มีความฝันขึ้นเวทีแชมป์โลกแต่ไปไม่ถึงฝัน และต้องการที่จะเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ให้ออกสู่สายตาชาวโลก โดยผมพร้อมที่จะเป็นอีกแรงสนับสนุนและช่วยเหลือ เพื่อผลักดันนักมวยไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก จึงได้ก่อสร้างค่ายมวยใช้พื้นที่ทั้งหมด 275 ตารางวา หรือประมาณ 1 ไร่ ในซอยอ่อนนุข 88"
"หลายคนอาจทราบว่าเราเปิดค่ายมวยเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆแล้ว เราเปิดเป็นยิมด้วยครับ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรักสุขภาพได้มาออกกำลังกาย พร้อมเรียนรู้ทักษะการป้องกันตัวในแบบฉบับมวยไทย โดยเทรนเนอร์มวยไทยมืออาชีพที่ผ่านสังเวียนมามากมาย นอกจากยิมแล้ว เรายังเปิดบริการฟิตเนสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จากนักมวยอาชีพที่เป็นผู้ฝึกสอน และสามารถเข้าร่วมการแข่งขันที่เวทีมวยไทยมาตรฐานในหลักสูตรที่ค่ายวางไว้ เพราะค่ายของเราเป็นโปรโมเตอร์ เรื่องโภชนาการที่ถูกจัดเตรียมโดยมืออาชีพอาหารที่ควบคุมโดยเชฟกระทะเหล็ก"
"ทั้งยังมีห้องพักสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนหลักสูตรเข้มข้น เพราะเรารับรองด้วย WBC สถาบันที่ดูแลและควบคุมการชกมวยสากลในระดับโลก และรางวัลในการขึ้นชกของนักมวยศิษย์เชฟบุญธรรมอีกมากมาย ซึ่งทางค่ายของเราได้สร้างระบบการจัดการ ระบบการฝึกซ้อม อุปกรณ์ ที่ได้มาตรฐาน ด้วยงบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 30 ล้านบาท โดยสัดส่วนกลุ่มลูกค้าของโรงยิมนั้นแบ่งเป็นผู้หญิง 80% ผู้ชาย 20% และสำหรับค่ายมวย เราวางตลาดไว้ว่าในปีนี้จะจัดการแข่งขันระดับประเทศและต่างประเทศ โดยดึงผู้ร่วมลงทุนและคู่ค้าจากต่างประเทศเข้ามา เพ่อจะได้มุ่งเน้นนักเรียนจากต่างประเทศป้อนตลาดโลก เป็นการกระตุ้นมวยไทยไปสู่ต่างประเทศ อาทิ จีน, ลาว เยอรมนี, ญี่ปุ่น และ ฝรั่งเศส"