ป่วนทั้งฟาร์ม! รุมถล่ม "บิ๊กตู่" ไล่ไปอ่าน Animal Farm "ธนาธร" สวมรอยจะยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช.ให้ได้ หมดเวลาหมูครองเมือง ส่วน "วัฒนา" ซัด "ประยุทธ์" เผด็จการไร้สมอง และไร้สาระที่สุดในบรรดาเผด็จการที่โลกเคยมีมา เพราะดันแนะนำหนังสือด่าแม่เผด็จการ ขณะที่ "โบว์-เจี๊ยบ" แท็กทีมจัดชุดใหญ่

    พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ได้แนะนำให้ประชาชนอ่านหนังสือเรื่อง Animal Farm ฉบับภาษาไทย ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองไทย แต่นายกรัฐมนตรีเห็นว่าผู้เขียนถ่ายทอดเนื้อเรื่องได้ดีและน่าสนใจ 
    "นายกฯ ไม่อยากให้เชื่อมโยงทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง และอย่าตีความว่าการแนะนำให้อ่านหนังสือเป็นการดูถูกผู้อื่น เพราะที่จริงการอ่านหนังสือจะช่วยสร้างหลักคิด สร้างปัญญา ไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้คือ แม้คนเราจะอยากได้ทุกสิ่งที่ดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่จะสมหวังทุกอย่าง และไม่มีใครทำให้คนอื่นพอใจได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นกฎของธรรมชาติ มนุษย์ควรดูแลใส่ใจสิ่งที่อยู่รอบตัวให้ดี รวมถึงสัตว์เลี้ยงในฟาร์มก็ต้องทำให้มีความสุข ทุกชีวิตต้องช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
    อย่างไรก็ตาม กลุ่มต่อต้าน คสช.ต่างพากันอาศัยสื่อสารออนไลน์วิจารณ์ประเด็นนี้กันอย่างครื้นเครง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ "Thanathorn Juangroongruangkit" ระบุว่า “สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางตัวเท่าเทียมกว่าตัวอื่นๆ” นี่คือวาทะของหมูใน Animal Farm หนังสือที่ประยุทธ์แนะนำให้คนไทยอ่าน มาช่วยกันครับ สร้างสังคมที่ “คนเท่ากัน” โดยไม่ต้องมีใคร “เท่าเทียมกว่า” ใคร ผมและอนาคตใหม่ จะยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช.ให้ได้ หมดเวลาหมูครองเมือง
    นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “Watana Muangsook” ระบุใจความว่า พลเอกประยุทธ์เป็นเผด็จการที่ไร้สมอง และไร้สาระที่สุดในบรรดาเผด็จการที่โลกเคยมีมา ให้ ครม.อ่านจินดามณี แต่ตัวเองท่องนิราศภูเขาทองโชว์ ให้คนไทยอ่านหนังสือการปกครองของสี จิ้นผิง บอกว่า สอดคล้องกับแนวทางปฏิรูปของไทย ล่าสุดให้อ่านหนังสือ Animal Farm ทั้งที่เป็นหนังสือเสียดสีด่าแม่เผด็จการ
    ตามด้วย น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ "โบว์" แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ว่า เดาว่าคนที่แนะนำให้คุณประยุทธ์อ่าน Animal Farm คงเป็นอาจารย์น้องนั่นแหละค่ะ เพราะเด็กอักษรเอกอังกฤษได้อ่านทุกคน ซึ่งประเด็นที่อยากให้สื่อก็คงเป็นช่วงที่หลังจากพวกสัตว์ล้มล้างเผด็จการมนุษย์ได้แล้ว ก็กลับมาเจอการลุแก่อำนาจจากพวกเดียวกันเองที่เคยคิดว่าจะมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่พอดีคุณประยุทธ์อาจจะไม่ได้อ่านจริง รีบเอามาพูด เลยไม่รู้เรื่อง แถมบอกว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองอีก .. เลยไปกันใหญ่
    "อย่างไรก็ดีข้อคิดเบื้องต้นจากเรื่องนี้คือ การปกครองที่ดีพร้อมสมบูรณ์ไม่มีหรอก แต่เราต้องเรียนรู้และพัฒนาการเลือกกันไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาสิทธิในการเลือกนั้นไว้ อย่าให้พวกครึ่งหมูครึ่งคนมาพรากไป" น.ส.ณัฏฐาระบุ
    ด้าน ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์นึกอย่างไร จึงแนะนำให้คนไทยอ่านหนังสือเรื่อง Animal Farm ของจอร์จ ออร์เวล ทั้งที่ออร์เวลเป็นนักเขียนที่เสียดสีการเมืองและไม่เอาเผด็จการ ที่สำคัญบางฉากบางตอนในหนังสือ Animal Farm ช่างคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ตอนทหารยึดอำนาจจากนายกฯ หญิง โดยเฉพาะฉากที่ฝูงสัตว์ในหนังสือได้ใช้อาวุธครบมือ ยึดอำนาจปกครองจากอดีตผู้ปกครองที่เป็นผู้หญิงซึ่งมีแค่สองมือเปล่าไร้ทางสู้ โดยไม่นึกถึงความหลังที่นายหญิงเคยป้อนข้าวป้อนน้ำดูแลพวกมันอย่างดี 
    "ขอตำแหน่งอะไรก็ให้หมด แต่พออยากตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นใหญ่ ก็พูดให้ร้ายทั้งอดีตนายหญิงและนายผู้ชาย แถมพอยึดอำนาจสำเร็จแล้ว ก็ประกาศค่านิยม 7 ประการบังคับให้ผู้ใต้ปกครองปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และกำหนดให้เป็นรัฐธรรมนูญในการปกครอง โดยเขียนคำสั่งกำกับไว้ในรัฐธรรมนูญดังกล่าวว่า ห้ามไม่ให้ใครแก้ไขตลอดไปชั่วกัปชั่วกัลป์ แต่ค่านิยมของสัตว์มีแค่ 7 ประการ ซึ่งน้อยกว่าค่านิยม 12 ประการของ พล.อ.ประยุทธ์"
    นอกจากนี้ ฝูงสัตว์หัวหน้าคณะปฏิวัติยังขโมยผลงานของอดีตเจ้านายเก่า โดยการเลียนแบบโครงการต่างๆ ที่นายผู้ชายและนายหญิงเคยทำ แล้วเปลี่ยนชื่อโครงการให้เหมือนเป็นความคิดของตัวเอง ทั้งยังกดขี่ผู้ใต้ปกครองเหมือนรัฐบาลเผด็จการไม่มีผิดเพี้ยน นอกจากนี้ ฝูงสัตว์คณะปฏิวัติเหล่านี้ยังมีความถนัดในเรื่องปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อล้างสมองผู้ใต้ปกครองด้วยการแต่งเรื่องโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ จึงน่าสงสัยว่า พล.อ.ประยุทธ์คิดอย่างไรถึงแนะนำหนังสือแบบนี้ให้ประชาชนอ่าน เพราะพฤติกรรมแบบนี้เป็นการแย่งอำนาจการเมืองแบบอมนุษย์จริงๆ แล้วทำไม พล.อ.ประยุทธ์จึงมีพฤติกรรมย้อนแย้ง เพราะก่อนหน้านี้เคยจับประชาชนที่อ่านหนังสือเรื่อง 1984 ไปปรับทัศนคติ ทั้งๆ ที่หนังสือดังกล่าวก็เขียนโดยนักเขียนคนเดียวกันกับที่เขียนเรื่อง Animal Farm คือ จอร์จ ออร์เวล เช่นกัน
    น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ผู้ต้องการสืบทอดรัฐประหารแนะนำให้ไปอ่านหนังสือ Animal Farm ที่มีเนื้อหาถึงการที่สัตว์ในฟาร์มปฏิวัติคน แล้วสุดโต่งว่าสิ่งที่คนทำเป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมด แต่สารในหนังสือสื่อเพื่อจะสะท้อนว่าเผด็จการเป็นสิ่งไม่ดี ทุกคนในสังคมต้องเสมอภาค รวมทั้งย้ำด้วยว่าที่แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ได้จะดูถูกใคร ทำให้สังคมไทยได้พบความจริงว่า คนที่อยากสืบอำนาจรัฐประหารมีอาการของโรคหลงตัวเองและดูถูกคนอื่นอย่างมาก
    รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ เชียงใหม่ คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความว่า พลเอกประยุทธ์แนะนำให้อ่านหนังสือเรื่อง animal farm หรือการเมืองของสัตว์ ตีความได้อย่างน้อย 2 อย่าง
    1.ต้องการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ถึงสภาพการเมืองไทยที่ต่อรองแย่งอำนาจและตำแหน่ง
        2.ต้องการชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของผู้นำและระบอบเผด็จการ เพราะหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาปอกเปลือกผู้นำเผด็จการ ที่ตอนแรกดูดี แสดงท่าทีว่าจะสร้างความสุขความเท่าเทียมแก่สัตว์ทั้งมวล แต่ครั้นมีอำนาจนานเข้าก็เริ่มใช้อำนาจด้วยความรุนแรงปราบปรามสัตว์ที่ไม่เห็นด้วย และก็เสวยสุขกินอยู่อย่างอิ่มหมีพีมันแต่เฉพาะพวกพ้อง
     ขณะที่ปล่อยให้สัตว์อื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกตนเองอดอยาก และซ้ำร้าย สัตว์ที่เป็นผู้ปกครองก็หันมาคบหากับมนุษย์ ผู้ซึ่งในตอนแรกบรรดาผู้นำของสัตว์ประกาศว่าเป็นศัตรูที่น่ารังเกียจ
    ทว่าเมื่อดูเนื้อหาของวรรณกรรมเรื่องนี้ ก็ชักไม่แน่ใจว่าพลเอกประยุทธ์เข้าใจในสิ่งที่แนะนำหรือเปล่าเพราะเนื้อหาของเรื่อง โดยเฉพาะหมูที่เป็นผู้นำของสัตว์ในท้องเรื่อง หากอ่านแล้ว คนจำนวนมากที่เข้าใจเนื้อหาอดคิดเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้นำของบางประเทศไม่ได้ ส่วนจะเป็นประเทศไหนก็คิดกันเอาเองครับ.