เริ่มแรกดูเหมือนจะไปได้สวยสำหรับการเปิดให้เอกชนที่สนใจประมูลลงทุนในโครงการร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยื่นซองเทคนิคเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเอกชนจำนวน 3 ราย ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานเพื่อขอรับสิทธิการประกอบกิจการให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี)

                ต่อมาพบว่า บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ถอนตัวจากการยื่นประมูลงานให้สิทธิ์ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี หรือดิวตี้ฟรี สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเหตุผลเพราะพันธมิตรเดิมที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้าถอนตัวคือ WDFG UK LIMITED ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีที่มีฐานอยู่ประเทศอังกฤษ พร้อมหันไปสนับสนุน บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ROH จึงทำให้บริษัทเซ็นทรัลเตรียมตัวไม่ทัน และเปลี่ยนใจถอนตัวไปนาทีสุดท้าย จึงต้องยอมถอยให้ 3 บริษัทที่มีความพร้อมมากกว่าคือ 1.บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด 2.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ 3.บริษัท รอยัลออคิด เชอราตัน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ชิงชัยในครั้งนี้

                ดูเหมือนว่าการประมูลครั้งนี้ยังมีการจับตาว่าทางกลุ่มม้ามืดที่หมายมั่นปั้นจะชนะประมูลครั้งนี้ให้ได้ คือ บริษัทโรงแรมรอยัลออคิดฯ แต่ก็มีข้อสังเกตประการสำคัญคือการเข้ามาธุรกิจดังกล่าวนี้ เพื่อสร้างกำไรเพียงอย่างเดียวหรือไม่ หรือจะมีความตั้งใจที่จะพัฒนางานดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นหน้าตาของประเทศให้มีการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนหรือไม่ เนื่องจากพบว่าบริษัท โรงแรมรอยัลออคิดฯ ในตลาดหลักทรัพย์ มีนายวิชัย ทองแตง เป็นประธานกรรมการ และมีประวัติการดำเนินธุรกิจที่เน้นการลงทุนที่รวดเร็วก่อนได้กำไรกลับมา จนได้รับฉายาว่า “พ่อมดตลาดหุ้น” รวมทั้งยังประกอบธุรกิจโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล ก่อนไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจกับบริษัท CTH หลังประมูลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในราคาสูงถึงหมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงเกินจริง จนเกิดสภาวะขาดทุนในเวลาต่อมา รวมทั้งยังเคยเป็นทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร สมัยคดีซุกหุ้นเมื่อปี 2544 อีกด้วย

                นอกจากนี้ ยังพบว่าบุคคลที่เข้าไปชักชวนพันธมิตร WDFG UK LIMITED มาร่วมงานกับโรงแรมรอยัลออคิดฯ  คือ นักธุรกิจรายใหญ่ที่อยู่ประเทศอังกฤษ และยังเคยเป็นนักธุรกิจที่ใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร และเป็นผู้ประสานซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2550 ในราคา 5,103 ล้านบาท จากนั้นในปีเดียวกัน ได้ขายให้นักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในราคา 9,000 ล้านบาท หรือเรียกว่าในปีเดียวได้กำไรประมาณ 4,000 ล้านบาท  ดังนั้นจึงต้องตาหากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตันฯ ชนะประมูลครั้งนี้ โฉมหน้าดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิจะพัฒนาไปในทิศทางใดต่อไป

                ขณะที่ฝ่ายบริหารของ ทอท.ก็บอกว่าพอใจที่มีผู้ยื่นมา 3 ราย ซึ่งก็มาจากผู้ประกอบการรายใหญ่ของโลกมาร่วมประมูล วิธีคัดเลือกจะให้คะแนนด้านเทคนิค 80 คะแนน ด้านราคา 20 คะแนน เพราะเราต้องการคนที่มีประสบการณ์มาช่วย คะแนนด้านเทคนิคจึงสูง ส่วนราคาจะพิจารณารายที่เสนอให้ผลตอบแทนสูงสุด

                สำหรับการประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ได้มีการให้ 3 บริษัทที่ร่วมประมูลได้เสนอเอกสารด้านเทคนิคไปแล้ว จากนั้นวันที่ 31 พ.ค.นี้จะเปิดซองราคาค่าตอบแทน และจะรับทราบว่าใครชนะประมูล ก่อนวันที่ 19 มิ.ย. จะเสนอให้บอร์ด ทอท.เห็นชอบต่อไป

                ดูแล้วไม่ง่ายเลยที่เอกชนรายเดิมอย่างคิงพาวเวอร์!!! จะสู้ศึก

                เพราะคู่แข่งในครั้งนี้ ไม่หมูอย่างที่คิด ไม่ได้มาเล่นๆ เรียกได้ว่าการเปิดประมูลครั้งนี้มันส์หยดติ๋งกันเลยทีเดียว ก็ต้องมาลุ้นกันว่าม้ามืดที่ชนะการประมูลในครั้งนี้จะเป็นใคร.

กัลยา ยืนยง