นับตั้งแต่ที่มีการเลือกตั้งใหม่ในเขต 8 จ.เชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.สันป่าตอง อ.จอมทอง อ.ดอยหล่อ และ อ.แม่วาง เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รายงานผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โดยสรุปว่า น.ส.ศรีนวล บุญลือ จากพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนเสียง 75,891 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 จากพรรคพลังประชารัฐ คือ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ที่ได้ 27,861 เสียง อย่างขาดลอย
โดยก่อนหน้านั้น พื้นที่เขตเลือกตั้งดังกล่าว ผลการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายสุรพล เกียรติไชยากร พรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายชนะ แต่ กกต.สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังพบว่าพฤติการณ์ของนายสุรพลซื้อเสียง เข้าข่ายผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (2) ในข้อหาเสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด ทำให้พรรคอนาคตใหม่ได้อานิสงส์ คะแนนจากเสียงส่วนใหญ่จากเพื่อไทยที่แห่เทให้พรรคอนาคตใหม่
โดยตามกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 129 กำหนดไว้ว่า เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้งใหม่ ให้ดําเนินการคํานวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ และจัดสรรจํานวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ให้ถูกต้องตรงตามผลการคํานวณนั้น ทุกครั้งที่มีการประกาศผลการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น เว้นแต่จะพ้นเวลา 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้งทั่วไป โดยในกรณีที่การคํานวณใหม่นี้ ทําให้จํานวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใดลดลง ให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้นในลําดับท้ายพ้นจากตําแหน่ง
ดังนั้น เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ในเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ จึงต้องนำคะแนนรวมทั่วประเทศของแต่ละพรรคมาคำนวณใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบในส่วนของเศษของแต่ละพรรค ซึ่งจากการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่เบื้องต้น จะทำให้พรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มพรรคละ 1 คน
สำหรับลำดับผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ ผู้ที่จะได้เข้ามาเพิ่มคือ มาดามเดียร์ หรือ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 19 ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ คือ "ตั๊น" หรือ นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20
และการคำนวณคะแนนใหม่นี้ จะทำให้นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคไทรักธรรม น้ำตาตก เพราะเป็นพรรคที่ได้รับคะแนนรวมทั่วประเทศน้อยที่สุดในบรรดาพรรคที่ได้ ส.ส.เข้ามา คือ ได้ 33,754 คะแนน มีจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจากการคำนวณขั้นสุดท้าย 0.4067 คน ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. หลังจากทำหน้าที่มาได้เพียงไม่กี่วัน
ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนมาเพิ่ม 27,861 คะแนน ครั้งที่แล้วมีเศษจากการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อขั้นสุดท้าย 0.1422 เพิ่มมาเป็น 0.5671 ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้มาอีก 1,738 คะแนน ในครั้งที่แล้ว มีเศษจากการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อขั้นสุดท้าย 0.3315 เพิ่มมาเป็น 0.4093
สำหรับพรรคอนาคตใหม่ และจากสังคมที่มีการโวยกันไปใหญ่ว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาพรรคอนาคตใหม่ชนะ แต่ทำไมไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น จริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวกันว่าคะแนนเพิ่มขึ้นแล้วจะได้ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้น แต่ผลคะแนนที่เปลี่ยนไปของแต่ละพรรค จะทำให้ค่าเฉลี่ยทศนิยมเปลี่ยนไป
ดังนั้นไม่เกี่ยวว่าคะแนนของแต่ละพรรคจะเพิ่ม จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเสมอไป เพราะตามกฎหมายให้ยึดทศนิยมจากมากไปหาน้อยนั้นเอง ซึ่งก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคอนาคตใหม่ได้จุดทศนิยม 0.5 ซึ่งได้รับการปัดเศษเรียบร้อยแล้ว และยิ่งอนาคตใหม่ชนะ ก็ได้จุดทศนิยมเพิ่มเป็น 0.6677 ทำให้ไม่สามารถปัดเศษได้ เนื่องจากต่อให้ได้จุดทศนิยมเพิ่มแค่ไหน ก็ได้การปัดเศษเพื่อรับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแค่ 1 ไม่สามารถเพิ่มเป็น 2 ได้นั่นเอง!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |