ปลายปีใช้ตัดแต้ม แก้ลำทำผิดจราจร


เพิ่มเพื่อน    


    ไม่เกิน 19 ธ.ค.62 ใช้ระบบตัดแต้มทำผิดกฎจราจร ตั้งธง 12 แต้ม ถูกตัดหมดเจอพักใช้ใบอนุญาต 90 วัน พักครบ 3 ครั้ง เจอโทษพักใช้ใบอนุญาต 1 ปี ถ้ายัง 0 แต้มอีกครั้ง ยึดใบขับขี่ 3 ปีแล้วต้องขอทำใหม่ เผยแค่ 5 เดือนที่ผ่านมาเซ่นอุบัติเหตุ 6,954 ศพ บาดเจ็บกว่า 4 แสนคน ใบสั่งแทบไร้ความหมาย ปีที่แล้วออก 11 ล้านใบ ยอมจ่ายเพียง 1.3 ล้านใบ
    พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่กรมการขนส่งทางบก ว่า สาเหตุสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุในประเทศไทย คือผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร จากตัวเลขสถิติตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงวันที่ 28 พ.ค.นี้ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งหมด 6,954 ราย และผู้บาดเจ็บทั้งหมดราว 412,000 ราย หรือมีค่าเฉลี่ย 1,400 ราย/เดือน และ 80,000 ราย/เดือน ตามลำดับ สอดคล้องกับสถิติผู้ทำผิดกฎหมายจราจรที่มีปริมาณมากขึ้น 100% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงมีสถิติการกระทำผิดซ้ำมากถึง 20% ตลอดจนมีประชาชนที่ค้างใบสั่งไม่ยอมจ่ายค่าปรับตามระบบมากกว่า 85% ของการออกใบสั่งทั้งหมด 
    ทั้งนี้ ในปี 2560 มีการออกใบสั่งทั้งหมด 5.2 ล้านใบ พบมีผู้กระทำผิดกฎหมายซ้ำ 1.2 ล้านราย หรือคิดเป็น 20% ของทั้งหมด ในปี 2561 มีการออกใบสั่ง 11 ล้านใบเพิ่มจากปี 60 เท่าตัว มีผู้มาชำระเพียง 1.3 ล้านใบ และมีใบสั่งตกค้างในระบบราว 9.7 ล้านใบมากกว่า 85% ขณะที่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 มีการออกใบสั่ง 7 ล้านใบ มีใบสั่งที่ยังไม่ถูกชำระค้างอยู่ในระบบมากถึง 5.9 ล้านใบคิดเป็น 84% ของทั้งหมด ส่วนเงินค่าปรับจากใบสั่งที่อยู่ในระบบนั้นเฉลี่ย 500 บาทต่อใบ หรือ 5,500 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบว่าตนเองค้างใบสั่งอยู่หรือไม่ได้ที่ www.ptm.police.co.th และแอปพลิเคชัน policeserveyou ในอนาคต รวมถึงแอปพลิเคชัน policeiloveyou
    พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ไม่เกินวันที่ 19 ธันวาคม 2562 กฎหมายใหม่เรื่องการตัดแต้มจะมีผลใช้บังคับ ผู้กระทำผิดกฎจราจรจะถูกตัดแต้มและบันทึกลงใบขับขี่ หลังจากนี้จะไปศึกษาแนวทางจากหลายประเทศ เพื่อกำหนดแต้มว่าจะมีเท่าไหร่ เช่น กำหนดแต้ม 12 แต้ม หากโดนตัดแต้มบางส่วนจะต้องถูกส่งไปอบรมวินัยจราจรกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และหากโดนตัดแต้มทั้งหมดจะต้องถูกพักใช้หรือยึดใบขับขี่ รวมถึงเพิกถอนใบขับขี่หากมีการทำผิดซ้ำ
    รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า จากการศึกษาของตำรวจ พบว่าแนวทางที่เหมาะสมคือ 12 แต้ม หากประชาชนถูกตัดคะแนนหมดทั้ง 12 แต้ม จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน และหากถูกพักใบอนุญาตขับขี่ติดต่อกัน 3 ครั้ง จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 1 ปี และเมื่อครบกำหนดแล้วกลับมาใช้ใบอนุญาตขับขี่ แต่ถูกตัดคะแนนหมด 12 แต้มอีกครั้ง จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นจึงจะยื่นขอทำใบขับที่กับกรมการขนส่งฯ ได้อีกครั้ง
    อย่างไรก็ตาม หากประชาชนทำความผิดแต่คะแนนยังไม่หมดภายใน 1 ปี คะแนนจะกลับเข้าสู่ระบบใหม่ แต่หากไม่ต้องการรอจนครบ 1 ปี สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอเข้ารับการอบรมในโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งฯ และนำคะแนนมายื่นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้แจ้งถูกตัดคะแนน จากนั้นคะแนนก็จะกลับเข้าระบบตามเดิม
    ในปีที่ผ่านมา ยอดรายได้จากใบสั่งทั้งหมด 5,500 ล้านบาท แยกเป็นนำส่งท้องถิ่นและรัฐบาลหรือแผ่นดิน 55% คิดเป็น 3,025 ล้านบาท อีก 45% คิดเป็น 2,475 ล้านบาท ตกเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แบ่งเป็น ตำรวจผู้จับ 1,485 ล้านบาท คิดเป็น 27% และทีมงานตำรวจผู้สนับสนุนอีก 990 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของทั้งหมด ตำรวจราจรแต่ละคนจะได้รับเงินส่วนแบ่งค่าปรับได้คนละไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน
    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการให้ยกเลิกรางวัลนำจับดังกล่าว เพราะทำให้ตำรวจเสียภาพลักษณ์และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างมาก โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้ตอบแทนอื่นๆ ทดแทน อาทิ ค่าล่วงเวลา เป็นต้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"