ประณามคิดสุดโต่งโหมไฟใต้


เพิ่มเพื่อน    

  นายกฯ ประณามคนร้ายก่อเหตุบึ้มชายแดนใต้ ขอ ปชช.ให้ความร่วมมือ จนท.หากถูกตรวจค้นรถ สั่งดูกล้องซีซีทีวีห้ามเสีย ขณะที่ภาคประชาชนทั้งพุทธ-มุสลิมรวมตัวที่ตลาดนัดบ่อทอง จี้หยุดทำร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 แฉฝีมือกลุ่มสุดโต่งที่ได้รับมรดกบาปทางความคิด ผบก.จว.ปัตตานีชี้กลุ่มของ "นายเมาลานา สาเมาะ" ก่อเหตุตอบโต้ จนท. สั่งไล่ล่าจับตา จยย.ต้องสงสัยอีกกว่า 10 คัน อาจนำมาก่อเหตุอีก

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 28 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ได้เกิดเหตุระเบิดที่ตลาดนัดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายราย ว่าความจริงรัฐบาลก็มีมาตรการที่เข้มงวดอยู่แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ภาคใต้ หรือในทุกพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงหรืออันตราย เพราะทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยเส้นทางคมนาคม ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจรถหรือยานพาหนะต่างๆ ประชาชนก็อาจจะเกิดความเดือดร้อน และไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่อย่าลืมว่ามันมีผลกระทบกับตรงอื่นด้วย ยิ่งเข้มงวดมากขึ้น ประชาชนก็ต้องร่วมมือ ตนไม่อยากโทษประชาชน เพราะทุกคนก็ต้องการความสะดวก
    “ช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายของเทศกาลละศีลอด เราก็ทราบดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเขาต้องการจะสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาทุกครั้งไป เราก็เสียใจกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ด้วย ต้องมาดูกันว่าจะทำอย่างไรจึงจะลดความสูญเสียเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจตรารถหรือยานพาหนะต่างๆ ผมได้ย้ำเรื่องกล้องซีซีทีวีไปแล้วว่าจะต้องใช้การได้ตลอด อย่าให้มีเสียหาย เพื่อจะได้ติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้เร็วที่สุด และผมถือว่าต้องประณามคนเหล่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนตั้งแต่ก่อนเดือนรอมฎอนแล้ว แต่ยังมีการปะทะกันอยู่ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำจากผู้ก่อเหตุกลุ่มเดิมๆ โดยก่อเหตุในช่วงสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ฝ่ายความมั่นคงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน โดยมวลชนในพื้นที่ต่างเข้าใจเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจมากขึ้น นอกจากนี้ประชาชนมีความหวาดกลัวต่อสถานการณ์น้อยลง เพราะสถานการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนในอดีต
    ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมาที่บริเวณตลาดนัดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อแถลงข่าวและสรุปสถานการณ์ รวมไปถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดด้วยรถ จยย.บอมบ์ บริเวณตลาดนัดบ่อทอง จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย  พร้อมกันนี้ได้ร่วมกิจกรรมรวมตัวของผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ประชาชนและนักเรียน ซึ่งมีทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและอิสลามในพื้นที่ ต.บ่อทอง กว่า 400 คน ได้ออกมาถือป้ายประณามต่อต้านและเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดนัดบ่อทองแห่งนี้ โดยมีตัวแทนของทุกภาคส่วนออกมากล่าวแสดงถึงจุดยืนในการต่อต้านความรุนแรงและเรียกร้องให้กลุ่มคนร้ายยุติการก่อเหตุ
    พร้อมกันนี้ยังได้ออกแถลงการณ์การรณรงค์รวมพลังต่อต้านความรุนแรง 3 ข้อ คือ 1.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่มหยุดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ 2.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่มหยุดทำร้าย เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และ 3.ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างหยุดนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด สถานที่ราชการต่างๆ มาเป็นพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบ
    โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากล่าวว่า   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของกลุ่มขบวนการสุดโต่งที่ได้รับมรดกบาปทางความคิด มุ่งก่อเหตุเพื่อสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ในเดือนรอมฎอน ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ส่งผลต่อความรู้สึกในวงกว้าง วันนี้ประชาชนออกมาต่อต้านความรุนแรง จึงขอเชิญองค์กรสิทธิและองค์กรภาคประชาชนต่างๆ ออกมาปกป้องสิทธิประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต่อต้านพวกสุดโต่ง เพราะประชาชนในพื้นที่ต้องการให้ 10 วันท้ายของเดือนรอมฎอมเป็น 10 วันที่สันติสุขและสงบสุข กอ.รมน.ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี และจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
     พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้เรียกชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงและชุดปฏิบัติการเชิงรุกมาประชุมสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หาความเชื่อมโยงว่าตรงกับข้อมูลบุคคลใด รวมไปถึงการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุด้วย ผลการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายได้ขับขี่รถ จยย.ที่ประกอบระเบิดมาจอดไว้ก่อน 10 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานจะมา รปภ.ที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ได้เกิดระเบิดขึ้น
    "การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าพอสมควร พอที่จะทราบกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มของนายเมาลานา สาเมาะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงมีหมายจับหลายคดี และเป็นกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุลอบยิงร้านอาหารในพื้นที่ อ.หนองจิก เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากรถ จยย.ที่คนร้ายใช้ลอบวางระเบิดตลาดนัดบ่อทองเป็นคันเดียวกับที่ก่อเหตุยิงร้านอาหาร และเคยนำมาก่อเหตุหลายคดี เชื่อว่าเป็นการตอบโต้เหตุปะทะที่ อ.ยะหา เป็นเหตุให้นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฯ เสียชีวิต เนื่องจากนายอับดุลเลาะมีภรรยาอยู่ที่ อ.หนองจิก และยังเป็นเพื่อนสนิทของนายเมาลานา ทำให้การเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ" พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์กล่าว 
    สำหรับการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่ได้ให้ข้อมูลเดียวกันว่า เห็นรถ จยย.คันเกิดเหตุจอดไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่ได้สังเกตว่าใครเป็นคนนำมาจอด ขณะเดียวกันก็ได้กำชับให้นำภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวที่อยู่บริเวณเกิดเหตุและเส้นทางเข้า-ออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด และได้กำชับให้ระวังป้องกันรถ จยย.ต้องสงสัยอีกกว่า 10 คัน เกรงว่าคนร้ายอาจจะนำออกมาก่อเหตุในทุกรูปแบบ
    ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 23 คน จากเหตุ จยย.บอมบ์ แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 ราย คงเหลือ 8 คนที่ยังต้องรักษาตัวที่ รพ. ในจำนวนนี้ 4 รายเป็นเจ้าหน้าที่ทหารพราน โดยเฉพาะนายอับดุลเลาะ กาหง อายุ 34 ปี แพทย์ต้องส่งไปรักษาตัวที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ เนื่องจากอาการสาหัส มีบาดแผลที่ศีรษะ มีเลือดคั่งในสมอง ส่วนผู้เสียชีวิต 2 รายทางญาติได้นำศพไปประกอบพิธีฝั่งทางศาสนาอิสลามแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา
    วันเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดบ่อทองปัตตานี โดยขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ขอให้ทุกภาคส่วนได้คำนึงถึงการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิและเสรีภาพของบุคคล พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการที่เหมาะสมและรัดกุมในช่วงเทศกาลสำคัญที่จะคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่สาธารณะ. 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"