คิดถึงบ้านเก่า  


เพิ่มเพื่อน    

 (1)

            เห็นข่าวน้ำท่วมจังหวัดตรัง ลามไปถึงอำเภอกันตัง...ดินแดนที่เคยพึ่งพา ช่วยอุ้มชู ดูแลตัวเรา มานานถึง 9 ปี 10 ปี แต่แทบนึกภาพไม่ออก ว่ามันจะท่วมแบบไหน อย่างไร เพราะตลอดช่วงที่เคยอยู่ เคยอาศัย มีแต่แห้งกับแห้ง ไม่มีวี่แววว่าจะมีโอกาสเจอะเจอกับน้ำท่วมเอาเลยแม้แต่น้อย ระหว่างนั่งคิดไป คิดมา ด้วยความห่วงใยกังวล เลยอดประหวัดนึกไปถึงพรรคพวกเพื่อนฝูง ญาติโกโหติกา รวมถึง หนี้บุญคุณแผ่นดิน ที่เคยช่วยให้ยืนหยัด ให้ตัวเองมีโอกาสเติบโตขึ้นมามิได้...

(2)

            แม้ต้องพลัดพรากจากพื้นที่ที่อาจถือเป็นบ้านเกิด เมืองนอน อีกแห่งหนึ่งก็คงพอได้ มานานเกือบ 30-40 ปี หลายต่อหลายครั้งที่อยากจะกลับไปเยี่ยมเยียน ก็ดันติดธุระปะปัง หาช่วงเหมาะๆ จังหวะเหมาะๆ ไม่ค่อยจะได้ แต่บรรดาเพื่อนฝูงเก่าๆ ที่ยังคงแวะเวียนอยู่ในกรุงเทพฯ ก็มักเป็นตัวช่วยสะกิด ต่อมแห่งความคิดถึง ให้อยากกลับไปเห็นถิ่นเก่า บ้านเก่า ซะทุกครั้งไป อย่างช่วงงานศพบิดาบังเกิดเกล้าที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน แม้ไม่ได้บอกข่าว แจ้งข่าว ใครต่อใคร แต่บรรดาเพื่อนฝูงรุ่นนุ่งกางเกงขาสั้นมาด้วยกัน ก็ยักแย่ยักยันมากันแทบครบ...

(3)

            เพื่อนผู้ไม่มีวี่แววว่าจะโตขึ้นมาเป็น ครู กับเขาได้ ชื่อว่า สมชาย ปัญจวงศ์ บิดาบังเกิดเกล้าของนักข่าวไทยโพสต์รายหนึ่งลากเอาเพื่อนที่พัฒนาตัวเองมาเป็นนักธุรกิจ นักเล่นหุ้นอย่าง วีระวัฒน์ โอฬารริกบุตร หรือเพื่อน ฉัตรชัย นามสกุลอะไรก็ดันจำไม่ได้ซะแล้ว เพื่อนที่มีสง่าราศีกว่าเพื่อนๆ มาตั้งแต่เด็กๆ อย่าง สุกิจ บุญชัย ต่างมากันครบหมด แต่ก็มีโอกาสได้พูดคุยกันแค่ช่วงสั้นๆ ถึงกระนั้น...ก็พอได้ข้อสรุปว่า ประมาณช่วง วันเช็งเม้ง ของปีใด-ปีหนึ่ง คงต้องหาทางขนพรรคพวกที่วนไปวนมาอยู่ในกรุงเทพฯ กลับไปเยี่ยมบ้านเก่า บ้านเกิด กันให้ได้ซักที...

(4)

            และถ้าปะเหมาะ เคราะห์ดี มีโอกาสพบช่องทาง ใช้หนี้แผ่นดิน ได้ด้วยวิธีไหน จะได้หาทางช่วยๆ กัน โดยไม่จำเป็นต้องไปคิดสมัครเป็น ส.ส. เป็น อบจ. อบต. เพราะต่างคนต่างงอมพระรามไปแล้วด้วยกันทั้งสิ้น แค่ได้มีโอกาสทอดผ้าป่า ทอดกฐิน บริจาคทุนการศึกษาให้กับนักเรียนเล็ก นักเรียนน้อย ฯลฯ ก็น่าจะ สุขใจ พอสมควรแล้ว ทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้ อาจด้วยเหตุเพราะ ต่อมแห่งความคิดถึง ที่ไม่รู้ว่าซุกอยู่บริเวณไหนของตับ ไต ไส้ พุง แต่ก็แปลก...ที่มักทำให้มวลมนุษย์โดยปกติทั้งหลาย มักจะตัดใจไม่ขาดจากอารมณ์ ความรู้สึก ที่ทำให้ตัวเองเกิดความผูกพันกับพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง อันเป็นที่เกิดที่เติบโต ไม่ว่าในทางใดก็ทางหนึ่ง...

(5)

            ยิ่งได้อ่านข้อเขียน บทความ ของอาจารย์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เมื่อไม่นานมานี้ ที่ได้เล่าถึงผู้คนที่พยายามกลับไปช่วยเหลือบ้านเกิด เมืองนอน ในตำบล อำเภอ จังหวัดภาคเหนืออยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นที่ใดก็จำไม่ได้ซะแล้ว อันเป็นการช่วยเหลือที่ไม่ได้คิดจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการมง การเมือง เรื่องการเป็น ส.ส. อบจ. อบต.ใดๆ เพียงแต่หวังจะเห็นบ้านเกิด เมืองนอน แผ่นดินและชุมชนอันเป็นรากเหง้าของตัวเอง ยังคงให้ความสุข ความสงบร่มเย็น เหมือนอย่างที่เคยให้ๆ กับตัวเองมาก่อน อันนี้...ยิ่งทำให้เกิดอาการ ของขึ้น เข้าไปใหญ่ อยากจะกลับเยี่ยมจังหวัดตรัง อำเภอกันตัง ให้จงได้

(6)

            คือถ้าหากผู้คนที่หลากหลาย มากมาย จากจังหวัดไม่รู้จะกี่สิบต่อกี่สิบจังหวัด แต่มักถูกดูดให้มารวมกันอยู่ที่ ศูนย์กลาง หรือที่กรุงเทพมหานคร เกิดอารมณ์ถวิลหาบ้านเกิด เมืองนอน ในทางที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการมง การเมือง อันมักนำไปสู่ความขัดแย้งซะเป็นหลักใหญ่ แต่คิดถึงในแง่ความสุข ความสงบ ร่มเย็น ที่ตัวเองเคยได้รับความเอื้ออาทรไม่ว่าในทางใดทางหนึ่ง แล้วพยายามตอบแทนสิ่งเหล่านั้นคืนกลับไป เพื่อให้ความสุข ความสงบ ร่มเย็น เหล่านั้น ยังสามารถดำรง คงอยู่ ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน อันนั้นนั่นแหละ...โอกาสที่ประเทศไทยจะเจริญได้ทั้งประเทศ ไม่ได้เจริญแต่เฉพาะกรุงเทพมหานคร หรือแม้กระทั่งไม่ได้เจริญอยู่แค่ สองเจริญ มันก็อาจเป็นไปได้โดยธรรมชาติของมันเอง...

(7)

            พูดอย่างนี้...อาจต้อง ตีความ หรือ แปลความ กันเยอะหน่อย แต่ถ้าให้สรุปสั้นๆ ง่ายๆ เอาเป็นว่า...ถ้าหากความรัก ความผูกพันต่อบ้านเกิด เมืองนอน ของใครก็ตาม ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดจะเอา ผลประโยชน์ ใดๆ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ความสุข ความสงบ ร่มเย็น ที่ตัวเองเคยได้รับมาก่อนนั่นแหละ มันจะเป็นตัวอธิบายว่า ความเจริญที่แท้จริง นั้น ควรเป็นไปในลักษณะไหน และด้วยความเจริญในลักษณะที่ว่านี้นี่เองที่อาจช่วยให้ แผ่นดินอันงดงาม มีโอกาสปรากฏให้เห็นในแต่ละจังหวัด อำเภอ ตำบล โดยไม่ต้องเสียเวลามารวมกระจุกอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้า เมืองอมร เอาเลยก็ยังได้...                


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"