ส่งเทียบเชิญ2พรรคเดินหน้าประเทศไทย


เพิ่มเพื่อน    

 ประลองกำลังวันที่สอง เลือกรองประธานสภาฯ "สุชาติ" เฉือนชนะ "เยาวลักษณ์" นั่งรองฯ คนที่ 1 แบบหายใจรดต้นคอ 248 ต่อ 246 เสียง   "ศุภชัย โพธิ์สุ" จาก ภท.เป็นรอง ปธ.คนที่ 2 เลขาสภาฯ ส่งรายชื่อให้เลขาฯ ครม.นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว "ชวน" เผยหลังโปรดเกล้าฯ จะนัดรองประธานหารือเลือกนายกฯ รองโฆษก พปชร.ฟุ้งสุดท้ายจบที่ "ลุงตู่" เป็นนายกฯ ได้ฤกษ์ 5 โมงเช้าไปเทียบเชิญปชป.ร่วมรัฐบาล บ่าย 3 ไป ภท. "กลุ่มสามมิตร" ดิ้นขอคืนเก้าอี้ รมว.เกษตรฯ จาก ปชป. จ่อปิดทางคนนอกช่วยงานบางกระทรวง 

    ที่ห้องประชุมใหญ่ทีโอที เวลา 09.30 น. วันที่ 26 พฤษภาคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานการประชุมชั่วคราว เพื่อเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และคนที่ 2 หลังวันที่ 25 พ.ค. นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานสภาฯ เอาชนะนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ด้วยคะแนนเสียง 258 ต่อ 235 คะแนน
    ก่อนการประชุม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่สนับสนุนท่านชวนเป็นประธานสภาฯ ต้องถือเป็นเกียรติยศและศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติและพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับการลงคะแนนเสียงที่จะเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 และคนที่ 2 เมื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ยกมือสนับสนุนให้กับท่านชวน ปชป.ก็ต้องยกมือสนับสนุนพปชร.ที่จะเสนอชื่อผู้สมัครเป็นรองประธานสภาฯ เช่นเดียวกัน
    ผู้สื่อข่าวถามว่า คำว่าจะต้องสนับสนุน รวมไปถึงการโหวตนายกฯ ด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า เป็นคนละกรณี เรื่องรัฐบาลยังเป็นเรื่องหนึ่ง ต้องแยกกันออกไป ปชป.เป็นพรรคขนาดกลาง เราไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ทางเลือกก็แค่จะเลือกเป็นฝ่ายค้านหรือเลือกเป็นรัฐบาล ถ้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมีการพูดคุย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ไปถึงขั้นตอนนั้น ต้องเข้าคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาพรรคที่พร้อมจัดตั้งรัฐบาลต้องเทียบเชิญมา ปชป. ได้มอบให้เลขาฯ พรรคเป็นผู้ประสานงานพูดคุยกับเพื่อนพรรคการเมืองด้วยกัน 
     ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพปชร. ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการยอมถอยกับตำแหน่งประธานสภาฯ ทำให้มองว่าควรได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มหรือไม่ ว่า ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในพรรคที่จะพิจารณา ส่วนตัวไม่มีปัญหา ตนพร้อมจะยอมถอยเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าเพื่อประเทศชาติ ส่วน ส.ส.ในสังกัดมี 8 คน จะได้เก้าอี้รัฐมนตรีเท่าใด ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่พิจารณา
    เมื่อถามว่า เมื่อ พปชร.ให้ตำแหน่งประธานสภาฯ กับ ปชป. มองว่า ปชป.ควรตอบแทนอย่างไร นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ใช่การตอบแทน เพราะสิ่งที่ทำคือให้ประเทศชาติเดินหน้า พรรคร่วมรัฐบาลควรให้ความร่วมมือเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีความสับสน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง นายชัยได้เปิดให้มีการหารือ ซึ่งฝั่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) และอนาคตใหม่ (อนค.) เช่น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม, นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี และนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต่างขอหารือถึงประเด็นการเลือกรองประสภาฯ ว่าไม่อยากให้มีปัญหาใช้กลเกมทางการเมืองแบบการเลือกประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาเกิดขึ้นอีก และไม่อยากให้เป็นเหมือนเผด็จการรัฐสภา ที่ตำแหน่งประธานและรองประธานสองคนอยู่กลุ่มเดียวกัน
    ทำให้ ส.ส.พปชร.และ ปชป.ไม่พอใจ จึงเกิดการโต้เถียงกันไปมาในประเด็นเผด็จการรัฐสภา โดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรค ปชป.ประท้วงว่าต้องย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์เหตุการณ์ก่อนการเกิดปฏิวัติครั้งที่ผ่านมา ปัญหาเกิดจากการทำหน้าที่ของประธานสภาฯ ในขณะนั้นไม่มีความเป็นกลาง
"สุชาติ"ชนะแบบเฉียดฉิว
    ต่อมาเวลา 09.45 น. ที่ประชุมเข้าสู่วาระการประชุมการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พปชร. เสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พปชร. ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ เสนอชื่อ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนค. โดยนายชัยให้ใช้วิธีการลงคะแนนลับในคูหา โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนค. ลุกขึ้นขอหารือถึงการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ว่าพรรค อนค.มีการส่ง ส.ส.หญิงโดยคำนึงถึงความเท่าเทียมระหว่างเพศ สตรีสามารถมีบทบาทได้ไม่ใช่เป็นเพียงไม้ประดับ ทำให้นายวีระกรลุกขึ้นกล่าวว่า ในเมื่อจะมีการหาเสียง ตนก็จะกล่าวถึงประวัติของนายสุชาติบ้าง
    ด้าน น.ส.พรรณิการ์จึงลุกขึ้นแล้วเสนอขอให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนลงคะแนนเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 ทำให้ ส.ส.หญิงจากฝั่ง ปชป.และ พปชร.เช่น น.ส.รังสิมาลุกขึ้นตะโกนประท้วง ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างวุ่นวาย จนนายชัยต้องสั่งพักการประชุม 5 นาที ในเวลา 10.10 น. จากนั้นที่ประชุมกลับมาพิจารณาอีกครั้ง นายชัยยืนยันให้มีการลงคะแนนเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยไม่ต้องแสดงวิสัยทัศน์ทัศน์ 
    ภายหลังการลงคะแนน ได้มีการนับคะแนน ส.ส.ทั้ง 2 ขั้วเฝ้าจับตาดูผลการนับคะแนนอย่างใจจดจ่อ เพราะคะแนนสูสีกันมาก จนถึงคะแนนสุดท้าย ผลปรากฏว่านายสุชาติได้ 248 คะแนน ส่วน น.ส.เยาวลักษณ์ได้ 246 คะแนน ห่างกันเพียง 2 คะแนน  ทำให้นายสุชาติได้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยภายหลัง น.ส.เยาวลักษณ์ได้เข้ามาแสดงความดีใจกับนายสุชาติ 
    จากนั้น เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ประชุมมีการเสนอชื่อผู้ที่จะให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2 จำนวน 2 คน คือ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จากการเสนอชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และนพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยนายอารี ไกรนรา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคเพื่อชาติ 
    ช่วงหนึ่งของการนับคะแนน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นทักท้วงกรณีมีสมาชิกบางส่วนได้เดินไปหน้าเวทีนับคะแนนพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอบัตรลงคะแนน ที่บางใบเขียนเฉพาะชื่อ ขณะที่บางใบเขียนทั้งชื่อและนามสกุล โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าบัตรที่ลงคะแนนเป็นของใครหรือไม่ อยากให้ประธานในที่ประชุมได้วินิจฉัยว่าทำได้หรือไม่     
    ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า เป็นการถ่ายภาพเพื่อวางบิลกันหรือไม่ ขอให้ประธานวินิจฉัยว่าการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการประชุมลับหรือไม่
     ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพท. กล่าวว่า การจงใจเขียนชื่อและนามสกุลผิดต้องเป็นบัตรเสีย ซึ่งในบัตรใบแรกมีการระบุชื่อว่า “นายศุภชัย ใจสมุทร” ไม่ใช่ “นายศุภชัย โพธิ์สุ” ตนเชื่อว่า มีความพยายามทำให้การลงมติลับของสมาชิกไม่ลับ เพราะมีการทำสัญลักษณ์บางประการหรือไม่ และหากนับโดยเปิดเผย เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้วขอดูบัตรก่อนทำลายได้หรือไม่
"ศุภชัย โพธิ์สุ"รองฯคนที่ 2
       นายชัย ในฐานะประธานชั่วคราว กล่าวว่า ตอนลงคะแนนคือลับ ส่วนตอนนับคะแนนต้องเปิดเผย และตอนนี้เป็นยุคดิจิทัล จึงไม่ควรถือสากัน ตนขอดำเนินการนับคะแนนต่อให้เสร็จแล้วค่อยว่ากัน จากนั้นการนับคะแนนจึงดำเนินต่อไป และเมื่อนับคะแนนเสร็จปรากฏว่านายศุภชัยได้ 256 คะแนน ส่วนนายประสงค์ได้ 239 คะแนน ทำให้นายศุภชัยได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 2
    หลังจากการนับคะแนนเสร็จสิ้น นพ.ชลน่านได้ลุกขึ้นทักท้วงขอให้ประธานวินิจฉัยบัตรใบแรกที่เขียนชื่อสกุลผิด ว่าตกลงแล้วเป็นบัตรเสียหรือไม่ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการนับคะแนนว่ามีความถูกต้องหรือไม่ ขณะที่นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พปชร. กล่าวว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย อยากให้ผ่านไป เพราะถ้ายกให้ได้สัก 5 คะแนนก็จะยกให้ ทำให้นายมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรค พท. ลุกขึ้นประท้วงโดยระบุว่า อย่าย่ำยีหัวใจกันเกินไป ในสภานี้ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ตนไม่สบายใจที่บอกจะยกคะแนนให้ ขอให้ถอนคำพูดดังกล่าว
     แต่นายชัยกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อบังคับการประชุมที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการนับคะแนนได้ จึงไม่สามารถดำเนินการตามที่ต้องการได้ จากนั้นประธานสั่งปิดการประชุม
     น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ขอแสดงความยินดีกับนายสุชาติที่ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แม้ว่าตนจะไม่ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แต่ถือว่าได้มีส่วนร่วมในการปักหมุดหมายที่สำคัญของหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในการส่งสุภาพสตรีเข้ารับเลือกในตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ในครั้งนี้
    น.ส.พรรณิการ์ วานิช  กล่าวว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ได้เข้ามาทำหน้าที่นี้ พบว่า ส.ส.จำนวนไม่น้อยที่เหยียดเพศ มีพฤติกรรมเหยียดอายุ แม้จะตั้งใจหรือไม่ เราอยากแสดงจุดยืนว่ารัฐสภาเป็นพื้นที่ประชาธิปไตย ดังนั้นพฤติกรรมเหยียดเพศ เหยียดอายุ ขอให้ยุติลงที่นี่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. ได้เดินทางมาให้กำลังใจเพื่อน ส.ส.
อนาคตใหม่ และกล่าวว่า ภูมิใจที่ผู้แทนฯ เราทำหน้าที่ได้คุ้มค่าภาษีประชาชน แม้ทุกคนจะเป็นหน้าใหม่ แม้จะทำงานนอกสภาได้ แต่ก็ยังเฝ้ารอวันที่จะได้อภิปรายสู้ในสมรภูมิสภาร่วมกับผู้แทนฯ ฝั่งประชาธิปไตยทุกคน
    ด้านนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ได้นำรายชื่อไปให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำรายชื่อประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพร้อมกับรายชื่อประธานและรองประธานวุฒิสภาต่อไป    นายชวน หลีกภัย ว่าที่ประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกนายกฯ ว่าจะต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ ก่อน จากนั้นตนและรองประธานสภาฯทั้ง 2 คนจะไปร่วมหารือกันที่สภาใหม่ 
พปชร.ฟุ้ง"ลุงตู่"นอนมา
    ส่วนความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลนั้นก็เป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จบตามที่ประชาชนคาดหวัง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับการสนับสนุนเป็นนายกฯ อีกสมัย ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ และเมื่อมีรัฐบาล นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐเคยประกาศไว้กับประชาชนจะถูกนำไปปฏิบัติทันที
    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวที่กลุ่มสามมิตรไม่พอใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ไม่จัดสรรกระทรวงต่างๆ ให้พรรคร่วมรัฐบาล ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เป็นรัฐบาลมา 5 ปี ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ให้ดูแลด้านความมั่นคงและความสงบ จนบ้านเมืองเกิดความต่อเนื่อง ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวในการจัดตั้งรัฐบาล จึงไม่เป็นความจริง ทำให้ พล.อ.ประวิตรเสียหาย และตอนนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว มีแต่พรรค พปชร. สำหรับการจัดสรรกระทรวงให้พรรคการเมืองต่างๆ เป็นเรื่องที่พรรคจะต้องมีมติออกมา แล้วกรรมการบริหารพรรคจะไปเจรจากับพรรคร่วม
    นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า การเทียบเชิญพรรคการเมืองต่างๆ ให้มาร่วมรัฐบาลนั้น ทางพรรคมีมติให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตนจะไปเข้าพบและหารือกับทั้ง 2 ท่าน เพื่อหารือในรายละเอียดก่อนกำหนดวันที่ชัดเจน สำหรับ พล.อ.ประวิตร จะได้เข้ามาช่วยงานในรัฐบาลใหม่หรือไม่นั้นจะต้องรอดูผลการโหวตเลือกนายกฯ ก่อน เชื่อว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ต่อ ก็จะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการขับเคลื่อนประเทศว่าจะทำงานกับใครบ้างแล้วจะสบายใจ ให้งานเดินไปข้างหน้า และเป็นสิทธิ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะเลือกใครมาร่วมงานด้วย พรรค พปชร.ไม่มีปัญหา 
     นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือถึงการแถลงจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับ พปชร. เนื่องจากการประชุมสภาเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เลิกประชุมดึก ยังไม่ได้รับการติดต่อเป็นทางการจากพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การประสานงานระหว่างกันในเบื้องต้นขณะนี้ทุกอย่างยังถือว่าดี  เท่าที่ดูจากการเลือกประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็คิดว่าดี ทั้งนี้ ต้องให้พรรคที่เป็นแกนนำเป็นผู้นัดหมายและจัดการ ซึ่งเขาอาจยังมีปัญหาอะไรของเขาอยู่ แต่พรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา เราเป็นหนึ่งเดียว และเมื่อได้ตกลงหรือสัญญาอะไรกับใครไว้ ก็ทำตามนั้น รวมถึงเราเลือกที่จะทำงานตามนโยบายที่เราวางเอาไว้ให้สำเร็จ 
    เมื่อถามถึงผลคะแนนการเลือกประธานสภาฯ จะชี้ถึงการแนวทางการลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นเป็นนายกฯ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จากที่เห็นในที่ประชุมสภา คิดว่าบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย เชื่อว่าจะไม่หนีจากรายชื่อเหล่านี้
เทียบเชิญ ปชป.-ภท.
    สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรค พปชร. ยังมีการเจรจาพูดคุยกับพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลต่อเนื่อง แม้จะตกลงกันในเบื้องต้นบ้างแล้ว แต่ยังมีความพยายามที่จะต่อรองในบางกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มองว่าควรจะเป็นโควตาของพรรค พปชร. โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร ที่หวังขับเคลื่อนนโยบายด้านเกษตรของพรรค และต้องการขอคืนจาก ปชป. จึงต้องมาพูดคุยหลังจบการเลือกประธานและรองประธานสภาฯ อีกครั้ง และหลังจากโหวตเลือกนายกฯ จะนำข้อเสนอของแต่ละพรรคมาจัดทำเป็นผังรายชื่อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาร่วมกับแกนนำพรรคร่วม เพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสมมาเป็นรัฐมนตรี ขณะเดียวกันในบางกระทรวงที่ต้องใช้ความสามารถและความชำนาญเฉพาะด้าน อาจมีการพิจารณาบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมีจำนวนไม่มาก โดยนายกฯ จะเป็นผู้พิจารณาเอง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 พ.ค. พรรคพลังประชารัฐเตรียมทาบทามพรรคร่วมรัฐบาล โดยเวลาเวลา 11.00 น. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นำคณะผู้บริหารพรรคไปเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรค ปชป. และ เวลา 15.00 น. เดินทางไปเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย
    ช่วงค่ำ นายอุตตมโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ดร.อุตตม สาวนายน ว่า เดินหน้าประเทศไทย
พรุ่งนี้ (27 พ.ค.) ผมและผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางไปเชิญพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย เพื่อเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล สำหรับการเชิญทั้ง 2 พรรคในครั้งนี้ เพื่อความเป็นเอกภาพในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมที่จะเข้ามาบริหารงานให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ในสถานการณ์เช่นนี้ ที่ต้องดำเนินการคลี่คลายปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างเร่งด่วน ขอยืนยันว่าการรวมตัวของ 3 พรรคการเมือง ผนวกกับพรรคอื่นๆ ในครั้งนี้ คือภาพของการรวมตัวเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง สร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น
     วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Sudarat Keyuraphan พร้อมแชร์ภาพวาดการจูบปากระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่า วันนี้พรรคเก่าแก่ที่เคยเป็น #ประชาธิปไตยได้กลายพันธุ์ ไปผสมกับเผด็จการเรียบร้อยแล้ว? อำนาจมันหอมหวน จนทำให้บางพรรคยอม #ตระบัดสัตย์ ที่ให้ไว้ต่อประชาชน? แต่ประชาชนจำแม่นนะคะ? “ส่วนพวกเราจะไม่ #ทรยศประชาชน อย่างเด็ดขาดค่ะ” 
    ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวกรณีคุณหญิงสุดารัตน์โพสต์กล่าวหาว่าพรรคเก่าแก่ไปผสมรวมกับเผด็จการว่า หากหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ นั่นถือว่าบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะการเลือกประธานสภาฯ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับทุกประการ ไม่ว่าเสียงที่ได้มาจากหลายฝ่ายหรือได้จากงูเห่า การกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ตระบัตสัตย์และผสมพันธุ์กับเผด็จการ ถือเป็นการดูถูกเสียง ส.ส. เพราะเชื่อว่าทุกเสียงที่เลือกนายชวน เพราะมีความศรัทธา และหวังให้เป็นหลักให้ฝ่ายนิติบัญญัติ
    นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คุณหญิงกล่าวหาพรรค ปชป.และอดีตหัวหน้าพรรค ปชป.อย่างไม่เป็นธรรม ด้วยถ้อยคำและภาพที่ไม่เหมาะสม ไม่สุภาพและขาดสปิริต คุณหญิงควรแสดงความยินดีกับคุณชวน หลีกภัย ที่ชนะการโหวตในสภา และเคารพดุลยพินิจและการใช้สิทธิเลือกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติของ ส.ส. มากกว่าการกล่าวหาใส่ร้ายแบบการเมืองเก่าๆ ควรเคารพและให้เกียรติการตัดสินใจของพรรคการเมืองทุกพรรค แม้จะมีจุดยืนและความคิดไม่เหมือนกัน เพราะนักประชาธิปไตยต้องเคารพความแตกต่างทางอุดมการณ์ มิฉะนั้นจะเป็นนักประชาธิปไตยที่ดีได้อย่างไร 
    "พรรค ปชป.ยังยึดมั่นจุดยืนประชาธิปไตยโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก มากกว่าประโยชน์ของตนเอง และพร้อมจะเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่ใช่การหลงในอำนาจและผลประโยชน์ดังที่คุณหญิงกล่าวหา ซึ่งพิสูจน์มาแล้วตลอด 73 ปีที่ผ่านมา และไม่เคยทรยศประชาชน" นายอลงกรณ์กล่าว.  
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"