เจ็บร่วมร้อยคน ไฟไหม้ตู้สินค้า! แหลมฉบังป่วน


เพิ่มเพื่อน    

 อีกแล้ว! ไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสารเคมีโซเดียมไซยาไนด์คาเรือขนส่งสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง บาดเจ็บร่วมร้อย กันคนออกจากพื้นที่รัศมี 1.5 กม. ขณะที่ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยมาแปลก อ้างพบว่าไม่มีการแจ้งว่ามีตู้บรรจุสินค้าอันตรายมาในเรือ 

    เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่  25 พฤษภาคม ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชาได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ตู้สินค้าบนเรือสินค้าที่บริเวณท่าเรือยูนิไท และมีสารเคมีกระจัดกระจายฟุ้งไปทั่ว ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครแหลมฉบังและของการท่าเรือแหลมฉบังได้สั่งอพยพประชาชนไปไว้ในที่ปลอดภัย และได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวนหลายราย
    ต่อมาทราบว่าเรือสินค้าบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุสารเคมีโซเดียมไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารพิษและสารติดเชื้อประเภทที่ 6 และมีฤทธิ์คือ กิน สูดดม หรือสัมผัสทางผิวหนังเข้าไปอาจทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บอย่างรุนแรง ได้เกิดไฟไหม้บนเรือที่ท่าเรือ A2 ภายในท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลนครแหลมฉบังและท่าเรือแหลมฉบัง จำนวนหลายรายรุดเข้าไปใช้โฟมและน้ำฉีดสกัดกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถสกัดกั้นเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามขึ้นมาได้อีก
    ยังพบว่ามีคนงานทำงานกันอยู่ ต่างหนีตายกันอลวน แต่มีคนงานที่ถูกสะเก็ดของสารนี้ที่ระเบิดเปลวมาถูกเข้าที่ร่างกาย แขนขา มีอาการปวดแสบปวดร้อนต้องนำส่ง รพ.ต่างๆ จำนวน 8 รพ.ของ อ.ศรีราชา อาทิ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา, รพ.แหลมฉบัง, รพ.วิภาราม, รพ.สมิติเวชศรีราชา, รพ.อ่าวอุดม ซึ่งทางแพทย์พบว่าไม่มีอาการรุนแรงถึงแก่ชีวิต เพียงแต่ต้องทำการล้างบาดแผลและปฐมพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บที่สะเก็ดของสารมาถูกตามผิวหนังและใบหน้า ได้รับความปวดแสบปวดร้อนเท่านั้น
    นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครแหลมฉบังพร้อมสำนักงานท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง ได้ประกาศห้ามเตือนไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในระยะ 1.5 กม. พร้อมทั้งตั้งจุดห้ามเข้าโดยเด็ดขาด
     ยังพบว่าสารเคมีหลังถูกการลุกไหม้จะปล่อยก๊าซพิษออกมา ทำให้เป็นอันตรายกับผู้ได้สูดดมเข้าไปเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่ร่างกายรับได้ก็อาจจะเสียชีวิต และยังหลอมรวมเป็นก้อนกระเด็นไปใส่รถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่จนได้รับความเสียหาย ทั้งบุบและกระจกแตกอีกด้วย
    เทศบาลนครแหลมฉบังเร่งอพยพประชากรของชุมชนบ้านนา อ.ศรีราชา ซึ่งอยู่ในรัศมีที่อาจได้รับผลกระทบจากสารพิษออกจากพื้นที่ไปไว้ที่ศาลาประชาคมอ่าวอุดม ห่างจากที่เกิดเหตุ 4 กม. เพื่อความปลอดภัย 
    ด้านเรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากผลการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการตู้สินค้าที่บรรทุกมากับเรือหลังเกิดเหตุไฟไหม้บริเวณท่าเทียบเรือ A2 ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พบว่าไม่มีการแจ้งว่ามีตู้บรรจุสินค้าอันตรายมาในเรือ KMTC Hongkong
    อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าตู้สินค้าที่เกิดเพลิงไหม้ไม่ใช่ตู้สารเคมี เนื่องจากตามมาตรการด้านความปลอดภัยของ กทท. หากมีตู้บรรจุสารเคมีมาเทียบท่าจะต้องดำเนินการขนถ่ายไปยังคลังสินค้าอันตรายทันที
     พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการสอบถามพยาน  พบว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกสินค้าฮ่องกง  สัญชาติเกาหลี บรรทุกสินค้าทั่วไป ออกจากท่าเทียบเรือเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เข้ามาจอดเทียบยังท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 24 พ.ค.62 ต่อมาเกิดเหตุระเบิดขึ้น ทำให้คนงานที่อยู่ข้างนอกเรือได้รับบาดเจ็บจากเศษวัตถุสินค้าที่กระเด็นออกมา ประมาณ 20 คน ขณะเดียวกัน ตรวจสอบผังการวางตู้คอนเทนเนอร์บนเรือ ทราบว่าโซนตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่ระเบิดไม่ใช่สินค้าที่เป็นวัตถุอันตรายแต่อย่างใด
         รองโฆษก ตร.เผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างควบคุมเพลิงไหม้ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เนื่องจากเพลิงไหม้ได้ลุกลามไปยังตู้สินค้าอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังพยายามควบคุมเพลิงไหม้กันอย่างเต็มที่ และขอความกรุณาประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางในบริเวณดังกล่าว โดยหากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เทศบาลนครแหลมฉบังได้ตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียนของผู้ที่ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือส่งสินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบังแล้ว 2 จุด ได้แก่ ที่วัดบ้านนา และ ที่เทศบาลนครแหลมฉบัง โดยพบว่ามีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาลงทะเบียนพร้อมหลักฐาน เช่นภาพถ่ายรถที่ได้รับความเสียหาย
         รวมทั้งพบว่ามีประชาชนที่ถูกผลกระทบจากกลิ่น จากฝุ่นละอองจากอากาศ โดยมีอาการแสบตา แสบผิวหนัง วิงเวียนศีรษะ บางรายมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจะนำส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลทันที
          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้แจ้งว่า ถ้าผู้ประสบเหตุท่านใดถูกผลกระทบในครั้งนี้ ควรรีบอาบน้ำด้วยน้ำสะอาด หาเสื้อคลุมแขนยาวใส่เพื่อป้องกันอันตราย
          มีรายงานจากศูนย์สั่งการกู้ชีพชลบุรีว่า มีผู้ได้รับผลกระทบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา, รพ.สมิติเวช ศรีราชา, รพ.พญาไทศรีราชา, รพ.แหลมฉบัง รพ.วิภาราม แล้วจำนวนประมาณ 80 ราย
    กรมควบคุมมลพิษ พร้อมสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 และสำนักงานทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และ ปภ.ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ ท่าเรือแหลมฉบัง พบว่าขณะตรวจสอบควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังมีเขม่าควันค่อนข้างมาก เนื่องจากมีตู้คอนเทนเนอร์หลายร้อยใบที่ถูกเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงฉีดน้ำเลี้ยงอยู่ และจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในเบื้องต้น พบว่ามีค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs) อยู่ในช่วง1.2-2.4 ppm ค่าสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) อยู่ในช่วง 0.92-1.96 ppm ซึ่งมีค่าเกินกว่าค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน ระดับที่ 1 กำหนดค่า 0.9 ppm ซึ่งเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนังอักเสบ และระคายเคืองตา 
    ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก อำเภอศรีราชาได้สั่งการให้อพยพประชาชนที่อยู่ใต้ลมไปยังจุดที่ปลอดภัย และ คพ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนที่ได้รับผลกระทบด้วยแล้ว หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
    สำหรับสาร VOCs ย่อมาจาก Volatile Organic Compounds คือ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ส่วนใหญ่มักใช้เป็นสารประกอบและสารตัวทำละลายในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ส่วนสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นก๊าซไม่มีสี จัดเป็นพิษที่ปนเปื้อนในอากาศที่เป็นปัญหาสุขภาพของมนุษย์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยทั่วไปสารชนิดนี้นิยมใช้ในอุตสาหกรรมสี กาว และสารเคลือบเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้อัด และไม้แปรรูปอื่นๆ หรือเกิดจากการเผาไหม้
    พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับรายงานเหตุไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ โดยได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทยไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือควบคุมเพลิงเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบถึงข้อเท็จจริงและข้อควรปฏิบัติที่ถูกต้อง พร้อมทั้งเร่งหาสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยเร็ว
    เบื้องต้นทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรีได้อพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นการชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว 
    พล.ท.วีรชนกล่าวว่า ส่วนโรงพยาบาลโดยรอบก็เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน สำหรับข้อแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ หากไม่จำเป็นไม่ควรออกจากบ้าน ให้รอการแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ และหากมีข้อสงสัยว่าตนเองมีอาการผิดปกติจากการสูดดมควันไฟ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"